เชียงราย - พบคนไทยตกค้างในท่าขี้เหล็กขอกลับประเทศยังไม่ได้ ต้องยอมจ้างขบวนการขนคนข้ามแดนถึงรายละ 17,000 บาทพานั่งห่วงยางข้ามน้ำเข้าช่องทางธรรมชาติ ล่าสุดทหาร กกล.ผาเมืองสกัดจับ 2 สาวร้อยเอ็ด 1 สาวประเภทสองคนนครปฐม พร้อมผู้นำพา-ผู้สนับสนุน
ส.อ.ณัฐกิตติ์ อินทะนิล หน.ชุดปฏิบัติการ ร้อย.ม.สกัดกั้นที่ 1 กองกำลังผาเมือง พร้อมกำลังพล 3 นาย ได้ลาดตระเวนเฝ้าตรวจบริเวณช่องทางธรรมชาติชายแดนไทย-เมียนมา บ้านเวียงหอม หมู่ 2 ต.แม่สาย อ.แม่สาย จ.เชียงราย คืนที่ผ่านมา (20-21 ก.ค. 64)
กระทั่งกลางดึกขณะเฝ้าตรวจบริเวณดังกล่าวได้ตรวจพบบุคคลต้องสงสัย 5 คนเดินข้ามพรมแดนท่าทางมีพิรุธ เจ้าหน้าที่จึงได้แสดงตนเข้าขอทำการตรวจค้น พบเป็นชาย 3 คน (สัญชาติไทย 2 คน เมียนมา 1 คน) หญิงสาวชาวไทย 2 คน
โดยในจำนวนนี้มีอยู่ 3 ราย คือ 1. นายอนุวัฒน์ สัญชาติไทย อายุ 27 ปี ภูมิลำเนาอยู่ อ.นครชัยศรี จ.นครปฐม 2. น.ส.มีนตรา อายุ 26 ปี ภูมิลำเนาอยู่ อ.เมยวดี จ.ร้อยเอ็ด และ 3. น.ส. วีณา อายุ 23 ปี ภูมิลำเนาอยู่ อ.เมยวดี จ.ร้อยเอ็ด ให้การรับสารภาพว่าข้ามช่องทางผิดกฎหมายไปทำงานเป็นเด็กเอนเตอร์เทนฝั่งประเทศเมียนมาเมื่อเดือนมีนาคม 64
กระทั่งเกิดวิกฤตโควิด-19 ระบาดระลอกใหม่ตั้งแต่ต้นเดือนกรกฎาคม 64 ที่ผ่านมา สถานบันเทิงต่างๆ ในท่าขี้เหล็กปิดบริการ ตัดสินใจพากันไปแจ้งขอกลับไทยแต่ก็ยังไม่ได้รับอนุญาตให้ข้ามแดนกลับอย่างถูกกฎหมาย จึงจ้างให้คนเมียนมาเป็นเงิน 17,000 บาท/คน พานั่งห่วงยางข้ามมาส่งฝั่งประเทศไทย บริเวณช่องทางผิดกฎหมายบ้านเวียงหอม แล้วให้คนสัญชาติเมียนมาในฝั่งไทยมารับ
ส่วนอีก 2 ราย คือ นายไซ โทนโทน ชาวเมียนมา อายุ 24 ปี เป็นผู้นำพา ให้การรับสารภาพว่าได้มีบุคคลมาติดต่อว่าจ้างให้นำคนไทยที่ลักลอบหลบหนีเข้ามายังประเทศไทยโดยใช้จักรยานยนต์ฮอนด้า เวฟ สีแดง นำพาไปหาที่พักใน อ.แม่สาย แลกค่าจ้าง 500 บาท และนายดนัย อายุ 54 ปี (ผู้สนับสนุน) มีภูมิลำเนาอยู่แขวงทุ่งสองห้อง เขตหลักสี่ กทม. ได้ขับรถกระบะอีซูซุ สีขาว ทะเบียน กทม. มีตราของหน่วยงานรัฐวิสาหกิจแห่งหนึ่ง มารับที่บริเวณช่องทางผิดกฎหมายดังกล่าว
ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ตรวจค้นไม่พบสิ่งผิดกฎหมาย จึงได้ควบคุมตัวผู้ต้องหานำส่งพนักงานสอบสวน สภ.แม่สาย เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป