รองโฆษกรัฐบาลเผย “อนุทิน-พิพัฒน์” ตรวจเยี่ยมศูนย์แรกรับผู้ติดเชื้อโควิด ตั้งเป้า 1 สัปดาห์ไม่มีผู้ป่วยตกค้างที่บ้าน พร้อมวางแผนหลังรักษาผู้ป่วยหมดแล้วเปลี่ยน รพ.สนามเป็นสถานที่ฉีดวัคซีนสำหรับกลุ่มวอล์กอินไม่สามารถลงทะเบียนผ่านระบบ
วันนี้ (29 เม.ย.) น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ช่วงบ่ายของวันนี้ นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.สาธารณสุข พร้อมด้วยนายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รมว.การท่องเที่ยวและกีฬา ผู้บริหารกระทรวงสาธารณสุข และกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ได้เดินทางไปตรวจศูนย์แรกรับผู้ติดเชื้อโควิด-19 ณ อาคารนิมิบุตร สนามกีฬาแห่งชาติ
โดยศูนย์แรกรับผู้ติดเชื้อโควิด-19 แห่งนี้จะเป็นศูนย์ช่วยบริหารจัดการสำหรับผู้ที่ยืนยันว่าเป็นผู้ติดเชื้อโควิด-19 ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร แต่ยังตกค้างอยู่ที่บ้านยังไม่สามารถหาเตียงในสถานพยาบาลได้ เป็นศูนย์ที่ผู้ป่วยติดต่อผ่านคอลเซ็นเตอร์ 0-2079-1000 เพื่อให้รถไปรับที่บ้าน หรือเดินทางมาเองโดยรถส่วนตัวเพื่อเข้ารับการดูแลเบื้องต้น คัดกรองและแยกระดับอาการเขียว เหลือง แดง ก่อนส่งต่อไปยังสถานพยาบาลตามอาการ ซึ่งจะลดปัญหาผู้ป่วยติดค้างที่บ้านได้
ทั้งนี้ รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.สาธารณสุขกล่าวภายหลังตรวจเยี่ยมศูนย์แรกรับผู้ติดเชื้อโควิด-19 ว่า หน่วยงานภายใต้กระทรวงสาธารณสุขและกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาได้ระดมสรรพกำลังในการจัดตั้งศูนย์แรกรับผู้ติดเชื้อโควิด-19 ให้เกิดขึ้นได้อย่างรวดเร็วเพื่อช่วยผ่อนคลายปัญหาคอขวดการส่งต่อผู้ป่วยโควิด-19 ในกรุงเทพฯ โดยผู้ที่ได้รับการยืนยันว่าติดเชื้อโควิด-19 ติดต่อผ่านคอลเซ็นเตอร์ของเครือข่ายเอไอเอส เบอร์ 0-2079-1000 จำนวน 40 คู่สาย จากนั้นจะมีรถจากเครือข่ายต่างๆ ที่เข้ามาร่วมทำงานไปรับที่บ้านมายังศูนย์ หรือสามารถเดินทางมายังศูนย์ด้วยตนเองแต่ต้องมาด้วยรถส่วนตัว จากนั้นศูนย์จะตรวจคัดกรองอาการแล้วส่งต่อไปยังสถานพยาบาลต่อไป หรือหากเกิดกรณีโรงพยาบาลเต็มที่ศูนย์ก็มีเตียงรองรับ 200 เตียง
“ที่ผ่านมาอาจจะมีปัญหาการส่งต่อผู้ป่วยไม่ทัน กระทรวงสาธารณสุขคำนึงถึงภาวะจิตใจของประชาชนโดยเฉพาะผู้ติดเชื้อที่รอรถพยาบาลอยู่บ้าน ท่านคงมีความกังวล ญาติๆ สมาชิกในครอบครัวก็คงจะกังวล จึงระดมเครือข่ายทั้งหมดเข้ามาทำงาน ซึ่งโดยได้รับความกรุณาจากท่านพิพัฒน์ รมว.การท่องเที่ยวและกีฬา ท่านปลัดการกีฬาแห่งประเทศไทย กรมพลศึกษา ตลอดจนเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง เข้ามาร่วมสนับสนุนการทำงานของหน่วยงานของกระทรวงสาธารณสุข เรามีเป้าหมายว่าภายใน 1 สัปดาห์จะไม่มีผู้ป่วยติดค้างและไม่ได้รับการรักษา เรามีอุปกรณ์เวชภัณฑ์พร้อม มีระบบการส่งต่อ คัดแยกพร้อมจะแก้ไขปัญหานี้ได้” รองนายกรัฐมนตรีกล่าว
นายอนุทินกล่าวว่า กระทรวงสาธารณสุขมีแผนว่าภายหลังสามารถรักษาผู้ป่วยโควิด-19 ได้หมดแล้วจะปรับทั้งศูนย์แรกรับผู้ติดเชื้อโควิด-19 และโรงพยาบาลสนามที่เกิดขึ้นทั่วประเทศเป็นสถานที่สำหรับฉีดวัคซีนให้แก่ประชาชน โดยเฉพาะกลุ่มที่วอล์กอินเข้ามารับวัคซีน โดยเฉพาะกลุ่มที่ไม่สะดวกในการลงทะเบียนผ่านระบบจองวัคซีน คือเพียงมีบัตรประชาชนก็เข้ารับวัคซีนได้ โดยพื้นที่โรงพยาบาลสนามเดิมจะสะดวกต่อการให้บริการเนื่องจากวัคซีนโควิด-19 เป็นวัคซีนใหม่ ต้องมีพื้นที่ขนาดใหญ่สำหรับเป็นพื้นที่เฝ้าสังเกตอาการหลังการฉีดวัคซีน 30 นาที
“ที่เราจะให้มีพื้นที่สำหรับผู้ที่วอล์กอินเข้ามารับวัคซีนได้ เพราะเรามั่นใจว่าจะมีวัคซีนส่งเข้ามาจำนวนมาก ตั้งแต่ 1 มิ.ย. 2564 เป็นต้นไป เพียงพอให้ประชาชนที่จองผ่านทางแอปพลิเคชัน กับ อสม. รวมถึงช่องทางอื่นๆ รับเป็นบุคคล เป็นกลุ่ม ตลอดจนผู้จะวอล์กอิน โดยทุกกลุ่มจะได้รับวัคซีนอย่างมีประสิทธิภาพมากที่สุด” รองนายกรัฐมนตรีกล่าว