xs
xsm
sm
md
lg

“สนธิ-พิภพ” อดีตแกนนำ พธม.ร่วมพิธีรดน้ำศพ “อ.สมเกียรติ” พร้อม ปชช.ร่วมไว้อาลัยจำนวนมาก

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ศูนย์ข่าวนครราชสีมา -“สนธิ-พิภพ” พร้อมอดีตแกนนำ พธม.ร่วมพิธีรดน้ำศพและเคารพศพ “อ.สมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์” ผู้วายชนม์ ที่สีมาอโศกโคราช โดยมีญาติพี่น้อง มิตรสหาย บุคคลสำคัญหลายวงการและประชาชนเข้าร่วมรดน้ำศพและไว้อาลัยเป็นจำนวนมากท่ามกลางความโศกเศร้า “สนธิ”กล่าวไว้อาลัยขอบคุณที่ร่วมต่อสู้กับพันธมิตรฯและภูมิใจที่ได้ร่วมต่อสู้กับ อ.สมเกียรติในทุกมิติ

วันนี้ (15 พ.ย.) เวลา 16.00 น. ที่พุทธสถานสีมาอโศกนครราชสีมา (บวรสีมาอโศก) เลขที่ 64 หมู่ 5 ถนนทางหลวงหมายเลข 224 สายนครราชสีมา-โชคชัย (หลัก กม.13) ต.หนองบัวศาลา อ.เมือง จ.นครราชสีมา นายพิภพ ธงไชย อดีต 1 ใน 5 แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย (พธม.) เป็นประธานประกอบพิธีรดน้ำศพและเคารพศพ นายสมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์ อายุ 71 ปี อดีตแกนนำ พธม. และอดีต ส.ส.ระบบสัดส่วน พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) ที่เสียชีวิตอย่างสงบเมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 14 พ.ย. 64 ที่โรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา


โดยมี นางวัลลภา พงษ์ไพบูลย์ ภรรยานายสมเกียรติ พร้อมด้วยลูกสาว 2 คน และครอบครัว ญาติพี่น้อง มิตรสหาย รวมทั้งประชาชน ญาติธรรมชุมชนสีมาอโศก เดินทางมาร่วมพิธีรดน้ำศพและเคารพศพเป็นจำนวนมาก ภายใต้มาตรการป้องกันโรคโควิด-19 อย่างเข้มงวด พร้อมมีอดีตแกนนำ พธม.และบุคคลสำคัญหลายวงการเดินทางมาร่วมพิธี เช่น นายสนธิ ลิ้มทองกุล, นายสุริยะใส กตะศิลา, นายสำราญ รอดเพชร, นายบำรุง คะโยธา อดีตแกนนำสมัชชาคนจน, นายประเสริฐ บุญชัยสุข นายกเทศมนตรีนครนครราชสีมา ท่ามกลางความโศกเศร้าอาลัย

ทั้งนี้ ก่อนหน้านี้ เวลา 14.00 น. ญาติได้ทำการเคลื่อนย้ายร่าง นายสมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์ ออกจากโรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมามาตั้งบำเพ็ญกุศล ณ พุทธสถานสีมาอโศกนครราชสีมา เพื่อประกอบพิธีรดน้ำศพและเคารพศพ ต่อมาในเวลา 17.00 น. พิธีแสดงธรรม โดย สมณะจันทร์ จันทเสฏโฐ และพิธีรำลึก อ.สมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์ โดยทางมหาวิทยาลัยราชภัฏนครราชสีมาเป็นเจ้าภาพ นำโดย ผศ.ดร.อดิศร เนาวนนท์ อธิการบดีหาวิทยาลัยราชภัฏนครราชสีมา, ศ.ดร.สามารถ จับโจร นักวิชาการ ม.ราชภัฏนครราชสีมา พร้อมคณาจารย์ ลูกศิษย์ นิสิต นักศึกษา และเพื่อนสนิทมิตรสหาย


ส่วนพวงหรีดบุคคลสำคัญที่นำมาวางหน้าศพ เช่น นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตนายกรัฐมนตรีและอดีตหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์, รถจักรยานของ นายอานันท์ ปันยารชุน อดีตนายกรัฐมนตรี, นายนิพนธ์ บุญญามณี, คุณหญิงกัลยา โสภณพนิช รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ, นายเสกสกล อัตถาวงศ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรี, พรรคชาติพัฒนา โดยนายประเสริฐ บุญชัยสุข นายกเทศมนตรีนครนครราชสีมา เป็นต้น

นายสนธิ ลิ้มทองกุล อดีต 1 ใน 5 แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย (พธม.) ผู้ก่อตั้งสื่อในเครือผู้จัดการ ได้กล่าวแสดงความไว้อาลัยแด่ นายสมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์ อดีตแกนนำ พธม.ผู้วายชนม์ ว่า “ผมได้เริ่มรู้จักกับอาจารย์สมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์ พร้อมกับพี่พิภพ ธงไชย นายสมศักดิ์ โกศัยสุข และพี่ลอง พล.ต.จำลอง ศรีเมือง เมื่อประมาณปีพุทธศักราช 2549 นับไปแล้วเป็นเวลา 12 ปี การรู้จักครั้งแรกนั้นทั้งสองฝ่ายคือทั้งตัวคุณสมเกียรติและผมต่างก็สงวนท่าทีกันไว้เยอะมาก เพราะดูเหมือนกับว่าเราจะไม่ไว้ใจซึ่งกันและกัน แต่เมื่อกาลเวลาผ่านไป การต่อสู้เข้มข้นมากขึ้นๆ การได้เข้ามาประชุมและพูดความจริงซึ่งกันและกันโดยยึดถือส่วนรวมเป็นที่ตั้ง ทำให้เราทั้งสองฝ่าย ผมหมายถึง อ.สมเกียรติ พี่พิภพ ธงไชย คุณสมศักดิ์ โกศัยสุข และพี่ลอง พล.ต.จำลอง ศรีเมือง และผม ก็เริ่มไว้ใจซึ่งกันและกันมากขึ้น


สิ่งหนึ่งที่ผมประทับใจอาจารย์สมเกียรติ คือเป็นคนที่คิดอะไรก็พูดเช่นนั้นออกมา ไม่มีการซ่อนเร้น ถ้าไม่ชอบก็บอกไม่ชอบ อาจารย์สมเกียรติเป็นคนที่ตัดสินใจเด็ดขาด ในบางเรื่องหรือเราจะไม่ได้ประชุมแต่อาจารย์สมเกียรติก็ตัดสินใจด้วยตัวเองในการนำพามวลชนในส่วนที่ต้องการไปตามทิศทางที่อาจารย์สมเกียรติต้องการ อาจารย์สมเกียรติเป็นคนที่ไม่กังวลถึงเรื่องของตัวเองเลยแม้แต่นิดเดียว ต้องการที่จะบรรลุเป้าหมายในการที่จะทำงานให้กับประชาชนและมวลชนทั้งหลาย

ความใกล้ชิดสนิทสนมของผมกับอาจารย์สมเกียรติเลยพัฒนาไปสู่การไว้ใจซึ่งกันและกันและเข้าใจซึ่งกันและกัน ซึ่งผมและอาจารย์สมเกียรตินั้นจะไม่ค่อยได้สนทนากันเท่าไหร่นัก แต่นั่นไม่ได้แปลว่าเราไม่ไว้ใจกัน กลายเป็นว่าทั้งอาจารย์สมเกียรติและผมต่างพูดสั้นๆ  ประโยคสั้นๆ แต่อาจารย์สมเกียรติก็เข้าใจผมและผมก็เข้าใจอาจารย์สมเกียรติ ความใกล้ชิดตรงนี้ได้พัฒนาขึ้นมาเรื่อยๆ


จนกระทั่งในที่สุดแล้วกาลเวลาผ่านไป ผ่านร้อนผ่านหนาว เราโดนโทษจำคุก 8 เดือนที่ศาลฎีกาพิพากษามาในกรณีบุกทำเนียบรัฐบาลเราก็รับโทษเหมือนกัน เป็นเพียงแต่ว่าผมขณะนั้นยังอยู่ในช่วงต้องรับโทษอยู่ผมเลยไม่มีโอกาสอยู่ในเรือนจำที่เดียวกับอาจารย์สมเกียรติ และอาจารย์สมเกียรติก็อยู่ที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ เราออกมาแล้วก็จะเจอกันช่วงเช้าในเวลาเราขึ้นศาล แต่เราก็ยังเหมือนเดิมคือทักทายกันแล้วพูดกันสั้นๆ อาจารย์สมเกียรติก็จะพูดกับผม 3-4 ประโยค ผมจะพูดกับอาจารย์สมเกียรติ 3-4 ประโยค แต่ 3-4 ประโยคน่ะมันครอบคลุมการพูดเป็นชั่วโมงสำหรับคนอื่น เราพูดถึงเนื้อหาและสาระจริงๆ 

แน่นอนที่สุด ผมเพิ่งจะพูดกับพี่พิภพเมื่อกี้นี้ว่า พี่พิภพกับผมเนี่ยใครจะไปก่อนกัน พี่ภพก็อายุมากกว่าผม ผมปีนี้ก็เริ่มย่าง 75 ปี แล้วจะไปเมื่อไหร่ก็ไม่รู้ เรามีชีวิตอยู่ได้แค่วันเดียวคือวันนี้ วันพรุ่งนี้ไม่รู้ว่าเราจะอยู่หรือเราจะตาย แต่เราต้องเตรียมตัวตายตลอดเวลา เมื่อเช้านี้ผมเห็นข่าวอาจารย์สมเกียรติแล้วผมถือโอกาสแผ่เมตตาอุทิศส่วนกุศลผลบุญที่ผมได้ปฏิบัติธรรมในตอนเช้า ซึ่งผมจะทำเป็นประจำทุกวัน แล้วผมจะมีลิสต์รายชื่อของผมคนใกล้ชิด เช่น ศรัณยู วงษ์กระจ่าง เติมศักดิ์ จารุปราณ และอีกหลายคนรวมทั้งพันธมิตรฯ ที่เสียชีวิตจากการทำร้ายของตำรวจเมื่อวันที่ 7 ตุลาคม บัญชีรายชื่อของผมในช่วงปีที่แล้วกับปีนี้เพิ่มขึ้นมาหลายคน หลายคนผมนึกไม่ถึงว่าจะต้องจากพวกเราไป เช่น คุณศรัณยู วงษ์กระจ่าง หรือเติมศักดิ์ จารุปราณ และอีกหลายๆ คน ในที่สุดวันนี้ก็จำเป็นต้องเพิ่มชื่อ อาจารย์สมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์ เข้าไปอีก


ผมขอบพระคุณที่อาจารย์สมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์ ได้เข้ามาร่วมต่อสู้ แล้วอยู่ในกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยนะครับ เพราะฉะนั้นแล้ว ผมภูมิใจที่ได้รู้จักกับอาจารย์สมเกียรติ และภูมิใจและดีใจที่ได้ร่วมต่อสู้กับอาจารย์สมเกียรติในทุกๆ มิติที่เราผ่านมา หวังว่าอาจารย์สมเกียรติคงรับทราบคำพูดที่ผมพูดในตอนนี้ และขอให้อาจารย์สมเกียรติจงไปในที่สุคติทุกประการด้วยเทอญ ขอบคุณมากครับ”

ส่วนกำหนดการในวันพรุ่งนี้ (16 พ.ย. 64) โรงพยาบาลศรีนครินทร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น จ.ขอนแก่น จะเดินทางมารับร่าง นายสมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์ ในเวลา 14.00 น. เพื่อกลับไปดำเนินการตามขั้นตอนที่ได้บริจาคร่างเพื่อการศึกษาทางการแพทย์ให้แก่โรงพยาบาลไว้ แต่ในส่วนทาง จ.นครราชสีมา ยังคงดำเนินงานต่อ ในเวลา 17.00 น. พิธีแสดงธรรม, เวลา 18.00 น. พิธีรำลึกถึง อ.สมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์ และวันพุธที่ 17 พ.ย. 64 เวลา 17.00 น. พิธีแสดงธรรม, เวลา 18.00 น. พิธีรำลึกถึง อ.สมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์ โดยไม่มีพิธีฌาปนกิจศพ เนื่องจากนายสมเกียรติได้บริจาคอุทิศร่างกายให้แก่คณะแพทยศาสตร์ โรงพยาบาลศรีนครินทร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น จ.ขอนแก่น
























กำลังโหลดความคิดเห็น