ประจวบคีรีขันธ์ - ภาคธุรกิจท่องเที่ยวหัวหิน/ชะอำ ยังคงคาดหวังว่าน่าจะได้วัคซีนประมาณ 50% ตามโครงการ Hua Hin Recharge สำหรับบุคลากรในภาคธุรกิจการท่องเที่ยว เพื่อให้เมืองหัวหินเป็นพื้นที่นำร่องเปิดต้อนรับนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้ามาโดยไม่ต้องกักตัว ภายในวันที่ 1 ต.ค.นี้
น.ส.วาสนา ศรีกาญจนา นายกสมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวหัวหิน/ชะอำ กล่าวว่า ภายหลังจากที่นายกรด โรจนเสถียร กรรมการสภาหอการค้าแห่งประเทศไทยและนายกสมาคมสปาไทย หอการการจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ สมาคมธุรกิจท่องเที่ยวหัวหิน/ชะอำ ตลอดจนภาคเอกชนในพื้นที่เมืองหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ได้นำเสนอโครงการ Hua Hin Recharge ให้นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข และนายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เมื่อปลายเดือนที่ผ่านมานั้น
เพื่อขอให้รัฐบาลเร่งจัดหาวัคซีนสำหรับบุคลากรในภาคธุรกิจการท่องเที่ยว และประชาชนในเมืองหัวหิน ในจำนวนที่เพียงพอ 70% ของประชากรในพื้นที่ 80,000-90,000 คน และยังคงคาดหวังว่าจะเริ่มทำการฉีดตั้งแต่เดือนมิถุนายน-สิงหาคม ตามจุดต่างๆ ที่ทางคณะทำงานได้กำหนดสถานที่ซึ่งมีความพร้อม เพื่อให้เมืองหัวหินเป็นพื้นที่นำร่องเปิดต้อนรับนักท่องเที่ยวต่างชาติที่ได้รับวัคซีนครบ 2 โดส ให้สามารถเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวได้โดยไม่ต้องกักตัว ภายในวันที่ 1 ต.ค.
เพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจในพื้นที่หลังจากอำเภอหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ต้องเจอปัญหาสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ในระลอกใหม่จากสถานบันเทิงในเขตเทศบาลเมืองหัวหิน มาตั้งแต่ต้นเดือนเมษายนเป็นเวลา 1 เดือนกว่า และส่งผลกระทบต่อภาคธุรกิจท่องเที่ยวทั้งระบบ ทั้งโรงแรม รีสอร์ต ศูนย์การค้า สนามกอล์ฟ ร้านอาหาร ตลาดโต้รุ่ง ตลอดจนกิจการต่างๆ ที่ต่อเนื่องกับการท่องเที่ยว และประชาชน
โดยต้องยอมรับว่า ปัจจุบันมีทั้งการปิดกิจการชั่วคราว ปิดถาวร ประกาศขาย เช่า เซ้ง เพราะต้องยอมรับว่าเจ้าของกิจการบางรายทนกับสภาพขาดทุนไม่ไหว เนื่องจากโควิด-19 เริ่มกระทบมาตั้งแต่ต้นปี 2563 แล้ว คงต้องยอมรับว่าอัตราการเดินทางของนักท่องเที่ยวที่เข้ามาในพื้นที่ลดลงไปถึง 90% เมื่อภาคธุรกิจได้รับผลกระทบยังส่งผลไปถึงพนักงาน ลูกจ้างที่ต้องถูกเลิกจ้าง ประชาชนในพื้นที่ได้รับผลกระทบเป็นลูกโซ่ด้วยเช่นกัน
นายกสมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวหัวหิน/ชะอำกล่าวอีกว่า วัคซีนที่ขอไปจำนวน 3 แสนโดส นั้นตอนนี้ตั้งความหวังว่าหากวัคซีนที่รัฐบาลสั่งเข้ามาไม่เพียงพอต่อความต้องการเพราะไม่ใช่มีเพียงเมืองท่องเที่ยวเฉพาะเราเท่านั้นที่ต้องการ ดังนั้น อย่างน้อยน่าจะได้รับการจัดสรรวัคซีนประมาณ 1.5 แสนโดส หรือ 50% จากที่ทำเรื่องเสนอขอไป 3 แสนโดส ทั้งนี้ ทราบว่ารัฐมนตรีการท่องเที่ยวและกีฬา จะนำโครงการ Hua Hin Recharge เข้าสู่ที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายการท่องเที่ยวแห่งชาติ (ททช.) ซึ่งมีนายอนุทิน ชาญวีรกุล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เป็นประธานที่ประชุม ในวันที่ 6 พฤษภาคมนี้เพื่อพิจารณาต่อไปว่าจะได้วีคซีนตามที่ทางคณะทำงาน Hua Hin Recharge ได้เสนอไปหรือไม่อย่างไร
อย่างไรก็ตาม ผู้ประกอบการร้านค้าหัวหิน กล่าวว่า ตามที่ภาคเอกชนได้ทำเรื่องเสนอขอให้รัฐบาลมีการฉีดวัคซีนให้ผู้ประกอบการ พนักงาน และประชาชนในพื้นที่อำเภอหัวหิน เป็นเรื่องที่ดี เพราะยังไงก็ต้องไปฉีดวัคซีนเพื่อสร้างความปลอดภัยให้ผู้มาใช้บริการในพื้นที่เมืองหัวหิน เนื่องจากขณะนี้ส่วนใหญ่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของไวรัสโควิด-19
