xs
xsm
sm
md
lg

เชียงใหม่ตรวจเชิงรุก พนง.ขับรถส่งของพื้นที่เสี่ยง 26 ราย เจอ 5 รายติดเชื้อโควิด-19

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



เชียงใหม่-ศูนย์โควิด-19 เชียงใหม่แถลงติดเชื้อเพิ่ม 12 ราย เผยคัดกรองเชิงรุกพนักงานขับรถส่งของไปพื้นที่เสี่ยงสูง 26 ราย เจอ 5 รายติดเชื้อ พร้อมจับตาใกล้ชิด 3 เหตุการณ์ หลังพบติดเชื้อในครอบครัวเดียวกัน 5 รายในอำเภอเมือง กับ 6 รายในอำเภอสันทราย และติดเชื้อ 5 รายในบริษัทขนส่งที่อำเภอสารภี


เย็นวันนี้ (25 พ.ค. 64) ศูนย์บัญชาการสถานการณ์การระบาดโรค Covid-19 จังหวัดเชียงใหม่ แถลงสถานการณ์การระบาดของโรค Covid-19 ระลอกเดือนเมษายนจังหวัดเชียงใหม่ประจำวัน โดย ดร.ทรงยศ คำชัย หัวหน้ากลุ่มงานควบคุมโรคติดต่อ สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดเชียงใหม่ เปิดเผยว่า วันนี้จังหวัดเชียงใหม่พบผู้ติดเชื้อรายใหม่เพิ่มขึ้น 12 ราย หลังจากเมื่อวานไม่พบผู้ติดเชื้อเลย ทำให้มียอดผู้ติดเชื้อสะสมอยู่ที่ 4,060 ราย โดยผู้ติดเชื้อรายใหม่วันนี้มี 5 รายที่มีความเชื่อมโยงกับบริษัทขนส่งสินค้าแห่งหนึ่งในอำเภอสารภี

สำหรับผู้ติดเชื้อทั้งหมด ขณะนี้รักษาหายแล้ว 3,762 ราย คิดเป็นร้อยละ 93 ของผู้ติดเชื้อทั้งหมด มีผู้รักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาลทุกประเภทจำนวน 277 ราย แยกเป็นกลุ่มผู้ป่วยที่ไม่มีอาการหรืออาการเล็กน้อย (สีเขียว) 220 ราย อาการปานกลาง (สีเหลือง) 32 ราย อาการค่อนข้างหนัก (สีส้ม) 16 ราย และผู้ป่วยอาการหนัก (สีแดง) 9 ราย วันนี้ไม่มีผู้เสียชีวิตเพิ่ม ยอดผู้เสียชีวิตสะสมขณะนี้ยังคงอยู่ที่ 20 ราย

ขณะที่การตรวจกลุ่มเสี่ยงและผู้สัมผัสได้ทำการตรวจหาเชื้อไปทั้งหมด 1,046 ราย พบผู้มีผลบวกร้อยละ 0.56 ในภาพรวมพบการติดเชื้อร้อยละ 4.11 จากการตรวจสะสมทั้งหมด 103,000 ราย ด้านปัจจัยเสี่ยงการสัมผัสในครอบครัวและสถานที่ทำงานยังมีแนวโน้มสูงอยู่ ปัจจัยเสี่ยงจากการนำเข้า พบผลบวก 1 รายคือตรวจจากต่างจังหวัด แต่ไม่รอผลเดินทางกลับมายังจังหวัดเชียงใหม่ก่อน ดังนั้นจึงเป็นปัจจัยเสี่ยงสำคัญที่จะต้องมีการเฝ้าระวังในขณะนี้อย่างใกล้ชิด


ส่วนการตรวจคัดกรองเชิงรุกนั้น ช่วงนี้อยู่ระหว่างการวางแผนจะออกตรวจในแคมป์แรงงานต่างด้าว ทั้งนี้ ประชาชนสามารถแจ้งข้อมูลกลุ่มเสี่ยงมาที่สำนักงานสาธารณสุขและหน่วยงานปกครองในพื้นที่ได้ ในส่วนการตรวจคัดกรองเชิงรุกพนักงานขับรถส่งของไปยังจังหวัดเสี่ยงสูงในช่วงที่ผ่านมา ตรวจไปแล้ว 26 ราย พบผู้มีผลบวก 5 ราย อยู่บริษัทเดียวกัน อย่างไรก็ตาม วันนี้ยังไม่มีการประกาศเป็นคลัสเตอร์ใหม่ แต่เป็นสถานการณ์ที่เฝ้าระวังอย่างใกล้ชิด 3 เหตุการณ์ คือ พบการติดเชื้อในครอบครัวเดียวกัน พื้นที่อำเภอเมือง 5 ราย และอำเภอสันทราย 6 ราย และบริษัทขนส่งที่อำเภอสารภีพบผู้มีผลบวก 5 ราย

โดยทีมสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดเชียงใหม่ได้มีการตรวจผู้สัมผัสเสี่ยงสูงทั้งหมด 45 ราย จะทราบผลในวันพรุ่งนี้ ทั้งนี้ หากมีการระบาดเพิ่มทางคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดเชียงใหม่จะประกาศเป็นกลุ่มผู้ติดเชื้อ หรือคลัสเตอร์อีกครั้ง ส่วนคลัสเตอร์เดิมพบผู้ติดเชื้อรายใหม่ 1 รายจากคลัสเตอร์งานศพ ตำบลข่วงเปา อำเภอจอมทอง ซึ่งเป็นการตรวจพบในครั้งที่ 2

ทั้งนี้ จากสถานการณ์การเกิดคลัสเตอร์ต่างๆ ล้วนมีสาเหตุมาจากไม่หยุดอยู่บ้าน เดินทางไปพื้นที่เสี่ยง และจัดงานต่างๆ โดยการติดเชื้อระยะหลังส่วนใหญ่ผู้ติดเชื้อจะไม่มีอาการ ซึ่งยังพบว่าบางรายยังมีการเดินทางไปยังสถานที่ต่างๆ และทำกิจกรรมอยู่ โดยเฉพาะในครอบครัว ทำให้มีการติดเชื้อกันทั้งครอบครัว จึงอยากขอให้คำนึงถึงมาตรการป้องกันโรคส่วนบุคคลอย่างเคร่งครัด จังหวัดเชียงใหม่จะปลดล็อกผ่อนคลายมาตรการต่างๆ ได้หากทุกคนร่วมใจฉีดวัคซีน โดยพบว่ามีการลงทะเบียนจองวัคซีนแล้ว 170,000 กว่าคน


ด้านนายกนก ศรีวิชัยนันท์ ปลัดจังหวัดเชียงใหม่ ได้แจ้งถึงคำสั่งคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดเชียงใหม่ ที่ 60/2564 เรื่อง ปิดสถานที่ชั่วคราวและห้ามการชุมนุมมั่วสุม ซึ่งขณะนี้พบว่ามีการลักลอบเล่นการพนันชนไก่และการพนันรูปแบบอื่นมากมาย ซึ่งเสี่ยงต่อการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 โดยที่ประชุมคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดเชียงใหม่มีมติให้ยกเลิกคำสั่งคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดเชียงใหม่ ที่ 14/2564 เรื่องมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดจากเชื้อไวรัสโควิด-19 ในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ (งดออกใบอนุญาตการจัดให้มีการเล่นพนัน) โดยมีคำสั่งให้ปิดสนามชนไก่ สนามซ้อมชนไก่ สนามกัดปลา สนามชนกว่าง สนามชนโค หรือสนามแข่งขันอื่นในลักษณะทำนองเดียวกัน ห้ามการชุมนุมมั่วสุม หรือทำกิจกรรม ณ ที่ใดๆ ในสถานที่แออัด หรือสถานที่อื่นในลักษณะเสี่ยงต่อการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่

พร้อมกันนี้ ให้พนักงานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง ฝ่ายความมั่นคง และพนักงานเจ้าหน้าที่อื่นที่มีหน้าที่รับผิดชอบ ประสานการปฏิบัติงานอย่างใกล้ชิดและเพิ่มความเข้มงวดในการปฏิบัติการสอดส่องและเฝ้าระวังเพื่อป้องกันการลักลอบเล่นการพนันและให้ดำเนินการตามขั้นตอนทางกฎหมายเพื่อปราบปรามต่อไป หากผู้ใดฝ่าฝืนต้องระวางโทษปรับไม่เกินสองหมื่นบาท ตามมาตรา 51 แห่งพระราชบัญญัติโรคติดต่อ พ.ศ. 2558 หรือจำคุกไม่เกินหนึ่งปี หรือปรับไม่เกินหนึ่งแสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับตามมาตรา 52 แห่งพระราชบัญญัติโรคติดต่อ พ.ศ. 2558 แล้วแต่กรณี ทั้งนี้ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป จนกว่าจะมีคำสั่งเปลี่ยนแปลง




กำลังโหลดความคิดเห็น