ศรีสะเกษ - ชาวบ้าน 2 อำเภอศรีสะเกษยืนยันค้านผนวกป่า 28,000 ไร่เข้าเป็นเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าห้วยศาลา ผวาผลกระทบถูกขับไล่ออกจากที่ดินทำกิน ด้าน ส.ส.ศรีสะเกษเข้ารับฟังข้อเท็จจริงด้วยตนเอง ขณะปลัด อบต.ไพรพัฒนาเผยมีการแอบอ้างว่า สภา อบต.ไพรพัฒนามีมติเห็นชอบผนวกป่าทั้งที่ไม่เป็นความจริง
วันนี้ (15 ธ.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ศาลาประชาธิปไตย อบต.ไพรพัฒนา อ.ภูสิงห์ จ.ศรีสะเกษ นายสรศิริ จันดีบุตร ปลัดอำเภอภูสิงห์ จ.ศรีสะเกษ ได้เดินทางมาเป็นประธานในการประชุมเพื่อรับทราบข้อเท็จจริง และรับฟังความคิดเห็นของประชาชน เรื่อง การประกาศพื้นที่เตรียมการกำหนดเป็นเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าห้วยศาลา ตาม พ.ร.บ.สงวนและคุ้มครองป่า พ.ศ. 2562 (ครั้งที่ 2) ซึ่ง สิบเอก ธีรยุทธ มณีโชติ ปลัด อบต.ไพรพัฒนา ปฏิบัติหน้าที่นายก อบต.ไพรพัฒนา ได้จัดการประชุมในครั้งนี้ขึ้น
โดยมี นายธีระ ไตรสรณกุล ส.ส.ศรีสะเกษ เขต 5 พรรคเพื่อไทย และคณะกรรมาธิการความมั่นคงแห่งรัฐ กิจการชายแดน ยุทธศาสตร์ชาติ และการปฏิรูปประเทศ สภาผู้แทนราษฎร พร้อมด้วย นายสาธิต พันธุมาศ หัวหน้าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าห้วยศาลา นายบุญมี เสนคราม กำนัน ต.ไพรพัฒนา น.ส.จันทรา คำเสน ผู้แทนการค้า ส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง มาเข้าร่วมประชุมด้วย และมีผู้นำหมู่บ้านในเขต อ.ขุนหาญ อ.ภูสิงห์ ตัวแทนชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบมาเข้าร่วมประชุมในครั้งนี้ ซึ่งชาวบ้าน 2 อำเภอต่างไม่เห็นด้วยที่จะให้ผนวกป่าเป็นเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าห้วยศาลา
นายวีรสิทธิ์ นรสิงห์ ผู้ใหญ่บ้านแซรไปร หมู่ 8 ต.ไพรพัฒนา อ.ภูสิงห์ กล่าวว่า หากทางราชการมีความจริงจังจริงใจที่จะแก้ปัญหาก็ควรที่จะออกเอกสารสิทธิให้ชาวบ้านไป ส่วนป่าชาวบ้านไม่ขอหรอก ถ้าเป็นพื้นที่ป่าชาวบ้านก็จะช่วยกันดูแล ขอไว้ใช้เพื่อเป็นอาหารให้แก่ชุมชนเป็นยารักษาโรค ไม่มีชาวบ้านคนไหนที่จะขอให้ออกเอกสารสิทธิป่าเป็นของตนเอง แต่ที่เรายืนยันเรากังวลคัดค้านมาตลอดคือในเมื่อมันเป็นพื้นที่ของชาวบ้าน ถ้าทางราชการเข้ามาแก้ปัญหาอย่างจริงจังจริงใจ การผนวกผืนป่าเข้าเป็นป่าอนุรักษ์ก็เข้าใจว่าจะเอาป่าที่เป็นพื้นที่ป่าจริงๆ แต่คำว่าพื้นที่ป่าจริงๆ ของทางราชการวันหนึ่งวันใด ทางราชการอาจจะมาไล่ชาวบ้านที่ทำมาหากินอยู่ โดยบอกว่ามันอยู่ในพื้นที่ป่าอนุรักษ์ทั้งๆ ที่ชาวบ้านทำกินอยู่ตลอด
นายทวีศักดิ์ มะลิซ้อน อดีตนายก อบต.ไพรพัฒนา กล่าวว่า จากการที่ได้รับฟังเรื่องนี้มา 2 ชั่วโมงแล้วถามว่าสบายใจไหม ตนไม่สบายใจเลยกับเรื่องที่เกิดขึ้นกับ ต.ไพรพัฒนาของเรา ขอพูดเต็มปากเต็มคำตรงๆ เลยว่าไม่เห็นด้วยที่จะไปผนวกเขตอุทยานแห่งชาติในพื้นที่ตรงนี้ หลายๆ คนเป็นห่วงว่าแล้วอนาคตของ ต.ไพรพัฒนาเราจะเป็นอย่างไร หลายคนมองเห็นความเจริญ หวังเห็นความก้าวหน้า แต่ขณะเดียวกันรัฐมาบีบคั้นแบบนี้ ความก้าวหน้าความเจริญของ ต.ไพรพัฒนา ซึ่งเป็นประตูไปสู่ช่องสะงำจะอยู่ตรงไหน
นายสมปอง มณฑก นายช่าง อบต.ห้วยจันทร์ อ.ขุนหาญ กล่าวว่า ไม่เห็นด้วยกับการผนวกป่าเพราะว่าขั้นตอนการดำเนินการของส่วนราชการที่เกี่ยวข้องไม่ถูกต้อง เราได้คัดค้านในที่ประชุมสภา อบต.ห้วยจันทร์ถึง 2 ครั้งแล้ว ที่เราคัดค้านคือ คัดค้านเรื่องแนวเขต เพราะไม่ได้นำเอาแนวเขตมาอธิบายให้ที่ประชุมสภา อบต.ห้วยจันทร์ได้รับทราบ ซึ่งทางเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าห้วยศาลาบอกว่าถ้าเป็นป่าที่สมบูรณ์เราก็จะให้ เราไม่ได้หวงพื้นที่เอาไว้เพื่อให้เป็นเขตของท่าน แต่เรามีความห่วงใยที่ว่าไม่ได้มาประสานงานที่ถูกต้อง ไม่ได้ร่วมกับท้องถิ่นหรือว่าผู้มีอำนาจหน้าที่ในท้องที่ในการให้ความร่วมมือเพื่อจะได้มีการประสานงานกัน และที่สำคัญ ชาวบ้านในเขต ต.ห้วยจันทร์ไม่เห็นด้วยที่จะให้มีการผนวกป่าเป็นเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าห้วยศาลา
นายพสิษฐ์ จันทรเภา สมาชิกสภาเทศบาล ต.กันทรอม อ.ขุนหาญ จ.ศรีสะเกษ กล่าวว่า ที่สำคัญคือ เมื่อยังไม่มีมติหรือว่ามติยังไม่ชัดเจนทำไมถึงยังมีการขีดแนวเขตได้ เพราะสภาเทศบาล หรือว่าท้องที่ท้องถิ่นยังไม่ชัดเจนเรื่องแผนที่แต่ทำไมมีการขีดแนวเขตมาได้ อันนี้เป็นคำถามที่ต้องถามต่อนายสาธิต พันธุมาศ แต่ต้องขอบคุณที่ทำหนังสือลงมาถึงผู้ใหญ่บ้านในเขต ต.กันทรอมทุกหมู่บ้าน เราตีความจากหนังสือเพื่อขอข้อเท็จจริงให้กำนัน ผู้ใหญ่บ้านในเขต ต.กันทรอม ทราบ
สิบเอก ธีรยุทธ มณีโชติ ปลัด อบต.ไพรพัฒนา กล่าวว่า ในการประชุมสภา อบต.ไพรพัฒนา เมื่อวันที่ 7 ส.ค. 60 ที่ผ่านมา ได้มีหัวหน้าส่วนราชการแห่งหนึ่งเข้ามาร่วมประชุมด้วย โดยหัวหน้าส่วนราชการคนดังกล่าวได้แจ้งในที่ประชุมว่ามาขอแนะนำตนเองว่ามารับราชการปฏิบัติหน้าที่ใหม่แทนคนเดิมที่ย้ายไป พร้อมทั้งแจ้งให้ทราบถึงภารกิจของหน่วยงานที่จะต้องดำเนินการตามนโยบายของหน่วยเหนือ แต่ปรากฏว่าได้มีการแอบอ้างว่าการประชุมสภา อบต.ไพรพัฒนาดังกล่าวได้มีมติเห็นชอบในการผนวกป่าเข้าเป็นเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าห้วยศาลา ซึ่งไม่เป็นความจริงแต่อย่างใด ตนในฐานะเลขานุการสภา อบต.ไพรพัฒนา ได้ตรวจสอบบันทึกการประชุมดังกล่าวแล้ว ไม่พบว่ามีมติเกี่ยวกับเรื่องการผนวกป่าแต่อย่างใด จึงขอฝากถึงส่วนราชการที่เกี่ยวข้องได้ตรวจข้อเท็จจริงเกี่ยวกับเรื่องนี้ด้วยว่าเป็นการรายงานเท็จต่อผู้บังคับบัญชาหรือไม่อย่างไร
นายสาธิต พันธุมาศ หัวหน้าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าห้วยศาลา กล่าวว่า เป็นเรื่องที่ดีที่ ส.ส.ธีระ ไตรสรณกุล ได้ให้โอกาสทางเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าห้วยศาลาได้มาชี้แจงข้อเท็จจริงกับพี่น้องประชาชนโดยเฉพาะอย่างยิ่ง ต.ไพรพัฒนา ต.กันทรอม ต.ห้วยจันทร์ ที่อยู่ในที่ที่เราจะมีการผนวกเข้าเป็นป่าพื้นที่อนุรักษ์นี้เพิ่มเติมขึ้นมา เราจะต้องพยายามชี้แจงต่อชาวบ้านให้เข้าใจในเรื่องของการอนุรักษ์ป่า แต่เราไม่ได้เอาที่ดินของราษฎรมาผนวกเข้าเป็นพื้นที่ป่าอนุรักษ์ เราเอาป่าธรรมชาติและป่าที่สมบูรณ์จริงๆ และเชื่อมต่อพื้นที่ป่าเดิมขยายออกมา ซึ่งเป็นยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี ในการเพิ่มพื้นที่ป่าให้ได้ 25% ซึ่งเนื้อที่ที่จะผนวกเข้าไปนี้มีจำนวนทั้งสิ้น 18 แปลง เนื้อที่ 28,533.32 ไร่
ส่วนการที่ประชาชนไม่เห็นด้วยในส่วนนี้นั้นเป็นหน้าที่ของตนที่จะต้องนำเสนอข้อมูลต่างๆ ขึ้นไปยังหน่วยเหนือเพื่อให้รับทราบว่าเหตุผลที่ชาวบ้านไม่เห็นด้วยในการผนวกป่าเพราะอะไร สุดท้ายเราจะต้องช่วยกันรักษาป่าเพราะป่าเป็นของคนทุกคน
นายธีระ ไตรสรณกุล ส.ส.ศรีสะเกษ เขต 5 พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ทางเจ้าหน้าที่ปฏิบัติตามกฎหมายมีหน้าที่ที่จะต้องดำเนินการตามที่กฎหมายกำหนดไว้ ตนเชื่อว่ามีทางออกและเราคงไม่ได้มาทะเลาะกัน ซึ่งสรุปในวันนี้คือ ให้เจ้าหน้าที่ร่วมกับพี่น้องประชาชนไปเดินดูแปลงป่าต่างๆ ว่าแปลงนี้กระทบชาวบ้านหรือไม่ ถ้าไม่กระทบก็สามารถเลื่อนเขตได้ทำเป็นป่าไป ตนคิดว่าน่าจะเป็นทางออกร่วมกันที่ดี ส่วนเรื่องมติสภา อบต.นั้น ทางเขตห้วยศาลาจะต้องขอมติกับทาง อบต.ใหม่อีกครั้ง เพื่อรับฟังความคิดเห็นของประชาชนโดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้นำชุมชนต่างๆ ว่าเห็นด้วยหรือไม่เห็นด้วย เพราะขณะนี้ยังไม่ได้ถึงขั้นตอนของการที่จะต้องประกาศเป็นกฎกระทรวงออกมา ถ้าประกาศออกมาจะแก้ไขลำบาก ตอนนี้ยังแก้ไขได้อยู่
ในฐานะที่ตนเป็นตัวแทนของฝ่ายประชาชนคงจะต้องเข้าข้างฝ่ายประชาชนจะไปเข้าข้างทางฝ่ายเจ้าหน้าที่ไม่ได้ แต่จะต้องรับฟังเหตุผลต่างๆ ทั้งของฝ่ายเจ้าหน้าที่และฝ่ายประชาชนเพื่อที่เราจะไปด้วยกันได้ อยู่ด้วยกันได้ บ้านเมืองเรามันขัดแย้งกันเรื่องอุดมการณ์ไปมากแล้ว ขอให้เอาเรื่องความเป็นจริงมาว่ากันเราจะอยู่กันอย่างไรต่อไป