xs
xsm
sm
md
lg

ลูกค้าบ้านจัดสรรที่อุบลฯ เดือดร้อนหนัก! ผู้รับเหมาทิ้งงานดับฝันคนอยากมีบ้านหลังแรก

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



อุบลราชธานี - ผู้รับเหมาเมืองอุบลทิ้งงานโครงการบ้านจัดสรรหลังเบิกเงินธนาคารหลังละเกือบล้าน พร้อมเบี้ยวจ่ายค่าจ้างแรงงานช่างก่อสร้าง ลูกค้าซื้อบ้านที่เป็นผู้เสียหายวอนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องช่วยเหลือด้วย เพราะเป็นความฝันคนอยากมีบ้านหลังแรกแต่กลับถูกทำลายทิ้งอย่างไร้เยื่อใย


กลุ่มผู้เสียหายจากโครงการบ้านจัดสรรแห่งหนึ่ง ตั้งอยู่ตำบลแสนสุข อ.วารินชำราบ จ.อุบลราชธานี ได้พาสื่อมวลชนดูพื้นที่ก่อสร้างภายในโครงการที่ถูกผู้รับเหมาเจ้าของโครงการทิ้งงานก่อสร้าง หลังตกลงซื้อที่ดินและว่าจ้างให้สร้างบ้านบนเนื้อที่ประมาณ 60 ตารางวา ราคาตั้งแต่ 1.1-1.3 ล้านบาท

แต่เมื่อครบสัญญาการก่อสร้างบ้านกลับไม่แล้วเสร็จ และมีการเบิกจ่ายเงินไปเกินกว่าปริมาณงานที่ทำไว้ ทำให้ได้รับความเดือดร้อน เพราะต้องชำระเงินกู้สร้างบ้านกับธนาคารแต่กลับยังเข้าอยู่อาศัยในบ้านไม่ได้ จึงได้ร้องเรียนไปตามหน่วยงานต่างๆ แต่ได้รับคำตอบว่าเป็นเรื่องการผิดสัญญาที่ผู้เสียหายต้องฟ้องร้องผู้รับเหมากันเอาเอง

น.ส.พัทธนันท์ ศรีทองธรรม และ น.ส.วิลันดา นานอก ตัวแทนผู้เสียหายเล่าเหตุการณ์ให้ฟังว่า พวกตนจำนวน 7 คนได้ตัดสินใจมาซื้อที่ดินและสร้างบ้านกับทางโครงการ โดยเจ้าของโครงการชื่อ นายลอย (นามสมมติ) ได้พากันเดินเรื่องขอเงินกู้สร้างบ้านกับทางธนาคารเป็นที่เรียบร้อย และได้เริ่มลงมือก่อสร้างเมื่อประมาณต้นปีที่ผ่านมา

เมื่อการก่อสร้างผ่านไประยะหนึ่ง บริษัทประเมินเข้ามาตรวจสอบปริมาณงาน ก็มีการเบิกจ่ายเงินงวดแรกให้เจ้าของบ้านนำไปจ่ายให้เจ้าของโครงการประมาณ 4 แสนบาทเศษ แต่ผ่านไปไม่นานบริษัทประเมินก็ได้เข้ามาตรวจสอบปริมาณงาน พร้อมให้ธนาคารจ่ายเงินงวดที่ 2 ให้เจ้าของบ้านนำเงินไปจ่ายให้เจ้าของโครงการอีกประมาณรายละ 5 แสนบาท

รวมเป็นเงินที่เจ้าของบ้านจ่ายให้เจ้าของโครงการไป 8-9 แสนบาท แต่ขณะนั้นบ้านก่อสร้างได้ราว 50% ของเนื้องานทั้งหมด


หลังจากนั้นเจ้าของโครงการก็เริ่มมีปัญหากับช่างและคนงานก่อสร้างเพราะไม่จ่ายเงินให้ช่างที่มาก่อสร้างบ้าน รวมทั้งไม่มีการสั่งวัสดุให้ทำงานต่อ เมื่อเจ้าของบ้านเข้ามาสอบถามเจ้าของโครงการถึงสาเหตุที่หยุดไม่ทำการก่อสร้างต่อก็บ่ายเบี่ยงไม่ยอมมาพบ เมื่อตามไปหาที่บ้านก็หลบหน้า ปล่อยสุนัขออกมาไล่ผู้เสียหาย

เมื่อแน่ชัดแล้วว่าเจ้าของโครงการไม่ยอมสร้างบ้านต่อจนเสร็จตามสัญญา ก็ได้ไปร้องเรียนที่ศูนย์ดำรงธรรม พร้อมไปแจ้งความต่อตำรวจ แต่ก็ได้รับแจ้งว่าเป็นเรื่องการผิดสัญญาระหว่างเจ้าของบ้านกับผู้รับจ้าง ต้องไปฟ้องร้องกันเอาเอง เมื่อแจ้งไปยังธนาคารก็ได้รับแจ้งว่าพยายามติดต่อนายลอย เจ้าของโครงการมาพูดคุยกับผู้เสียหายก็ไม่ยอมมาพบ ธนาคารจึงสั่งหยุดการทำนิติกรรมใดๆ ที่นายลอยมีกับธนาคารไว้ทั้งหมด จนกว่าปัญหานี้จะได้รับการแก้ไข

ขณะนี้ผู้เสียหายทั้ง 7 รายทำได้เพียงขอให้ธนาคารขยายเวลาของสัญญาจากเดิมที่จะครบสัญญาต้องทำบ้านให้แล้วเสร็จช่วงเดือนตุลาคมถึงพฤศจิกายนปีนี้ ไปถึงเดือนมกราคมปีหน้า ซึ่งเจ้าของบ้านบางคนที่พอมีกำลังก็ได้ไปกู้ยืนเงินนอกมาจ้างช่างชุดใหม่ข้ามาทำงานต่อ เพื่อให้งานก่อสร้างบ้านได้ปริมาณงานตามที่ธนาคารกำหนดแล้วขอเบิกเงินค่าสร้างบ้านงวดสุดท้าย

แต่ผู้เสียหายอีก 6 รายไม่มีกำลังทรัพย์เพราะมีภาระต้องจ่ายเงินค่างวดบ้านให้แก่ธนาคาร จึงไม่สามารถไปกู้ยืมเงินนอกโครงการมาจ้างช่างมาทำงานต่อในส่วนที่ยังไม่ถึงเกณฑ์ จึงได้รับความเดือดร้อนอย่างมาก เพราะนอกจากต้องจ่ายเงินค่างวดบ้านให้ธนาคารทุกเดือนแล้ว ถ้าบ้านสร้างไม่เสร็จ ก็เท่ากับผิดสัญญากับทางธนาคาร ก็ไม่มีบ้านอยู่ แต่ต้องมีหนี้กับธนาคารไปนานถึง 30 ปี

จึงอยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้งสำนักงานคุ้มครองผู้บริโภคจังหวัดอุบลราชธานี หรือสำนักงานใหญ่ของธนาคารมาตรวจสอบให้ความเป็นธรรมแก่กลุ่มผู้เสียหายที่ตกเป็นเหยื่อของเจ้าของโครงการที่ทิ้งงาน


นอกจากเจ้าของบ้านที่ได้รับความเสียหายจากการทิ้งงานของผู้รับเหมารายนี้ คนงานที่เป็นลูกจ้างก็ได้รับความเดือดร้อนเช่นกัน โดยนางสาวจารุวรรณ จันกว้าง อายุ 25 ปี คนงานของโครงการที่ยังพักอาศัยอยู่ในหมู่บ้านจัดสรรเพื่อรอเงินที่เจ้าของโครงการค้างค่าแรงเล่าว่า ช่วงแรกของการก่อสร้างมีช่างเข้ามาทำงานประมาณ 3 ชุด

แต่ต่อมานายลอย เจ้าของโครงการค้างค่าแรงคนงานมาต่อเนื่อง จนมีการไปฟ้องร้องกับทางแรงงานจังหวัดเข้ามาตรวจสอบ แต่เจ้าของโครงการก็ยังไม่ยอมจ่ายเงินค่าแรงที่ค้างไว้ จนมีการฟ้องร้องเรียกค่าแรง และหยุดทำงาน ซึ่งปัญหาเกิดขึ้นตั้งแต่ช่วงก่อนเข้าพรรษามาแล้ว ส่วนตนก็ยังอาศัยอยู่ที่นี่เพื่อรอเงินค่าแรงที่นายลอยยังค้างอยู่ แต่ถ้าไม่ได้จริงๆ ก็ต้องไปหางานทำที่อื่นต่อไป


ขณะที่นายสาคร ธานี อายุ 29 ปี ผู้รับเหมาถมดินให้โครงการก็เป็นอีกหนึ่งผู้เสียหายที่นายลอยยังค้างค่าดินที่นำมาถมเพิ่มเติมในโครงการกล่าวว่า ขณะตนเอาดินมาถมบ้านที่อยู่ใกล้กับโครงการ ก็ได้รับการว่าจ้างจากนายลอยให้นำดินมาถมเพิ่มให้ประมาณ 30 คันรถ ตอนแรกตนนึกว่าเป็นเจ้าของโครงการเดียวกับบ้านที่ตนนำดินมาถมให้ แต่หลังนำดินมาถมให้ก็ถูกเบี้ยวไม่จ่ายค่าดิน ตนต้องติดตามทวงถามหลายครั้งก็ได้เงินมาส่วนหนึ่ง และยังค้างค่าดินอีกส่วนหนึ่ง เมื่อโทรศัพท์ไปติดตามตอนหลังก็ติดต่อไม่ได้แล้ว


ล่าสุดผู้เสียหายไปเจอกับภรรยาของนายลอย ขณะพาลูกค้ารายใหม่จะไปทำสัญญาสร้างบ้านหลังใหม่กับทางธนาคาร จึงได้มีการทวงถามที่ไม่ทำงานต่อให้แล้วเสร็จต่อหน้าลูกค้ารายใหม่ที่กำลังจะตกเป็นเหยื่อ ทำให้ภรรยาของนายลอยรีบเดินหนีออกไปจากธนาคารโดยไม่ยอมพูดจากับกลุ่มผู้เสียหาย ทำให้ยังไม่สามารถตกลงกันได้ และถือเป็นโชคดีของลูกค้ารายใหม่ที่มาพบเหตุการณ์ขณะกำลังจะมาทำสัญญาจ้างให้นายลอยสร้างบ้านโครงการที่เหลือ จึงยกเลิกความตั้งใจที่จะมาซื้อบ้านในโครงการของนายลอยไปด้วย


กำลังโหลดความคิดเห็น