ท่าขี้เหล็ก - ทางการท้องถิ่นเมียนมางัดมาตรการเข้มขั้นสุด..หลังโควิดระบาดเพิ่ม เฉพาะเดือนนี้ป่วยทะลุเกิน 1,000 ราย ส่ง จนท.ตั้งด่านทั่วเมือง-อนุญาตให้คนออกบ้านหาซื้อข้าวปลาอาหารได้แค่ครึ่งวันเท่านั้น
วันนี้ (29 ก.ค. 64) รายงานข่าวจากชายแดนไทย-เมียนมาแจ้งว่า สถานการณ์การระบาดของไวรัสโควิด-19 ใน จ.ท่าขี้เหล็ก ติดกับ อ.แม่สาย จ.เชียงราย ยังคงไม่ลดลง ล่าสุดพบผู้ติดเชื้อรายใหม่เพิ่มขึ้นอีก 38 ราย ทำให้ผู้ป่วยสะสมในเดือนกรกฎาคมนี้เพิ่มเป็นกว่า 1,100 ราย และมีผู้เสียชีวิตแล้วหลายราย
ซึ่งช่วงต้นเดือน ทางการท้องถิ่นท่าขี้เหล็กได้ใช้มาตรการห้ามออกนอกเคหสถานหรือเคอร์ฟิวตั้งแต่เวลา 06.00-18.00 น. ยกเว้นออกมาหาซื้ออาหารและน้ำดื่ม แต่ห้ามเดินทางข้ามหมู่บ้านยกเว้นได้รับอนุญาตจากเจ้าหน้าที่ และให้ปิดตลาด-ร้านค้าทุกแห่งยกเว้นร้านที่จำหน่ายอาหารสด เช่น พืชผัก เนื้อสัตว์ และยารักษาโรคเท่านั้น เพื่อหวังลดการระบาดของโรคแต่ปรากฏว่าจำนวนผู้ติดเชื้อรายวันก็ยังคงเพิ่มขึ้น
ดังนั้นจึงมีการเพิ่มมาตรการที่เข้มงวดมากกว่าเดิม โดยขณะนี้จะอนุญาตให้ประชาชนออกจากบ้านเรือนเพื่อหาซื้ออาหารได้เฉพาะในช่วงเวลา 06.00-12.00 น.เท่านั้น ขณะที่ตามถนนสายต่างๆ จะมีเจ้าหน้าที่ตั้งด่านตรวจเพื่อควบคุมตามมาตรการอย่างเข้มงวด ส่งผลทำให้ทั่วตัวเมืองและถนนสายต่างๆ เงียบเหงาลงอย่างมาก
ด้านสถานการณ์คนไทยที่ตกค้างใน จ.ท่าขี้เหล็ก ซึ่งส่วนใหญ่เป็นหญิงสาวที่ข้ามไปทำงานในสถานบันเทิงที่กลับมาเปิดอย่างคึกคักช่วงเดือน เม.ย.ที่ผ่านมาและทำให้เกิดการระบาดระลอกใหม่นี้ พบว่ามีผู้ที่ลงทะเบียนผ่านสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงย่างกุ้ง ประเทศเมียนมา เพื่อขอกลับประเทศไทยอย่างน้อย 20 คน และมีผู้ที่แจ้งผ่านอาจารย์สืบสกุล กิจนุกร นักวิชาการสำนักวิชานวัตกรรมสังคม มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง จ.เชียงราย ในฐานะผู้ประสานงานศูนย์ช่วยเหลือแรงงานข้ามชาติ จ.เชียงราย จำนวน 20 คน ขณะที่เจ้าหน้าที่เมียนมาได้รวบรวมรายชื่อคนไทยที่ต้องการกลับประเทศได้จำนวน 72 คน และพบหญิงสาวชาวไทยติดเชื้อโควิด-19 จำนวน 5 คน