xs
xsm
sm
md
lg

ละเว้น?! จวก กกพ.ปลดล็อกงบครูอัตราจ้างแม่เมาะค้างจ่าย 11 เดือน แต่โครงการหมู่บ้าน-ตำบลค้างเติ่ง

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ลำปาง - ยังไม่จบ..เครือข่ายสิทธิผู้ป่วยแม่เมาะจวกซ้ำ กกพ.ละเว้น-เลือกปฏิบัติ เลือกปลดล็อกงบครูอัตราจ้างแม่เมาะค้างจ่าย 11 เดือนจนต้องทวงกัน 3 รอบ แต่สารพัดโครงการหมู่บ้าน-ตำบลกลับปล่อยค้างเติ่ง กรรมการฯ อ้างรอผู้ว่าฯ ใหม่หากรรมการแทนคนที่ส่วนกลางเห็นแย้ง


กรณีประเด็นปัญหาครูอัตราจ้างในพื้นที่ อ.แม่เมาะ จ.ลำปาง ไม่ได้รับค่าจ้างมานานถึง 11 เดือนติดต่อกัน และเดินทางมาร้องขอให้ผู้ว่าราชการจังหวัดลำปางช่วยเหลือถึง 3 ครั้ง เพราะเข้าใจว่า..อำนาจในการตัดสินใจ และอนุมัติการจ่ายเงินอยู่ที่ผู้ว่าราชการจังหวัด

กระทั่ง นายณรงค์ศักดิ์ โอสถธนากร ผู้ว่าราชการจังหวัดลำปาง ออกมาเปิดเผยทิ้งระเบิดตูมใหญ่ไปที่ กกพ. ทำนองว่าปัญหาทั้งหมดอยู่ที่ กกพ. ผู้ว่าราชการจังหวัดลำปางไม่มีอำนาจใดๆ และทำดีที่สุดแล้ว พยายามให้ส่วนกลางช่วยเหลือมาตลอด แต่ กกพ.ก็นิ่งเฉยและไม่ยอมสั่งการใดๆ ทั้งๆ ที่เป็นอำนาจของ กกพ.เพื่อแก้ปัญหาเรื่องเงินกองทุนฯ ดังกล่าว ซึ่งตนเองเห็นปัญหาที่สะสมมาหลายอย่าง

หลังจากมีการนำคลิปคำอธิบายของผู้ว่าราชการจังหวัดลำปางเผยแพร่สู่โซเซียลมีเดีย มีผู้คนเข้าไปติดตามแชร์ต่อรวมถึงแสดงความคิดเห็นกันเป็นจำนวนมาก ส่งผลเป็นแรงสะท้อนกลับไปยัง กกพ.ที่จะอยู่นิ่งเฉยไม่ได้อีกต่อไป


กระทั่ง นายคมกฤช ตันตระวาณิชย์ เลขาธิการสำนักงาน กกพ. ในฐานะโฆษกคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน ออกมาให้ข่าวผ่านหน้าเพจ คณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) ว่า ในการประชุมวันที่ 25 สิงหาคม 2564 เห็นความจำเป็นเร่งด่วนในการป้องกันและแก้ปัญหาการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) จึงพิจารณาเห็นชอบให้ผ่อนปรนหลักเกณฑ์การจัดทำข้อเสนอโครงการชุมชน โดยให้พื้นที่สามารถยกเว้นขั้นตอนการสำรวจความต้องการของชุมชน และสามารถใช้เงินกองทุน 97(3) ในปีงบประมาณ 2565 ในลักษณะต่างๆ ดังนี้

(1) การแก้ไขปัญหาด้านสาธารณสุขในโครงการป้องกันและควบคุมโควิด (2) การส่งเสริมพัฒนาเศรษฐกิจชุมชนในพื้นที่รอบโรงไฟฟ้าในโครงการจ้างงานในท้องถิ่นเพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจและในโครงการเยียวยาและบรรเทาความเดือดร้อน

(3) การจ้างงานแบบต่อเนื่องโดยจ้างบุคลากรวิชาชีพ เช่น โครงการจ้างบุคลากรทางการศึกษา โครงการจ้างบุคลากรทางการแพทย์ ฯลฯ และ (4) การให้ทุนการศึกษาแบบต่อเนื่องเพื่อสร้างบุคลากรในการพัฒนาชุมชน เช่น วิศวกร แพทย์ ครู ฯลฯ โดยวางกรอบวงเงินกองทุนพัฒนาไฟฟ้า 97(3)

สำหรับโครงการลักษณะดังกล่าวในปีงบประมาณ 2565 เป็นวงเงิน 1,646 ล้านบาท โดยแต่ละกองทุนสามารถใช้เงินในโครงการลักษณะดังกล่าวได้ไม่เกินร้อยละ 50 ของกรอบงบประมาณที่ได้รับ แต่ไม่เกิน 200 ล้านบาทต่อกองทุน ทั้งนี้ เงินกองทุนส่วนที่เหลือให้ปรับปรุงขั้นตอนการดำเนินงานการมีส่วนร่วมให้สอดคล้องกับสถานการณ์โควิด-19 ในพื้นที่ โดยยังคงเน้นการมีส่วนร่วมของชุมชนและส่งเสริมการพัฒนาที่ยั่งยืนในทุกมิติ

ปัจจุบันกองทุนพัฒนาไฟฟ้าขนาดกลาง และขนาดใหญ่ จำนวน 56 กองทุนกระจายทั่วประเทศ มีการบริหารโดยคณะกรรมการกองทุนพัฒนาไฟฟ้าในพื้นที่ (คพรฟ.) ซึ่งมีหน่วยงานทั้งภาครัฐและภาคประชาชนที่มีความรู้ความสามารถร่วมเป็นกรรมการ กกพ. มองกลไกกองทุนพัฒนาไฟฟ้าในพื้นที่รอบโรงไฟฟ้าเป็นกลไกที่สำคัญและมีประสิทธิภาพในการกระจายเม็ดเงินลงสู่พื้นที่เศรษฐกิจฐานรากได้โดยตรง จึงเห็นว่าควรจะใช้บทบาทกองทุนพัฒนาไฟฟ้าเข้ามาช่วยสนับสนุนในการรับมือโควิดและฟื้นฟูเศรษฐกิจ การผ่อนปรนหลักเกณฑ์จะช่วยให้สามารถนำเงินไปใช้ในกิจกรรมที่จำเป็นได้อย่างรวดเร็วเพื่อช่วยสนับสนุนการแก้ปัญหาของรัฐบาลได้อีกทางหนึ่ง

สำหรับปัญหาครูอัตราจ้างกองทุนพัฒนาไฟฟ้าโรงไฟฟ้าแม่เมาะจังหวัดลำปาง กกพ.ไม่ได้นิ่งนอนใจ อีกทั้งยังเร่งรัดให้แก้ปัญหาทางตัน โดยขณะนี้กำหนดให้ คพรฟ.นำโครงการที่ผ่านการพิจารณาตามขั้นตอนแล้วเสนอ กกพ.พิจารณาอนุมัติโดยตรง

ในการประชุม กกพ.เมื่อวันที่ 25 สิงหาคม 2564 ได้พิจารณาอนุมัติโครงการครูอัตราจ้างและโครงการจ้างบุคลากรด้านสาธารณสุข อำเภอแม่เมาะ จำนวน 91 อัตรา รวมวงเงิน 16,604,400 บาท ภายใต้งบประมาณปี 2564 พร้อมทั้งแต่งตั้งนายอำเภอแม่เมาะ จังหวัดลำปาง ทำหน้าที่รักษาการในตำแหน่งประธาน คพรฟ.ทดแทนตำแหน่งที่ว่างลงเพื่อขับเคลื่อนกลไกกองทุนแม่เมาะให้สามารถดำเนินกิจกรรมต่างๆ ของกองทุนให้เข้าสู่สภาวะปกติ


แต่เรื่องคงยังเหมือนไม่จบ..นางมะลิวรรณ นาควิโรจน์ เลขานุการกลุ่มเครือข่ายสิทธิผู้ป่วยแม่เมาะ ซึ่งขับเคลื่อนเรื่องกองทุนรอบโรงไฟฟ้ามาตั้งแต่ต้น ระบุว่า ที่ผ่านมา 2 ปีทำไม กกพ.ถึงไม่ทำหน้าที่ของตนเอง เมื่อกองทุนฯ เกิดปัญหา กกพ.ซึ่งกำกับดูแลต้องลงมาแก้ปัญหาแต่ไม่ยอมทำหน้าที่ แม้จะมีการร้องเรียนไปหลายครั้งแต่ก็นิ่งเฉย พอมีข่าวออกมาวันนี้จะมาทำงานแบบขอไปที ตนเองเห็นใจครูที่ไม่ได้เงินเดือน แต่หากจะอนุโลมเฉพาะโครงการจ้างครูอัตราจ้างในพื้นที่ก็ไม่เป็นธรรมต่อโครงการอื่นๆ ของชาวบ้านที่เคยขอไว้เช่นกัน หากจะอนุโลมก็ต้องอนุโลมทุกโครงการที่เคยเสนอไว้

ดังนั้น การที่ กกพ.ออกมาบอกว่าจะอนุมัติโครงการครูอัตราจ้างเพียงโครงการเดียวนั้น อยากทราบว่าใช้อำนาจอะไรพิจารณา และโครงการต่างๆ ก็มีระเบียบกำหนดไว้อยู่แล้วว่าจะต้องได้รับการเสนอมาจากระดับหมู่บ้าน ตำบล และระดับจังหวัดกลั่นกรองและส่งให้ กกพ.พิจารณา หากจะอนุโลมเพียงไม่กี่โครงการก็ถือว่าทำผิดระเบียบ เพราะระเบียบที่ออกมาใช้บังคับกับทุกกองทุนทั่วประเทศ หากอนุมัติบางโครงการก็ถือว่าละเว้น

ขณะที่ นางสุกัญญา โถสุวรรณ์ คณะกรรมการกองทุนพื้นที่รอบโรงไฟฟ้าแม่เมาะ บอกว่า ได้มีการเสนอโครงการใช้งบประมาณปี 2564 ทั้งหมดเข้ามายัง คพรฟ.แล้ว แต่ที่ผ่านมายังไม่มีการประชุมเพื่อพิจารณากลั่นกรอง จนกระทั่งคณะกรรมการฯ หมดวาระ ซึ่งคาบเกี่ยวระหว่างการสรรหาคณะกรรมการชุดใหม่ ซึ่งขณะนี้ยังขาดในสัดส่วนที่เป็นโควตาของผู้ว่าราชการจังหวัด 2 คน ที่ความเห็นไม่ตรงกัน


เนื่องจาก กกพ.บอกว่าผิดระเบียบจึงไม่รับและให้ผู้ว่าฯ สรรหา-ส่งรายชื่อใหม่ ซึ่งตามข่าวท่านผู้ว่าฯ ก็ยืนยันว่าทั้ง 2 คนมีคุณสมบัติถูกต้องและต้องให้ กกพ.ทบทวน ซึ่งขณะนี้ก็ยังคาราคาซัง เมื่อถามว่าการสรรหาคณะกรรมการชุดใหม่มาแทนที่หมดวาระมีกำหนดเวลาหรือไม่ นางสุกัญญาบอกว่าไม่มี จึงทำให้ขณะนี้ทุกอย่างหยุดชะงัก

ส่วนที่เลขาฯ กกพ.ออกมาแถลงว่าสามารถปลดล็อกโครงการได้แล้ว ก็ต้องรอหนังสืออย่างเป็นทางการอีกครั้ง แต่ทั้งนี้ คพรฟ.ชุดรักษาการได้ส่งโครงการให้พิจารณาแล้วรวม 3 โครงการที่มีภาระผูกพัน คือ โครงการจ้างครูอัตราจ้าง โครงการจ้างบุคลากรด้านสาธารณสุข และโครงการเงินทุนนักเรียน โดยอาศัยระเบียบฯ ข้อ 78/1 (3) งบประมาณในการบริหารจัดการกองทุนพัฒนาไฟฟ้าปีงบประมาณ 2564 ที่มีความจำเป็นต่อการบริหารจัดการกองทุนพัฒนาไฟฟ้า ได้แก่ รายจ่ายบุุคลากร และรายจ่ายดำเนินงาน

ในกรณี คพรฟ.เห็นว่าเรื่องใดมีความจำเป็นเร่งด่วนและอาจเกิดความเสียหายร้ายแรงต่อการบริหารจัดการกองทุน ให้เสนอเรื่องต่อ กกพ.เพื่อพิจารณาเป็นรายกรณีได้ ซึ่งหาก กกพ.เห็นชอบตามนี้ครูอัตราจ้าง บุคลากรด้านสาธารณสุข และเงินทุนการศึกษานักเรียน รวมถึงเงินเดือนของบุคลากรสำนักงานก็จะได้รับการแก้ไข

ส่วนการสรรหาคณะกรรมการก็คาดหวังว่าหากผู้ว่าราชการคนใหม่มารับหน้าที่ก็จะสามารถเสนอรายชื่อกรรมการอีก 2 คนให้ กกพ.พิจารณาโดยเร็ว เพื่อกองทุนฯ จะได้เดินหน้าต่อไปได้




กำลังโหลดความคิดเห็น