xs
xsm
sm
md
lg

น่าฉงน! ที่ดินลำปางตรวจพิกัด “บ่อขยะลุงแก้ว” มาราธอน 9 ปี ยังไร้คำตอบมีเอกสารสิทธิหรือไม่

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ลำปาง - เผยเส้นทางขยะข้ามถิ่นจากเชียงใหม่-ลำพูน ขนทิ้งลำปางจนชาวบ้านเดือดร้อนกันทั่ว..พบที่ดินจังหวัดฯ ตรวจพิกัดบ่อขยะมาราธอนร่วม 9 ปี ยังไร้คำตอบมีหรือออกเอกสารสิทธิหรือไม่ ล่าสุด ทต.ต้นธงชัยต้องขอผู้ว่าฯ สั่งการซ้ำ


กรณีเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองอำเภอเมืองลำปางร่วมกันจับกุมรถบรรทุก 12 ล้อ ยี่ห้อฟูโซ่ สีขาว ทะเบียน 831763 กำแพงเพชร พร้อมนายพรชัย อร่ามเรือง อยู่บ้านเลขที่ 68 ม.3 ต.สลกบาตร อ.ขาณุวรลักษบุรี จ.กำแพงเพชร คนขับรถบรรทุกขยะมาจาก อ.แม่ริม จ.เชียงใหม่ เมื่อกลางดึกคืนวันที่ 16 ส.ค. 64 ที่ผ่านมา

นายพรชัย คนขับรถรับว่าจะขนขยะมาทิ้งที่บริเวณบ่อขยะของนายเอกสิทธิ์ วงศ์อ๊อด หรือที่รู้จักกันคือ “บ่อขยะลุงแก้ว” เขตบ้านจำบอน ต.ต้นธงชัย อ.เมืองลำปาง เจ้าหน้าที่จึงอายัดรถและควบคุมตัวคนขับส่งพนักงานสอบสวน สภ.ทุ่งฝาย อ.เมือง จ.ลำปาง ดำเนินคดี

ต่อมาหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้เข้าตรวจสอบภายในบ่อขยะลุงแก้ว พบว่ามีพื้นที่หลายสิบไร่ มีขยะที่ถูกฝังกลบไปแล้วและถูกนำมาทิ้งใหม่เป็นบริเวณกว้าง ซึ่งในวันดังกล่าวทางผู้ว่าราชการจังหวัดลำปางได้สั่งการให้มีการตรวจสอบพื้นที่ทั้งหมดว่ามีกรรมสิทธิ์ถูกต้องหรือไม่ หรือมีส่วนที่เข้าไปเกี่ยวข้อง-บุกรุกพื้นที่ป่าหรือไม่ โดยให้ทราบผลภายใน 7 วัน คือวันที่ 23 ส.ค.ที่ผ่านมา

ล่าสุดผู้สื่อข่าวได้สอบถามถึงความคืบหน้าในการตรวจสอบ นายธวัชชัย ปินตาสี นายกเทศมนตรีตำบลต้นธงชัย เปิดเผยว่า ขณะนี้ทางเทศบาลฯ ได้แจ้งข้อกล่าวหาด้านสาธารณสุข พร้อมทั้งได้นำป้ายประกาศห้ามทิ้งขยะมูลฝอยในพื้นที่บ่อขยะเก่าลุงแก้ว หรือบ่อขยะเอกชนอื่นใดที่ไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าพนักงานท้องถิ่น ไปติดไว้ที่หน้าบ่อขยะลุงแก้วแล้ว

นายธวัชชัย ปินตาสี นายกเทศมนตรีตำบลต้นธงชัย
ส่วนเรื่องการตรวจสอบพิกัดที่ดินของบ่อขยะนั้น จากเอกสารที่ลุงแก้วนำมาแสดง 3 ฉบับ พบว่า อ.เมืองลำปางได้ออกหนังสือรับรองให้ไว้เพื่อรับรองการทำประโยชน์ในที่ดินทั้ง 3 แปลงดังกล่าว แก่ นางฟองแก้ว จีนากุล, นายอรุณศักดิ์ ณ ลำปาง และนางมี เรือนกำ โดยลุงแก้วอ้างว่าได้ครอบครองทำประโยชน์ในที่ดินดังกล่าวมาเป็นระยะเวลากว่า 20 ปีแล้ว

เมื่อวันที่ 20 มิ.ย. 2555 ลุงแก้วได้ยื่นคำร้องขอรังวัดตรวจสอบเนื้อที่ของหนังสือรับรองการทำประโยชน์เลขที่ 954 โดยได้ชำระค่าธรรมเนียม และค่าใช้จ่ายในการดำเนินการให้แก่สำนักงานที่ดินลำปางเรียบร้อยแล้ว และช่างรังวัดได้นัดหมายเข้ารังวัดตรวจสอบที่ดินเมื่อวันที่ 28 มิ.ย. 2555 แต่ไม่มีผลการตรจสอบที่ดินมาแสดง และลุงแก้วก็ไม่ได้ให้การใดๆ เกี่ยวกับผลการตรวจสอบรังวัดที่ดินดังกล่าว

และเมื่อตรวจสอบสำเนาหนังสือสำนักงานที่ดินจังหวัดลำปางที่แจ้ง ทต.ต้นธงชัย เกี่ยวกับผลการตรวจสอบตำแหน่งที่ดินบริเวณที่ทิ้งขยะที่ ทต.ต้นธงชัย จัดส่งค่าพิกัดไปให้สำนักงานที่ดินจังหวัดลำปาง ปรากฏว่าตำแหน่งที่ดินอยู่ในเขตป่าแม่เมาะแปลง 2 แต่ไม่สามารถตรวจสอบได้ว่าตำแหน่งตามค่าพิกัดดังกล่าวได้มีการออกเอกสารสิทธิประเภทใดหรือไม่

จากเอกสารดังกล่าวข้างต้น จึงยังไม่สามารถตรวจสอบได้ว่าที่ดินบริเวณที่เป็นที่ทิ้งขยะดังกล่าวเดิมอยู่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติ ป่าแม่เมาะแปลง 2 ขณะเดียวกัน สำนักงานที่ดินจังหวัดลำปางไม่สามารถตรวจสอบว่าได้ออกเอกสารสิทธิประเภทใดแล้วหรือไม่

ซึ่งลุงแก้วได้นำหนังสือรับรองการทำประโยชน์ (น.ส.3) จำนวน 3 ฉบับ มาแสดง โดยอ้างว่าเป็นหนังสือรับรองการทำประโยชน์ในที่ดินบริเวณที่เป็นที่ทิ้งขยะและปัจจุบันตนได้ครอบครองและทำประโยชน์ในที่ดินดังกล่าว และได้นำหลักฐานการยื่นขอรังวัดตรวจสอบที่ดินดังกล่าวแล้วแต่ไม่สามารถยืนยันได้ว่าผลการรังวัดเป็นประการใด

ดังนั้น เพื่อให้ได้ข้อเท็จจริงที่แน่ชัดว่าที่ดินที่เป็นที่ทิ้งขยะดังกล่าวเป็นที่ดินประเภทใด และจะทำให้ลุงแก้วได้สิทธิในการครอบครองและใช้ประโยชน์ในที่ดินดังกล่าวหรือไม่ จึงแจ้งให้สำนักงานที่ดินจังหวัดลำปาง และสำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 3 (ลำปาง) ร่วมกันตรวจสอบข้อเท็จจริงต่อไป


“ด้วยเรื่องดังกล่าวคาราคาซังมานานเกือบ 10 ปี ซึ่งหน่วยงานที่จะต้องดำเนินการรังวัดเพื่อให้ที่ดินดังกล่าวมีความชัดเจนก็ไม่สามารถทำได้และปล่อยทิ้งจนทำให้เกิดปัญหาซ้ำซากมาจนถึงปัจจุบัน จึงได้มีการนำเรียนให้ผู้ว่าราชการจังหวัดลำปางทราบเพื่อสั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการเป็นการเร่งด่วนแล้ว”

ขณะที่เรื่องการขนขยะข้ามถิ่นยังไม่หยุด ล่าสุดเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ห้างฉัตร สกัดจับรถขนขยะได้คาด่านตรวจโควิดห้างฉัตร 2 คัน พร้อมคนขับ 2 คน ซึ่งสารภาพว่ารับขยะมาจากพื้นที่เทศบาลตำบลมะเขือแจ้ จ.ลำพูน และจะนำไปทิ้งบ่อขยะเอกชนในจังหวัดแพร่ แต่ไม่สามารถแสดงเอกสารได้จึงถูกจับกุมดำเนินคดี

ทั้งนี้ จากการตรวจสอบนายอนันต์ ตาสิมูล ปลัดเทศบาลตำบลมะเขือแจ้ จ.ลำพูน ซึ่งเป็นผู้ว่าจ้างบริษัทเก็บขยะ บอกเพียงว่าเทศบาลฯ ได้ว่าจ้าง หจก.ธัชญาดา รีไซเคิล จ.เชียงใหม่ ที่ชนะการประกวดราคาจ้างโดยทางอิเล็กทรอนิกส์ เป็นผู้รับจ้างเก็บขยะมูลฝอยและสิ่งปฏิกูลของเทศบาลฯ โดยจะต้องจัดเก็บขยะมูลฝอยเดือนละ 250 ตัน ส่วนที่เกินผู้รับจ้างต้องรับภาระไป

และเมื่อเก็บขยะแล้วจะนำไปทิ้งที่ไหนก็เป็นเรื่องของผู้ประกอบการเอง โดยคิดค่าจ้างเดือนละ 330,000-370,000 บาท ปีละกว่า 4 ล้านบาท ส่วนที่ผู้ประกอบการฯ นำขยะไปแอบทิ้งในพื้นที่ลำปางนั้นก็จะได้เรียกผู้ประกอบการมาสอบถามอีกครั้งว่าทำไมถึงนำไปทิ้งในบ่อขยะที่ไม่ได้แจ้งไว้ต่อทางเทศบาลฯ เพราะบ่อขยะที่ผู้ประกอบการได้แจ้งไว้ว่าจะนำไปทิ้งอยู่ในเขตพื้นที่จังหวัดแพร่


กำลังโหลดความคิดเห็น