ประจวบคีรีขันธ์ - สถานการณ์การระบาดของไวรัสโควิด-19 ตั้งแต่คลัสเตอร์ในสถานบันเทิงในเขตเทศบาลเมืองหัวหิน กระทั่งเกิดการระบาดของคลัสเตอร์แรงงานพม่าในโรงงานสับปะรด มีการกักตัวของกลุ่มเสี่ยงอีกกว่า 400 รายภายในโรงงาน อดีตนายกสมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวประจวบฯ และผู้ประกอบการยอมรับส่งผลกระทบอย่างหนักต่อเศรษฐกิจ โดยเฉพาะอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้องกับการท่องเที่ยว
วันนี้ (10 พ.ค.) จากสถานการณ์การระบาดโควิด-19 ในสถานบันเทิงหัวหิน ตลอด 1 เดือนที่ผ่านมาเมษายน จนกระทั่งมาเกิดคลัสเตอร์การระบาดจากแรงงานพม่าในโรงงานสับปะรดกระป๋อง บริษัท ควอลิตี้ ไพน์แอปเปิล โปรดักส์ ริมถนนบายพาสชะอำ-ปราณบุรี หมู่ที่ 3 บ้านหนองนกน้อย ต.หินเหล็กไฟ อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ ตรวจพบการระบาดเป็นกลุ่มก้อนเป็นคลัสเตอร์ใหม่ พบผู้ติดเชื้อโควิด-19 ในกลุ่มแรงงานพม้า ซึ่งมีผู้ป่วยติดเชื้อโควิด-19 จำนวน 115 คน เข้ารับการรักษาตัวที่โรงพยาบาลหัวหิน ตั้งแต่วันที่ 8 พฤษภาคม 2564 จนถึงวันนี้ได้ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจอย่างหนักของอำเภอหัวหิน ทั้งอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว โรงแรม รีสอร์ต ศูนย์การค้า ร้านอาหาร ลงไปจนถึงร้านค้าในหมู่บ้านและชุมชนต่างๆ อยู่ในขณะนี้ ซึ่งล่าสุดยังไม่มีไทม์ไลน์ของแรงงานาที่ติดโควิด-19 เผยแพร่ออกมาแต่อย่างใด
อำเภอหัวหินซึ่งนับเป็นเมืองท่องเที่ยว วันนี้กลับเงียบเป็นอย่างมาก ถนนหนทางมีรถวิ่งผ่านน้อยมากถึงแม้จะเป็นช่วงวันหยุดติดต่อกัน 3 วัน แหล่งท่องเที่ยวทั้งชายหาดหัวหิน ร้านขายของที่ระลึก ร้านอาหาร ศูนย์การค้า ตลาดโต้รุ่งหัวหิน ร้านอาหาร รวมทั้งแหล่งท่องเที่ยวต่างๆ นักท่องเที่ยวบางตา โรงแรม ร้านค้า ร้านวด ที่เกี่ยวข้องกับการท่องเที่ยวต้องปิดกิจการชั่วคราว ขาย เช่า เซ้งเป็นจำนวนมาก
นายอุดมสุข นิ่มเซียน เจ้าของกันตารีสอร์ท หัวหิน อดีตนายกสมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ สะท้อนให้เห็นว่าการระบาดของโควิด-19 ที่ผ่านมาจากคลัสเตอร์สถานบันเทิงในตัวเขตเทศบาลเมืองหัวหิน คลัสเตอร์ล่าสุดเกิดจากแรงงานพม่าในโรงงานสับปะรด หมู่ 3 บ้านหนองนกน้อย ต.หินเหล็กไฟ อ.หัวหิน ค่อนข้างเหมือนที่จังหวัดสมุทรสาคร เพียงแต่แต่ที่โรงงานสับปะรดเล็กกว่าเท่านั้น แต่ต้องยอมรับว่า 2 คลัสเตอร์ส่งผลกระทบต่อธุรกิจท่องเที่ยวอย่างหนักในขณะนี้ ทั้งในเขตเทศบาลเมืองหัวหิน ซึ่งเป็นที่ตั้งของโรงแรม รีสอร์ต อัตราเข้าพักน้อยลงมากโรงแรม ห้องพักบางแห่งต้องปิดชั่วคราวเพราะแบกรับสภาพของการขาดทุนไม่ไหวในขณะนี้
รวมทั้งที่รีสอร์ตของตนเอง ตลอดจนผู้ประกอบการรายอื่นๆ ก็ต้องงดรับนักท่องเที่ยวตั้งแต่เดือนเมษายนที่ผ่านมาแล้ว และหวังว่าเดือนนี้พอจะมีนักท่องเที่ยวบ้างแต่เมื่อมีคลัสเตอร์ใหม่ระบาด มีผู้ป่วยพุ่งสูงกว่า 100 รายเกิดขึ้นอีก ยิ่งทำให้นักท่องเที่ยวงดเดินทางมาหัวหินถึงร้อยละ 90% นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่จะโทรศัพท์สอบถามข้อมูลมาเป็นอันดับแรกคือ เรื่องเดินทางมาแล้วเที่ยวที่ไหนได้บ้าง ลงเล่นน้ำทะเลหัวหินได้หรือไม่ และสระน้ำของโรงแรม รีสอร์ต เล่นน้ำได้หรือไม่ ผู้ป่วยที่ติดเชื้อโควิด-19 เป็นอย่างไรบ้าง คำถามเหล่านี้ตอบแทบทุกวัน
สุดท้ายส่วนใหญ่นักท่องเที่ยวจะปฏิเสธที่จะมาหัวหิน โดยเฉพาะตำบลหินเหล็กไฟ อำเภอหัวหิน มีทั้งโรงแรม รีสอร์ต สวนน้ำ สนามกอล์ฟ สวนสัตว์ ร้านอาหาร ร้านค้า ไม่มีนักท่องเที่ยว ชาวบ้านตามหมู่บ้านต่างๆ เก็บตัวอยู่ในบ้านพักไม่ค่อยออกมาซื้อของ เพราะมีความกังวลในเรื่องของแรงงานพม่าที่ติดเชื้อนั่นเอง
โอกาสที่นักท่องเที่ยวจะกลับมาท่องเที่ยวในหัวหิน ในพฤษภาคม-มิถุนายนน่าจะน้อยมากๆ และไม่อยากหวัง เพราะนักท่องเที่ยวไม่มั่นใจจึงไม่เกิดการเดินทาง ประกอบกับค่าใช้จ่ายที่ทุกคนต้องประหยัดยิ่งในภาวะที่กำลังเจอกับโควิด-19 ที่มีการติดเชื้อไปหลายพื้นที่ โดยคาดว่าหากภาครัฐจัดการควบคุมสถานการณ์การระบาดของโควิด-19 ได้และไม่มีการระบาดในช่วงเดือนมิถุนายน-กรกฎาคม อาจจะทำให้นักท่องเที่ยวน่าจะเริ่มกลับมาในช่วงเดือนสิงหาคม-ตุลาคม แต่หากพบการระบาดอีกครั้งก็อาจจะหมดหวังกัน และเริ่มดีขึ้นในปีหน้า
ในส่วนที่หมู่บ้านช้างหัวหิน ตั้งอยู่หลังวัดเขาอิติสุคโต ซึ่งให้บริการนั่งช้างมากว่า 20 ปี และได้มีโอกาสพูดคุยกับนายประกอบ ชำนาญกิจ เจ้าของหมู่บ้านช้างหัวหินกล่าวยอมรับว่า ผลกระทบที่เกิดขึ้นจากสถานการณ์โควิด-19 ในอำเภอหัวหิน ยอมรับว่าหนักมาก วันนี้มีช้างอยู่ 6 เชือก ให้บริการนักท่องเที่ยวนั่งชมธรรมชาติเพียงวันละ 1- 3 เชือกเท่านั้นในราคาเพียง 300 บาทต่อ 1 ชั่วโมง บางวันไม่มีรายได้เลย ตั้งแต่การระบาดระลอกแรกต้นปี 2563 มาถึงระลอกที่ 3 และยังระบาดต่อเนื่อง ถึงแม้จะต้องประสบปัญหาค่าใช้จ่ายที่ต้องประหยัดเนื่องจากรายรับไม่พอกับรายจ่าย แต่ก็ต้องซื้ออาหารให้ช้างเหล่านี้ส่วนใหญ่เป็นต้นสับปะรด เฉลี่ยวันละ 400 บาท ตอนนี้มีชาวบ้านและผู้ใจดีทราบข่าวถึงผลกระทบที่เกิดขึ้นจากสื่อออนไลน์ หรือมาที่หมู่บ้านช้างที่ผ่านมาก็นำกล้วย อ้อย พืชผักหรือผลไม้อื่นๆ มาเลี้ยงช้างกัน แต่พอมาเจอการระบาดของโควิด-19 จากแรงงานพม่าในโรงงานสับปะรด ตั้งแต่ต้นเดือนที่ผ่านมา ทำให้ผู้มาบริจาคไม่กล้าเดินทางออกมากัน ทั้งๆ ที่หมู่บ้านช้างหัวหินเรามีทั้งการสแกนอุณหภูมิ และจัดที่ล้างมือด้วยเจลแอลกอฮอล์ ปฏิบัติตามมาตรการความปลอดภัยของรัฐบาลอย่างเคร่งครัดแล้วก็ตาม ตอนนี้ควาญช้างติดตั้งกล่องทริปเพื่อที่จะนำเงินไปซื้ออาหารให้ช้าง
แต่อย่างไรก็ตาม ถึงแม้จะต้องแบกรับภาระค่าใช้จ่ายที่สูง ก็ต้องพยามดูแลทั้งควาญช้าง และช้างในหมู่บ้านช้างไปด้วยให้พวกเขาได้มีกินถึงบางครั้งจะไม่มากก็ตาม ซึ่งหวังว่าในทุกๆ วันจะมีผู้ใจดีมานั่งช้างชมธรรมชาติ หรือซื้ออาหารหารมาให้ช้างได้กินกัน
ด้านนางพรรณพร สินสมุทร เจ้าของร้านเครื่องเขียนในตำบลหินเหล็กไฟ อ.หัวหิน ยอมรับว่าทุกวันนี้ถึงแม้ลูกค้าทั้งชาวไทยและชาวพม่า ที่เข้ามาซื้อของภายในร้านจะลดลงมากก็ตาม แต่ก็ต้องเปิดขายของ เพียงแต่ต้องมีการป้องกันโดยลูกค้าที่จะเข้ามาที่ร้านต้องใส่แมสก์ ล้างมือด้วยเจลแอลกอฮอล์ที่จัดเตรียมไว้บริเวณประตูทางเข้าร้าน และจะอยู่ระยะห่างในช่วงจ่ายเงิน
โดยหลังลูกค้าออกจากร้านไปแล้วจะต้องใช้แอลกอฮอล์เช็ดถูมือจับประตูต่างๆ ภายในร้าน เพื่อความปลอดภัยของตัวเองและบุคคลในครอบครัว ไม่ว่าจะเป็นลูกค้าชาวไทยและชาวพม่าหากไม่สวมแมสก์จะไม่ให้เข้ามาในร้านเด็ดขาด