ศูนย์ข่าวนครราชสีมา - ผู้ว่าฯ โคราชเป็นประธานเปิดประติมากรรม “ใต้ร่มพระบารมี” ตำบลกงรถ อ.ห้วยแถลง จ.นครราชสีมา ส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงสร้างสรรค์ด้วยศิลปะเพื่อชุมชน ภายใต้โครงการยกระดับเศรษฐกิจและสังคมรายตำบลแบบบูรณาการของ ม.ราชภัฏนครราชสีมา
วันนี้ (23 ต.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเร็วๆ นี้ ที่วัดหนองซำ ตำบลกงรถ อ.ห้วยแถลง จ.นครราชสีมา นายวิเชียร จันทรโณทัย ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา ได้เป็นประธานพิธีเปิดประติมากรรม “ใต้ร่มพระบารมี” พร้อมมอบเกียรติบัตรแก่ผู้เข้าอบรมโครงการยกระดับเศรษฐกิจและสังคมรายตำบลแบบบูรณาการ (หนึ่งตำบล หนึ่งมหาวิทยาลัย) ของมหาวิทยาลัยราชภัฏนนครรราชสีมา โดยมี พระครูเมตตาสารคุณ (ธวัชชัย) เจ้าอาวาสวัดหนองซำ, ศ.ดร.สามารถ จับโจร ผู้ทรงคุณวุฒิด้านประติมากรรม มหาวิทยาลัยราชภัฏนครราชสีมา พร้อมนายอำเภอห้วยแถลง, นายกเทศมนตรีตำบลกงรถ, กำนัน, ผู้ใหญ่บ้าน, ผู้นำชุมชน และประชาชน ตำบลกงรถ อ.ห้วยแถลง ให้การต้อนรับและเข้าร่วมพิธีอย่างพร้อมเพรียง
ทั้งนี้ การจัดสร้างประติมากรรม “ใต้ร่มพระบารมี” ดังกล่าวสืบเนื่องจากตามที่มหาวิทยาลัยราชภัฏนครราชสีมาร่วมกับกระทรวงอุดมศึกษาวิทยาศาสตร์วิจัยและนวัตกรรม (อว.) ได้จัดทำโครงการยกระดับเศรษฐกิจและสังคมรายตำบลแบบบูรณาการ (มหาวิทยาลัยสู่ตำบล สร้างรากแก้วให้ประเทศ) โดยตำบลกงรถ อ.ห้วยแถลง เป็นหนึ่งตำบลที่ได้เข้าร่วมกิจกรรมดังกล่าว ซึ่งประกอบด้วย 4 กิจกรรม
และกิจกรรมส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงสร้างสรรค์ด้วยศิลปะเพื่อชุมชน กับการจัดสร้างประติมากรรม “ใต้ร่มพระบารมี” มีวัตถุประสงค์เพื่อให้ผู้เข้ารับการอบรมมีการรวมกลุ่มทำกิจกรรมเพื่อชุมชน ส่งผลต่อการสำนึกรักบ้านเกิด รักสามัคคี จิตอาสาเพื่อชุมชน ตำบลทำความดี ชุมชนเป็นสุขอย่างยั่งยืน และส่งผลต่อเศรษฐกิจทางอ้อมของชุมชนอีกด้วย โดยจัดกิจกรรมระหว่างวันที่ 11-15 ตุลาคม 2564 รวมทั้งสอดรับกับการจัดงานมหกรรมศิลปะนานาชาติ ครั้งที่ 2 Thailand Biennale, Korat 2021 ที่จะจัดขึ้นในจังหวัดนครราชสีมา ในเดือนธันวาคม 2564 นี้
ผลงานประติมากรรม “ใต้ร่มพระบารมี” ดังกล่าวออกแบบแนวคิดและดำเนินการสร้างสรรค์ผลงานโดย ศ.ดร.สามารถ จับโจร ร่วมกับประชาชนตำบลกงรถได้สร้างสรรค์ผลงานขึ้น มีขนาดสูง 14 เมตร เป็นประติมากรรมสื่อผสมใช้วัสดุเหล็กประกอบไม้ไผ่ โดยได้รับแรงบันดาลใจในการสร้างสรรค์ด้านรูปทรง จากร่มที่เปรียบเสมือนสิ่งคุ้มกันความปลอดภัยให้แก่ชุมชน เปรียบได้กับสถาบันพระมหากษัตริย์ที่เป็นเสาหลักยึดเหนี่ยวจิตใจ เป็นศูนย์รวมของประชาชนคนในชาติ ร่มโพธิ์ใหญ่ที่ให้ความอบอุ่นร่มเย็นแก่พสกนิกรชาวไทยตลอดมา
โครงสร้างของชิ้นงานประติมากรรมใช้ไม้ไผ่บ้านเหลาเป็นเส้น โดยเน้นที่ผิวของไม้ไผ่มีความงามในตัววัสดุ ใช้แทนความหมายของวิถีวัฒนธรรม สานเป็นสายใยแห่งความผูกพัน การร่วมแรงประสานใจ ประสานเชื่อมโยงกัน มีความกลมเกลียว ผูกพันแน่นเหนียว โดยมีชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์ ที่หล่อหลอมรวมจิตใจของคนไทยทุกคน
