ท่าขี้เหล็ก - สาวไทยตกค้างท่าขี้เหล็กยังไม่ได้กลับ..ขณะโควิด-19 ระบาดหนัก พบผู้ป่วยใหม่-ตายเพิ่มต่อเนื่อง ล่าสุดวันเดียวสังเวย 2 ศพ
ขณะนี้สถานการณ์การระบาดของไวรัสโควิด-19 ในท่าขี้เหล็กรุนแรงขึ้นอย่างต่อเนื่อง วันที่ 18 ก.ค.ที่ผ่านมาพบผู้ติดเชื้อรายใหม่เพิ่ม 53 ราย ทำให้มียอดผู้ป่วยสะสมเฉพาะปลายเดือนมิถุนายน-ขณะนี้เพิ่มเป็น 586 ราย รักษาหายแล้ว 188 ราย แต่ล่าสุดมีผู้เสียชีวิต 2 ราย
รายแรกเป็นชายอายุ 65 ปี ชาวบ้านปงถุน มีประวัติเป็นโรคเบาหวาน เริ่มมีอาการหายใจไม่ออกในเวลา 07.00 น. จึงถูกส่งไปตรวจที่โรงพยาบาลท่าขี้เหล็กเมื่อ 18 ก.ค.ก่อนพบติดเชื้อไวรัสโควิด-19 และอาการไม่ทุเลาจนเสียชีวิตในเวลา 15.00 น. อีกรายเป็นชายอายุ 63 ปี เสียชีวิตเวลา 20.00 น.วันเดียวกัน ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้นำศพไปทำการฌาปนกิจทันที
ขณะที่ทางการท่าขี้เหล็กยังคงสั่งปิดตลาด ห้ามเดินทางหรือล็อกดาวน์ระหว่างหมู่บ้าน ห้ามออกนอกเคหสถานหรือเคอร์ฟิวเวลา 06.00-18.00 น. ทำให้บรรยากาศทั่วไปซบเซาลง สถานบันเทิงที่เคยเปิดอย่างคึกคักนับแต่เดือนเมษายนเป็นต้นมา ปัจจุบันสถานบันเทิงหลักๆ ทั้งวันจีวัน ท่าขี้เหล็กโฮเต็ล ม้าบิน และโรงแรม 9 ชั้น ฯลฯ ต่างปิดบริการโดยปริยาย
ทั้งนี้ มีรายงานว่าทางการท้องถิ่นท่าขี้เหล็ก ประเทศเมียนมา ตรวจสอบพบมีคนไทยตกค้างอยู่ในท่าขี้เหล็กแจ้งขอกลับ 71 คน ส่วนใหญ่เป็นหญิงสาวที่ข้ามไปทำงานตามสถานบันเทิง ล่าสุดทั้งหมดยังคงพักรอตามห้องพักโรงแรมต่างๆ เนื่องจากตามขั้นตอนของเมียนมาจะมีการส่งรายชื่อไปยังรัฐบาลท้องถิ่นที่เมืองตองจีก่อนเสนอตรวจคนเข้าเมือง (ตม.) เชียงตุง อนุมัติให้เจ้าหน้าที่ท่าขี้เหล็กเรียกตัวแต่ละคนไปตรวจหาเชื้อไวรัสโควิด-19 ซึ่งทุกคนต้องเสียเงินตรวจเองคนละ 250-500 บาท จากนั้นจะมีการสอบประวัติ-ส่งตัวไปเสียค่าปรับที่ศาลท่าขี้เหล็กคนละ 11,000 บาท ก่อนจะส่งตัวกลับผ่านจุดผ่านแดนถาวรสะพานมิตรภาพไทย-เมียนมา ข้ามลำน้ำสายแห่งที่ 2 มายัง อ.แม่สาย จ.เชียงราย ต่อไป