เพชรบูรณ์ - ผู้คนแห่ชื่นชมกันทั่ว..ทีมพยาบาล รพ.เพชรบูรณ์กำลังไปร่วมพิธีพระราชทานเพลิงศพ เจอคนขี่ จยย.ชนรั้วขอบทางรีบจอดรถช่วยผู้ประสบอุบัติเหตุทันที จนชุดขาวเปื้อนเลือดก่อนไปร่วมส่งดวงวิญญาณเพื่อนร่วมวิชาชีพ
วันนี้ (21 พ.ย. 64) ผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่งโพสต์ภาพพยาบาลกำลังช่วยเหลือผู้ได้รับบาดเจ็บจากอุบัติเหตุบนท้องถนน พร้อมกันนี้ได้โพสต์ข้อความว่า “พยาบาลโรงพยาบาลเพชรบูรณ์ มีหัวหน้าหนู พี่บุญรัตน์ตึกพิเศษ 50 ปี/พี่หนู ระพีเพ็ญ/พี่เจียก/อาเกดมณี รีบไปงานศพกั๊บ ก่อนถึงนางั่ว เจอมอเตอร์ไซค์ รถล้ม ชนขอบรั้วถนน มอเตอร์ไซค์ล้มทับ เลือดอาบ นิ้วมือขาด 2 นิ้ว ..รีบแค่ไหนก็ต้องจอด เพราะอาชีพนี้ ใส่ชุดนี้หลับหูหลับตาผ่านไม่ได้
..ชื่นชมมากครับ มีพี่พยาบาลคนหนึ่งเสื้อขาวๆ ติดเลือดไปงานพระราชทานเพลิงต่อ เพิ่งรู้วันนี้ว่า..ใส่ชุดนี้ ผ่านคนเจ็บคนไข้ ถ้าเขาตายไม่ได้ช่วยมีความผิดจรรยาบรรณวิชาชีพ”
ซึ่งต่อมาได้มีการแชร์ส่งต่อและมีผู้คนเข้ามาร่วมแสดงความคิดเห็นชื่นชมพยาบาลที่ร่วมช่วยเหลือผู้ประสบอุบัติเหตุเฉพาะหน้าในครั้งนี้เป็นจำนวนมาก
ล่าสุดผู้สื่อข่าวได้ติดต่อสอบถามก่อนจึงเดินทางไปพบนางระพีเพ็ญ พัฒนาพลกรสกุล พยาบาลวิชาชีพชำนาญการพิเศษ หัวหน้ากลุ่มงานการพยาบาลตรวจรักษาพิเศษ โรงพยาบาลเพชรบูรณ์ หนึ่งในทีมพยาบาลที่ปรากฏในภาพตามโพสต์ดังกล่าว
นางระพีเพ็ญเปิดเผยว่า เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 20 พ.ย. 2564 ขณะที่ตนและเพื่อนพยาบาลโรงพยาบาลเพชรบูรณ์ ประกอบด้วย น.ส.บุญญรัตน์ เพิกเดช พยาบาลวิชาชีพชำนาญการพิเศษ หัวหน้าตึกพิเศษ 50 ปี น.ส.จีระกานต์ สุขเมือง พยาบาลวิชาชีพชำนาญการ หัวหน้าหอผู้ป่วยตา หู คอ จมูก ได้ขับรถยนต์ส่วนตัวเพื่อที่จะไปร่วมพิธีพระราชทานเพลิงศพบุคลากรโรงพยาบาลเพชรบูรณ์
เมื่อไปถึงที่เกิดเหตุบริเวณแยกบายพาสนางั่ว พบอุบัติเหตุรถจักรยานยนต์ล้มอยู่ข้างถนนและมีผู้ได้รับบาดเจ็บ ตนและเพื่อนๆ จึงรีบจอดรถแล้วลงไปให้การช่วยเหลือ ขณะนั้นมีนางเกศมณี บุญรอด พยาบาลวิชาชีพชำนาญการ งานการดูแลผู้ป่วยแบบประคับประคอง ซึ่งเป็นพยาบาลจากโรงพยาบาลเพชรบูรณ์เช่นเดียวกันและกำลังจะเดินทางไปเที่ยวที่ อ.เขาค้อกับครอบครัว และได้มาพบเหตุการณ์ก่อน จึงได้ร่วมกันให้การช่วยเหลือเบื้องต้น
โดยตอนนั้นพบว่าผู้บาดเจ็บหมดสติมีแผลกว้างและเลือดออกมากที่ศีรษะ ปลายนิ้วขาด จากนั้นจึงได้ประสานงานกับอาสากู้ภัยและ 1669 เพื่อนำตัวส่งโรงพยาบาลเพชรบูรณ์ ขณะนี้ทราบข่าวว่าผู้ประสบเหตุอาการปลอดภัยแล้ว ตนและเพื่อนๆ จึงรู้สึกดีใจมาก
ผู้สื่อข่าวถามว่าไม่กลัวที่จะไปไม่ทันพิธีพระราชทานเพลิงศพหรือ นางระพีเพ็ญ เปิดเผยว่าวินาทีนั้นต้องเลือกที่จะช่วยเหลือชีวิตผู้บาดเจ็บก่อนเป็นสำคัญ ส่วนพิธีพระราชทานเพลิงศพนั้นได้มีน้องๆ พยาบาลล่วงหน้าไปก่อนแล้วส่วนหนึ่งจึงไม่กังวล
แต่หลังจากที่ช่วยเหลือผู้บาดเจ็บจนกระทั่งนำตัวส่งโรงพยาบาลแล้วก็รีบเดินทางไปและสามารถร่วมพิธีได้ทันเวลาพอดี และมีน้องพยาบาลรายหนึ่งที่ชุดฟอร์มสีขาวเปื้อนเลือดที่บริเวณแขนเสื้อจากการช่วยเหลือผู้บาดเจ็บ ซึ่งน้องเขาก็ยืนยันที่จะไปร่วมพิธีพระราชทานเพลิงศพเพื่อส่งดวงวิญญาณเพื่อนผู้ร่วมวิชาชีพเป็นครั้งสุดท้าย
นางระพีเพ็ญเปิดเผยอีกว่า ที่ผ่านมาตนและเพื่อนๆ ก็เคยช่วยเหลือผู้ที่ประสบอุบัติเหตุมาแล้วหลายครั้งถึงแม้จะไม่ได้อยู่ในชุดฟอร์ม ชุดทำงานของพยาบาล แต่พวกเราก็ถือว่าการช่วยชีวิตเพื่อนมนุษย์เป็นสิ่งสำคัญและพร้อมที่จะให้การช่วยเหลือตลอดเวลา