เชียงใหม่ - เชียงใหม่โดนโควิด-19 คร่าชีวิต 3 ราย แถมระบาดเพิ่มอีก 2 คลัสเตอร์ ทั้งคลัสเตอร์บริษัทขนส่งในอำเภอสารภี แพร่เชื้อในที่ทำงาน ลามไปถึงที่บ้านรวมนับสิบ ทำเสี่ยงเป็นร้อย และคลัสเตอร์ตำบลสันนาเม็ง อำเภอสันทราย ติดยกครัวและคนใกล้ชิด 10 ราย เผื่อแผ่ไปลำปาง 5 ราย อยู่ระหว่างเร่งสอบสวนโรค ขณะที่คณะกรรมการโรคติดต่อออกคำสั่งคุมเข้มคนเข้าจากพื้นที่สีแดงเข้ม 4 จังหวัด กรอกข้อมูล CM-CHANA ไม่น้อยกว่า 24 ชั่วโมง ก่อนเข้าพื้นที่
วันนี้ (26 พ.ค. 64) ศูนย์บัญชาการสถานการณ์การระบาดโรค Covid-19 จังหวัดเชียงใหม่ แถลงสถานการณ์การระบาดของโรค Covid-19 ระลอกเดือนเมษายน จังหวัดเชียงใหม่ ประจำวัน โดย ดร.ทรงยศ คำชัย หัวหน้ากลุ่มงานควบคุมโรคติดต่อ สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดเชียงใหม่ เปิดเผยว่า วันนี้จังหวัดเชียงใหม่พบผู้ติดเชื้อรายใหม่จำนวน 11 ราย ทำให้ยอดผู้ติดเชื้อสะสมอยู่ที่ 4,071 ราย รักษาหายแล้ว 3,805 ราย คิดเป็นร้อยละ 93 ของผู้ป่วยทั้งหมด ยังคงมีผู้รักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาลทุกประเภท จำนวน 242 ราย และมีผู้เสียชีวิตเพิ่ม 3 ราย ทำให้ยอดผู้เสียชีวิตสะสมของจังหวัดเชียงใหม่รวมเป็น 23 ราย โดยจะมีการชี้แจงรายละเอียดของผู้เสียชีวิตในวันพรุ่งนี้ (27 พ.ค. 64) ขณะที่กลุ่มผู้ติดเชื้อที่ยังรักษาตัวอยู่นั้น แยกเป็นกลุ่มผู้ป่วยที่ไม่มีอาการหรืออาการเล็กน้อย (สีเขียว) 192 ร าย อาการปานกลาง (สีเหลือง) 26 ราย อาการค่อนข้างหนัก (สีส้ม) 18 ราย และผู้ป่วยอาการหนัก (สีแดง) 6 ราย
ขณะที่การตรวจทางห้องปฏิบัติการเมื่อวานนี้ (25 พ.ค. 64) ได้ทำการตรวจหาเชื้อไปทั้งหมด 1,050 ราย พบผู้มีผลบวกเพียงร้อยละ 1.52 โดยปัจจัยเสี่ยงพบว่าเป็นการสัมผัสในครอบครัวและในสถานที่ทำงานเพิ่มสูงขึ้น อีกทั้งปัจจัยเสี่ยงการสัมผัสในชุมชนและการนำเข้าจากต่างพื้นที่กลับมาสูงขึ้น โดยทั้งหมดล้วนมาจากบุคคลที่มีความเสี่ยง และไม่กักตนเองอยู่ที่บ้าน รวมทั้งผู้ที่เดินทางออกไปต่างจังหวัดโดยเฉพาะพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด เมื่อกลับเข้ามาในพื้นที่แล้วไม่เข้ารับการตรวจคัดกรอง จึงขอความร่วมมือประชาชนร่วมรับผิดชอบต่อสังคมเพื่อให้เชียงใหม่ปลอดภัย ส่วนการตรวจคัดกรองเชิงรุกในพื้นที่เสี่ยงเมื่อวานนี้ (25 พ.ค. 64) ทีมควบคุมโรคของอำเภอสารภี ได้ลงพื้นที่คัดกรองกลุ่มเสี่ยงบริษัทขนส่งสินค้าที่อำเภอสารภี จำนวน 39 คน ไม่พบผู้ติดเชื้อเพิ่ม แต่ทั้งหมดยังคงต้องกักตัวอย่างเคร่งครัด 14 วัน แต่การตรวจพนักงานขับรถส่งของเมื่อวันที่ 23 พ.ค. 64 ที่ตรวจเพิ่มจำนวน 163 ราย พบผู้ติดเชื้อ 5 ราย
สำหรับคลัสเตอร์ต่างๆ นั้น วันนี้เชียงใหม่มีคลัสเตอร์ที่ปลอดภัยแล้ว 5 คลัสเตอร์ แต่ยังต้องเฝ้าระวังต่อเนื่อง 12 คลัสเตอร์ และเฝ้าระวังใกล้ชิด 2 คลัสเตอร์ ทั้งนี้ พบว่า มีคลัสเตอร์ใหม่เพิ่มขึ้นอีก 2 คลัสเตอร์ คือ คลัสเตอร์บริษัทขนส่งสินค้า อำเภอสารภี พบผู้ป่วย 2 ราย รายแรกเป็นสามีภรรยา สามีทำงานที่บริษัทขนส่ง ติดเชื้อสู่เพื่อนร่วมงาน 4 คน และมีหนึ่งคนแพร่เชื้อต่อครอบครัว 3 คน ส่วนภรรยาทำงานบริษัทเอกชนที่อำเภอสันทราย แพร่เชื้อสู่เพื่อนร่วมงานอีก 3 คน ทำให้คลัสเตอร์นี้มีผู้ติดเชื้อแล้ว 13 คน โดยทีมอำเภอสารภีและอำเภอสันทราย ได้ลงพื้นที่ควบคุมโรคและตรวจผู้สัมผัสเสี่ยงสูงไปแล้ว 50 ราย ผู้สัมผัสเสี่ยงต่ำ 80 ราย ขณะที่อีกคลัสเตอร์เกิดที่ตำบลสันนาเม็ง อำเภอสันทราย พบผู้ติดเชื้อในจังหวัดเชียงใหม่ 10 ราย และจังหวัดลำปางอีก 5 ราย ซึ่งมีความเกี่ยวข้องกัน โดยขณะนี้อยู่ระหว่างการสอบสวนโรค เบื้องต้นพบว่าคลัสเตอร์ที่มีการกระจายออกไปเกิดจากการรวมกลุ่มทำกิจกรรมทางสังคม จนทำให้มีการติดเชื้อกระจายเป็นวงกว้าง
ด้าน นายกนก ศรีวิชัยนันท์ ปลัดจังหวัดเชียงใหม่ เปิดเผยว่า จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ในพื้นที่กรุงเทพมหานครและปริมณฑล พบผู้ติดเชื้อรายใหม่อย่างต่อเนื่องมากกว่า 100 รายต่อวัน คณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดเชียงใหม่จึงได้มีมติออกคำสั่งที่ 61/2564 เรื่อง มาตรการควบคุมผู้เดินทางมาจากพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวดในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดให้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ โดยขอให้ผู้ที่เดินทางมาจากพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด หรือ 4 จังหวัดสีแดงเข้ม คือ กรุงเทพมหานคร จังหวัดปทุมธานี จังหวัดนนทบุรี และจังหวัดสมุทรปราการ กรอกข้อมูลในระบบ CM-CHANA ไม่น้อยกว่า 24 ชั่วโมง ก่อนเดินทางเข้ามาในจังหวัดเชียงใหม่ และแสดงหลักฐานการลงทะเบียนต่อเจ้าหน้าที่
นอกจากนี้ ระหว่างอยู่ในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ ต้องปฏิบัติตัวตามคำแนะนำจากระบบ CM-CHANA อย่างเคร่งครัด และต้องกักตนเองเป็นระยะเวลา 14 วัน หรือเท่าจำนวนวันที่อยู่ในพื้นที่ อย่างไรก็ตาม ได้มีการแบ่งกลุ่มผู้เดินทางออกเป็น 5 กลุ่ม คือ กลุ่มผู้เดินทางกลับภูมิลำเนา, กลุ่มนักเรียน นักศึกษา, กลุ่มผู้เดินทางมาปฏิบัติราชการ ติดต่อราชการ หรือผู้เดินทางมาทำธุรกิจหรือธุรกรรมในเวลาอันสั้น, กลุ่มนักการทูต เจ้าหน้าที่สถานทูต กงสุล เจ้าหน้าที่กงสุล และครอบครัวหรือผู้ติดตาม และกลุ่มนักท่องเที่ยว ทั้งนี้ คำสั่งดังกล่าวจะมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 มิถุนายน 2564 เป็นต้นไป จนกว่าจะมีคำสั่งเปลี่ยนแปลง