ประจวบคีรีขันธ์ - กลุ่มเสี่ยงสูงโรงงานสับปะรดแอบเปิดโรงแรมกลางเมืองหัวหินกักตัวไม่สนคำสั่งจังหวัดประจวบฯ ล่าสุด สสจ.ประจวบฯ สั่งให้ย้ายทั้งหมดไปที่มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลรัตนโกสินทร์ วิทยาเขตวังไกลกังวล ซึ่งเป็นโรงพยาบาลสนาม
วันนี้ (12 พ.ค.) นายแพทย์สุริยะ คูหะรัตน์ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัด (สสจ.) ประจวบคีรีขันธ์ เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวทางโทรศัพท์ ว่า ขณะนี้ได้ปรับสถานที่กักตัวภายในโรงอาหาร ภายในโรงงานสับปะรดกระป๋องเป็นโรงพยาบาลสนาม หลังจากมีผู้เสี่ยงสูงติดเชื้อเพิ่มเฉลี่ยรายวันวันละ 5-10 คน ส่วนกรณีที่มีผู้มีความเสี่ยงสูงกว่า 100 คน ซึ่งเป็นพนักงานในโรงงานสับปะรด แต่ไม่ได้กักตัวในโรงงาน และทราบต่อมาว่าไปกักตัวตัวในโรงแรมหรูแห่งหนึ่งในเขตเทศบาลหัวหิน ทำให้มีกระแสวิพากษ์วิจารณ์ตลอด 3 วันที่ผ่านมา
โดยได้ส่งเจ้าหน้าที่สาธารณสุขอำเภอหัวหินไปติดตามดูตามที่ได้รับรายงาน พบเป็นจริง ซึ่งตั้งแต่วานนี้ได้สั่งการให้ผู้กักตัวในโรงแรมดังกล่าวย้ายไปกักตัวที่มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลรัตนโกสินทร์ วิทยาเขตวังไกลกังวล ซึ่งเป็นโรงพยาบาลสนามแล้ว แต่ ณ เวลานี้ยังไม่ทราบว่าเดินทางไปหรือยังต้องรอรายงานจากเจ้าหน้าที่ ส่วนสาเหตุที่ไม่ให้ไปกักตัวที่โรงงานสับปะรดดังกล่าว เนื่องสถานที่กักตัวในโรงงานมีผู้ป่วยติดเชื้อโควิด-19 เพิ่มขึ้น
นายแพทย์สุริยะ คูหะรัตน์ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัด (สสจ.) ประจวบคีรีขันธ์ เบื้องต้นยืนยันว่า ไม่เป็นความผิดเพราะไม่ได้เป็นผู้ป่วยติดเชื้อ ส่วนจะเป็นปัญหาความผิดในการฝ่าฝืนตามประกาศคำสั่งของผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบคีรีขันธ์หรือไม่ ต้องตรวจสอบว่าสาเหตุที่ย้ายสถานที่กักตัวมีสาเหตุอะไร เพราะเมื่อมีคำสั่งแล้วผู้เกี่ยวข้องในการกักตัวควรปฏิบัติตามและต้องจัดสรรงบประมาณให้เพียงพอ
รวมทั้งหน่วยงานภาครัฐต้องมีการบริหารจัดการสถานที่ภายในโรงงานสับปะรดดังกล่าวให้เหมาะสมด้วย ถามว่าเมื่อจัดสถานที่แล้วยังมีปัญหา ผู้ที่เข้าข่ายกักตัวควรจะมีทางเลือกอื่นหรือไม่ เช่น การจัดอาหาร 3 มื้อหน่วยงานที่เกี่ยวข้องบอกว่าดูแลไม่ได้ ต้องขอให้ อบต.หินเหล็กไฟช่วยเหลือ สำหรับสถานที่นอนไม่เพียงพอเมื่อออกไปกางเต็นท์ปรากฏว่าอากาศร้อนมากคนกักตัวนอนไม่ได้
ส่วนตัวมีความกังวลหากในอนาคตมีปัญหาในลักษณะนี้อีกในโรงงานอื่น เนื่องจากในจังหวัดมีโรงงานอุตสาหกรรมจำนวนมาก และผู้ปฏิบัติงานภาคสนามส่วนใหญ่จะมีเพียงเจ้าหน้าที่สาธารณสุข ซึ่งขณะนี้เจ้าหน้าที่ทุกภาคส่วนอ่อนล้าเป็นอย่างมาก
จากข้อมูลพบว่า เมื่อวันที่ 7 พฤษภาคม 2564 นายพัลลภ สิงหเสนี ผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ได้ลงนามในคำสั่งจังหวัดที่ 4634/2564 ตั้งศูนย์ป้องกันและควบคุมโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 ที่โรงงานสับปะรด เพื่อปิดสถานที่ภายในโรงงานสับปะรดกระป๋องหยุดสายการผลิตชั่วคราว ใช้กักตัวผู้ที่มีความเสี่ยงสูงทั้งคนไทยและชาวพม่าเป็นเวลา 14 วัน ตั้งแต่วันที่ 7-20 พฤษภาคม 2564 หากมีการผ่าฝืนมีความผิดตามมาตรา 52 พ.ร.บ.โรคติดต่อ 2558 ระวางโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี ปรับไม่เกิน 1 แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และอาจได้รับโทษตาม พ.ร.ก.ฉุกเฉิน 2548 ตามมาตรา 18
จากการสอบถามผู้บริหารเจ้าของโรงแรมในเขตเทศบาลเมืองหัวหิน ที่รับกักตัวยอมรับว่าก่อนหน้านี้มีผู้กักตัวความเสี่ยงสูงจากโรงงานสับปะรดเข้ามาพักในโรงแรมจริง โดยมีเจ้าหน้าที่สาธารณสุขเข้ามาตรวจติดตามอาการ เนื่องจากที่ผ่านมา โรงแรมมีห้องว่างจำนวนมาก
สำหรับผู้ที่เข้ามาเช่าห้องพักรายวันเพื่อกักตัวส่วนใหญ่เป็นผู้บริหารและพนักงานระดับสูงของโรงงานสับปะรด ยืนยันว่าทางโรงแรมใช้หลักมนุษยธรรมในการช่วยเหลือในการกักตัว หลังจากทราบว่าสถานที่กักตัว 14 วัน ในโรงงานไม่มีความพร้อม ไม่มีสิ่งอำนวยความสะดวกเท่าที่ควร นอกจากนั้น หน่วยงานภาครัฐในจังหวัดยังไม่มีสถานที่กักตัวที่มาตรฐานมีเพียงการจัดตั้งโรงพยาบาลสนามและ HOSPITEL
สำหรับสถานการณ์โควิด-19 ประจวบคีรีขันธ์ รายใหม่วันนี้ 15 ราย ยืนยันสะสม 1,338 ราย เป็นไทย 1,207 ราย ต่างชาติ 131 ราย รักษาหาย 1,007 เสียชีวิต 4 ราย อยู่ระหว่างการรักษา 327 ราย อาการรุนแรง 7 ราย อาการปากกลาง 11 ราย
มีรายงานล่าสุดว่า ในวันที่ 16 พฤษภาคม 2564 นี้ ทางสำนักงานสาธารณสุขเตรียมจัดสรรวัคซีน 1,000 โดส เป็นกรณีพิเศษเข็มแรกฉีดให้ประชาชนในพื้นที่รอบโรงงานสับปะรดกระป๋องบริษัท ควอลิตี้ ไพน์แอปเปิ้ล โปรดักส์ และโรงงานสับปะรดโดล โดยใช้สถานที่โรงเรียนโรตารีหนองยายอ่วม ทั้งนี้เพื่อสร้างความมั่นใจให้ประชาชน