กกพ. “ดีเดย์” มีมติผ่อนเกณฑ์กองทุนพัฒนาไฟฟ้า 97 (3) ประจำปีงบประมาณ 2565 โดยไม่ต้องสำรวจความต้องการชุมชน โดยเร่งเดินหน้า 4 ด้าน วงเงิน1,646 ล้านบาทเพื่อสนับสนุนพื้นที่รับมือโควิด-19 ทั้งเยียวยาและฟื้นฟูเศรษฐกิจ ผ่านการอัดฉีดเงินกองทุนฯ เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจรอบพื้นที่โรงไฟฟ้า
นายคมกฤช ตันตระวาณิชย์ เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) และในฐานะโฆษก กกพ. เปิดเผยว่า การประชุม กกพ.เมื่อวันที่ 25 สิงหาคม 2564 เห็นความจำเป็นเร่งด่วนในการป้องกันและแก้ปัญหาการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) จึงเห็นชอบให้ผ่อนปรนหลักเกณฑ์การจัดทำข้อเสนอโครงการชุมชน โดยให้พื้นที่สามารถยกเว้นขั้นตอนการสำรวจความต้องการของชุมชน และสามารถใช้จ่ายเงินกองทุนเพื่อการพัฒนาหรือฟื้นฟูท้องถิ่นที่ได้รับผลกระทบจากการดำเนินงานของโรงไฟฟ้า หรือมาตรา 97(3) ในปีงบประมาณ 2565 ในลักษณะต่างๆ ดังนี้
1. การแก้ไขปัญหาด้านสาธารณสุขในโครงการป้องกันและควบคุมโควิด 2. การส่งเสริมพัฒนาเศรษฐกิจชุมชนในพื้นที่รอบโรงไฟฟ้าในโครงการจ้างงานในท้องถิ่นเพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจและโครงการเยียวยาและบรรเทาความเดือดร้อน 3. การจ้างงานแบบต่อเนื่องโดยจ้างบุคลากรวิชาชีพ เช่น โครงการจ้างบุคลากรทางการศึกษา โครงการจ้างบุคลากรทางการแพทย์ ฯลฯ และ 4. การให้ทุนการศึกษาแบบต่อเนื่องเพื่อสร้างบุคลากรในการพัฒนาชุมชน เช่น วิศวกร แพทย์ ครู ฯลฯ
โดยวางกรอบวงเงินกองทุนพัฒนาไฟฟ้า 97(3) สำหรับโครงการลักษณะดังกล่าวในปีงบประมาณ 2565 เป็นวงเงิน 1,646 ล้านบาท โดยแต่ละกองทุนสามารถใช้เงินในโครงการลักษณะดังกล่าวได้ไม่เกิน 50% ของกรอบงบประมาณที่ได้รับ แต่ไม่เกิน 200 ล้านบาทต่อกองทุน ทั้งนี้ เงินกองทุนส่วนที่เหลือให้ปรับปรุงขั้นตอนการดำเนินงานการมีส่วนร่วมให้สอดคล้องกับสถานการณ์โควิด-19 ในพื้นที่ โดยยังคงเน้นการมีส่วนร่วมของชุมชนและส่งเสริมการพัฒนาที่ยั่งยืนในทุกมิติ
ปัจจุบันกองทุนพัฒนาไฟฟ้าขนาดกลาง และขนาดใหญ่ จำนวน 56 กองทุนกระจายทั่วประเทศ มีการบริหารโดยคณะกรรมการกองทุนพัฒนาไฟฟ้าในพื้นที่ (คพรฟ.) ซึ่งมีหน่วยงานทั้งภาครัฐและภาคประชาชนที่มีความรู้ความสามารถร่วมเป็นกรรมการ กกพ.มองกลไกกองทุนพัฒนาไฟฟ้าในพื้นที่รอบโรงไฟฟ้าเป็นกลไกที่สำคัญ และมีประสิทธิภาพในการกระจายเม็ดเงินลงสู่พื้นที่เศรษฐกิจฐานรากได้โดยตรง จึงเห็นว่าควรจะใช้บทบาทกองทุนพัฒนาไฟฟ้าเข้ามาช่วยสนับสนุนในการรับมือโควิดและฟื้นฟูเศรษฐกิจ การผ่อนปรนหลักเกณฑ์จะช่วยให้สามารถนำเงินไปใช้ในกิจกรรมที่จำเป็นได้อย่างรวดเร็วเพื่อช่วยสนับสนุนการแก้ปัญหาของรัฐบาลได้อีกทางหนึ่ง
“กรณีปัญหาครูอัตราจ้างกองทุนพัฒนาไฟฟ้าโรงไฟฟ้าแม่เมาะจังหวัดลำปาง กกพ.ไม่ได้นิ่งนอนใจ อีกทั้งยังเร่งรัดให้แก้ปัญหาทางตัน โดยขณะนี้กำหนดให้ คพรฟ.นำโครงการที่ผ่านการพิจารณาตามขั้นตอนแล้วเสนอ กกพ.พิจารณาอนุมัติโดยตรง ล่าสุด กกพ.ได้พิจารณาอนุมัติโครงการครูอัตราจ้างและโครงการจ้างบุคลากรด้านสาธารณสุข อำเภอแม่เมาะ จำนวน 91 อัตรา รวมวงเงิน 16,604,400 บาท ภายใต้งบประมาณปี 2564 พร้อมทั้งแต่งตั้งนายอำเภอแม่เมาะ จังหวัดลำปาง ทำหน้าที่รักษาการในตำแหน่งประธาน คพรฟ.ทดแทนตำแหน่งที่ว่างลง เพื่อขับเคลื่อนกลไกกองทุนแม่เมาะให้สามารถดำเนินกิจกรรมต่างๆ ของกองทุนให้เข้าสู่สภาวะปกติ” นายคมกฤชกล่าว