ประจวบคีรีขันธ์ - ปฏิบัติการเชิงรุก ผู้ใหญ่บ้านหนองนกน้อย อ.หัวหิน พร้อมตำรวจสายตรวจ และเจ้าหน้าที่สาธารณสุข อสม. ระดมค้นหาเชิงรุกแรงงานพม่าที่เสี่ยงติดเชื้อโควิด-19 เร่งนำเข้าไปกักตัวในโรงงานสับปะรดกระป๋องตลอดทั้งวัน พบพม่าที่ติดโควิด-19 เข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลหัวหิน วันนี้กว่า 100 คน
วันนี้ (8 พ.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้าสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ที่โรงงานสับปะรดกระป๋อง ควอลิตี้ ไพน์แอปเปิล โปรดักส์ จำกัด บ้านหนองนกน้อย ต.หินเหล็กไฟ อ.หัวหิน ภายหลังตรวจพบการระบาดเป็นกลุ่มก้อนคลัสเตอร์ใหญ่ในกลุ่มแรงงานชาวพม่า ซึ่งจากการเก็บตัวอย่างสารคัดหลั่งกลุ่มแรงงานที่เป็นผู้สัมผัสเสี่ยงสูงจำนวน 257 ราย ส่งตรวจทางห้องปฏิบัติการ ล่าสุด ผลออกมาพบผู้ติดเชื้อโควิด-19 แล้วจำนวน 115 รายนั้น
เจ้าหน้าที่สาธารณสุข โรงพยาบาลหัวหิน ทหาร ปกครอง อบต.หินเหล็กไฟ มีการตั้งโรงพยาบาลสนามในอาคารของโรงงานสับปะรดกระป๋อง จำนวน 200 เตียง โดยมีแรงงานพม่ากลุ่มเสี่ยงทยอยเดินทางเก็บข้าวของนำของใช้ที่จำเป็นเข้ามาเพื่อกักตัวเป็นเวลา 14 วันอย่างต่อเนื่อง ขณะที่โรงพยาบาลหัวหิน จัดส่งรถโมบาย 2 คัน จำนวน 3 รอบ มารับแรงงานพม่าที่ติดโควิด-19 ที่ผลออกแล้วที่ลานจอดรถหน้าโรงงาน ไปเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลหัวหิน วันนี้กว่า 100 คนแล้ว
ขณะเดียวกัน เจ้าหน้าที่ได้ออกตรวจสอบตามห้องเช่าต่างๆ ภายในหมู่บ้านที่รับผิดชอบ หลังจากชาวบ้านแจ้งเบาะแสว่า ยังมีแรงงานพม่าบางส่วนซึ่งทำงานในโรงงานสับปะรดดังกล่าวไม่ยอมเดินทางไปกักตัวในโรงงาน และยังคงอาศัยอยู่ในห้องเช่า รวมทั้งไม่ค่อยมีการสวมใส่หน้ากากอนามัย ทำให้ชาวบ้านที่อยู่ใกล้เคียงเกรงว่าจะเกิดการแพร่เชื้อโควิด-19 จึงเข้าไปเชิญตัวและขอร้องให้เดินทางไปกักตัวที่โรงงาน ซึ่งบางครั้งการพูดคุยเจรจาเป็นไปด้วยความยากลำบากเนื่องจากติดขัดเรื่องภาษา และบางรายไม่อยากไปอ้างว่าไม่ได้ติดโควิด-19 โดยต้องใช้เวลาในการเจรจาแต่ละจุดค่อนข้างนาน และให้เก็บของใช้ที่จำเป็นเอาติดตัวไปด้วย รวมทั้งลูกหลาน โดยเจ้าหน้าที่นำขึ้นรถและพาไปส่งยังโรงพยาบาลสนามที่โรงงานสับปะรด รวม 16 คน เพื่อเข้ากักตัวต่อไป ซึ่งยังมีอีกหลายจุดที่ต้องเร่งไปตรวจสอบตามข้อมูลที่ได้รับแจ้ง
น.ส.แสงจันทร์ จงศรี ชาวบ้านหนองนกน้อย และ อสม.หมู่บ้าน ต่างรู้สึกมีความปลอดภัยมากขึ้นที่แรงงานพม่าได้ออกจากห้องเช่า เดินทางไปกักตัว เพราะหลายวันที่ผ่านมา เกิดความวิตกกังวลมาก แต่ต้องป้องกันตนเองและครอบครัวจนไม่กล้าเดินทางออกไปไหน
จากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ที่เกิดจากแรงงานนโรงงานสับปะรด นับเป็นเวลา 4-5 วันแล้ว ชาวบ้านและผู้ประกอบการในตำบลหินเหล็กไฟ ต่างมีความเป็นห่วงการแพร่ระบาด จึงอยากให้หมู่บ้านต่างๆ ต้องเร่งค้นหาเชิงรุกในกลุ่มเสี่ยง เพราะไม่มีใครรู้ว่าแรงงานเหล่านั้นไปที่ไหนมาบ้าง ประกอบกับขณะนี้ตัวเลขติดเชื้อกว่า 100 ราย ไทม์ไลน์ยังไม่ออก ทำให้ชาวบ้านและผู้ประกอบการมีความเป็นห่วง ในขณะที่อำเภอหัวหินตัวเลขผู้ติดเชื้อโควิด-19 พุ่งขึ้นสูงและคาดว่ามีต่อเนื่อง
สำหรับการตรวจสอบโรงงานสับปะรดแห่งนี้พบว่ามีพนักงานในโรงงานรายเดือนคนไทย 53 คน พนักงานรายวัน 540 คน เป็นแรงงานพม่า 523 คน ภายหลังการคัดกรองจากเจ้าหน้าที่สำนักงานสาธารณสุข และเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลหัวหิน พบว่า เป็นผู้ที่มีความเสี่ยงสูงซึ่งต้องกักตัวในโรงงาน 402 คน และยังต้องเรียกตัวแรงงานที่ยังอยู่ด้านนอกมากักตัวเพิ่มอีกราว 200 คน
ทั้งนี้ บริเวณด้านหน้าโรงงานสับปะรด ทางอำเภอหัวหิน ได้จัดกำลังเจ้าหน้าที่ อส.อำเภอหัวหิน มาคอยดูแลอยู่ด้านหน้าโรงงานตลอด 24 ชั่วโมง และในส่วนของผู้ที่จะเข้าไปในโรงงานและออกจะมีพนักงานรักษาความปลอดภัยคอยดูแล ส่วนอาหารและน้ำดื่มผู้ที่มาส่งต้องจัดส่งไว้ที่โต๊ะด้านนอกโรงงานที่เตรียมเอาไว้ โดยจะมีเจ้าหน้าที่สาธารณสุข และเจ้าหน้าหน้าที่ของโรงงานจะมานำเข้าไปเท่านั้น อย่างไรก็ตาม วันนี้ในช่วงบ่ายพบว่า เตียงกระดาษ จำนวน 200 เตียงเต็มหมดแล้ว จึงมีการประสานของเตียงเพิ่มอีก 50 เตียงเพื่อรองรับกลุ่มแรงงานตามห้องเช่าที่ผู้ใหญ่บ้าน และตำรวจออกติดตามให้เข้ามากักตัว