xs
xsm
sm
md
lg

ร้องผู้ว่าฯ พิษณุโลกสอบ “ธนาคารหมู่บ้าน” ชี้ชวนคนฝาก สุดท้ายอ้างไม่มีเงิน-ถอนไม่ได้ แต่แกนนำซื้อบ้านหรู-ขี่เบนซ์

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



พิษณุโลก - ชาวนครไทยร้องผู้ว่าฯ สอบ “ธนาคารหมู่บ้าน” ส่อฉ้อโกงประชาชนนับ 100 ล้าน ชี้ชวนคนฝากเงินแลกดอกเบี้ยสูง แรกๆ จ่ายครบ ก่อนลดดอกฯ เปลี่ยนเงินฝากเป็นหุ้น แถมปีนี้ไม่มีปันผล ชาวบ้านถอน-ปิดบัญชีไม่ได้ อ้างไม่มีเงิน แต่แกนนำขี่เบนซ์-ซื้อที่/บ้านหรู


ชาวบ้านใน อ.นครไทย จ.พิษณุโลก ได้รวมตัวกันรวบรวมหลักฐานบัญชีเงินฝากทำเรื่องร้องเรียนถึงผู้ว่าราชการจังหวัดพิษณุโลก ระบุว่าเครือข่ายธนาคารหมู่บ้านฉ้อโกงประชาชน ต.นาบัว และใกล้เคียง

กลุ่มชาวบ้านระบุข้อความในหนังสือว่า ธนาคารหมู่บ้านตามแนวพระราชดำริเครือข่ายอำเภอนครไทยได้ชักชวนประชาชนในตำบลนาบัวและตำบลใกล้เคียง นำเงินไปฝากกับธนาคารหมู่บ้านที่ได้ตั้งขึ้น ซึ่งมีชาวบ้านนำเงินไปฝากคนละ 50,000 บาท 100,000 บาท 300,000 บาท 500,000 บาท 1,000,000 บาท 2,000,000 บาท บางรายมีถึง 3,000,000 บาท

เพราะให้ดอกเบี้ยสูงกว่าธนาคารของรัฐหลายเท่า ครบกำหนดสิ้นปีทางธนาคารฯ จะปันผลให้เป็นที่พอใจของสมาชิกอย่างมาก แต่ในปี 2564 ทางธนาคารฯ ไม่มีปันผลดอกเบี้ยให้สมาชิก มีแต่ตัวเลขไม่มีเงินต้นที่ฝากไว้กับธนาคารหมู่บ้านก็ไม่มีเงินให้สมาชิกได้ถอนแม้แต่บาทเดียว ได้แต่บ่ายเบี่ยงและโกหกเท่านั้น

พร้อมระบุด้วยว่า แกนนำธนาคารหมู่บ้านใช้รถยนต์ยี่ห้อเบนซ์ สร้างบ้าน ซื้อที่ดินไว้หลายแห่งในเขต อ.นครไทย และซื้อบ้านในตัวเมืองพิษณุโลก และหย่าร้างกับกรรยา ทำให้สมาชิกสงสัยในที่มาที่ไปของทรัพย์สินเกี่ยวข้องกับเงินของธนาคารหมู่บ้านหรือไม่ จึงขอให้ผู้ว่าราชการจังหวัดฯ ตรวจสอบหาทางออกเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนอย่างเร่งด่วน เนื่องจากต่างวิตกกังวล หวาดระแวง เครียดและเป็นโรคซึมเศร้า

นางยุพิน นาคกลม ชาวบ้าน ม.4 ต.นาบัว อ.นครไทย จ.พิษณุโลก เปิดเผยว่า ตนและชาวบ้านนำเงินไปฝากที่ธนาคารหมู่บ้าน ซึ่งเปิดมานานหลายสิบปีแล้ว เนื่องจากธนาคารหมู่บ้านให้ผลตอบแทนดี เคยให้ดอกเบี้ยสูงถึงร้อยละ 14 บาทต่อปี เฉพาะตนและครอบครัวนำเงินไปฝากไว้หลายบัญชีรวมกว่า 5 แสนบาท ดอกเบี้ยที่ได้รับก็ใส่เพิ่มไว้ในบัญชี

ต่อมาถอนเงินออกมาได้ 3 แสนบาทเพราะธนาคารหมู่บ้านลดดอกเบี้ยลงเหลือร้อยละ 8-10 บาท ทำให้ตนเหลือเงินฝากอยู่ 2 แสนบาท กระทั่งไม่นานมานี้ได้ไปขอปิดบัญชีเพราะต้องการใช้เงินจำนวน 2 แสนบาทที่ฝากเอาไว้ แต่ทางคณะกรรมการของธนาคารหมู่บ้านให้เบิกเงินออกมาได้เพียง 2,000 บาท

“แม้จะขอเบิกเงินที่เหลือกี่ครั้งทางธนาคารหมู่บ้านก็ไม่ยอม โดยบอกว่าไม่มีเงินแล้ว ทำให้ฉันและเพื่อนบ้านอีกจำนวนมากไม่สามารถเบิกเงินสดจากธนาคารหมู่บ้านได้เลย ถ้าจะให้เบิกก็ได้ไม่เกิน 2,000 บาทเท่านั้น”

น.ส.รัตนาภรณ์ เพชรภู่ ชาวบ้าน ม.4 ต.นาบัว อ.นครไทย จ.พิษณุโลก กล่าวว่า ตนฝากเงินไว้กับธนาคารหมู่บ้าน 2 บัญชี เป็นชื่อของตัวเอง 1 บัญชี จำนวน 100,000 บาท และชื่อลูกอีกบัญชี 100,000 บาท ซึ่งฝากมานานหลายปีแล้ว เดิมในสมุดระบุ “ฝากเงินออมทรัพย์” ปัจจุบันเปลี่ยนเป็นรายการซื้อหุ้นแทน

“ช่วงแรกๆ ได้ผลตอบแทนดี ต่อมากลับลดดอกเบี้ยลง เมื่อไปขอถอนเงินทั้งหมดแต่ธนาคารหมู่บ้านไม่ยอมให้เบิกเงิน โดยแจ้งว่าไม่มีเงินให้เบิกแล้ว ทำให้มีความกังวลหวั่นว่าเงินที่ฝากไว้จะไม่ได้คืน จึงได้ชักชวนเพื่อนบ้านมาร้องที่ศูนย์ดำรงธรรม เพื่อให้ไปตรวจสอบด้วยว่าธนาคารหมู่บ้านแห่งนี้ยังมีเงินของชาวบ้านที่ฝากไว้เป็นจำนวนเท่าใด”

น.ส.รัตนาภรณ์กล่าวอีกว่า เท่าที่รู้ยังมีชาวบ้านอีกหลายตำบล เช่น ต.นาบัว ต.ยางโกลน ฯลฯ รวมนับ 1,000 คน ฝากเงินไว้กับธนาคารหมู่บ้านแห่งนี้รวมแล้วกว่า 100 ล้านบาท เพราะหลายคนฝากยอดสูงหลักแสนถึงล้านบาท อยากให้รัฐตรวจสอบธนาคารหมู่บ้าน ณ ปัจจุบันยังมีเงินของชาวบ้านหรือไม่ และทำไมไม่ยอมให้ชาวบ้านเบิกเงินของตัวเอง
กำลังโหลดความคิดเห็น