ประจวบคีรีขันธ์ - "หัวหินน่าห่วง" ยังไร้ไทม์ไลน์ 115 ราย แรงงานพม่าติดเชื้อโควิด-19 สสจ.ประจวบฯ ยอมรับมีปัญหาการสื่อสาร เตรียมขอวัคซีน 1,000 โดสกรณีพิเศษ ฉีดให้ประชาชนรอบโรงงาน สร้างความมั่นใจ
วันนี้ (9 พ.ค.) นายแพทย์สุริยะ คูหะรัตน์ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัด (สสจ.) ประจวบคีรีขันธ์ เปิดเผยว่า กรณีการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ในโรงงานสับปะรดกระป๋องบริษัท ควอลิตี้ ไพน์แอปเปิล โปรดักส์ ริมถนนบายพาสชะอำ-ปราณบุรี หมู่ที่ 3 บ้านหนองนกน้อย ต.หินเหล็กไฟ อ.หัวหิน ตรวจพบการระบาดเป็นกลุ่มก้อนเป็นคลัสเตอร์ใหม่ พบผู้ติดเชื้อโควิด-19 จำนวน 115 คน ในกลุ่มลูกจ้างชาวพม่า มีการจัดสถานที่สำหรับการกักตัวในโรงงาน หลังการคัดกรองพบว่าเป็นผู้ที่มีความเสี่ยงสูง ต้องกักตัวในโรงงาน 402 คน ถึงวันที่ 20 พฤษภาคม ล่าสุด พบผู้เสี่ยงสูง 16 ราย มีอาการไข้จึงนำไปตรวจหาเชื้อและรอผลการตรวจจากห้องปฏิบัติการ
ยืนยันว่าโรงงานแห่งนี้ไม่มีแรงงานเถื่อน สำหรับการเปิดเผยไทม์ไลน์ของผู้ป่วยชาวพม่ายอมรับว่ามีปัญหาในทางปฏิบัติ เนื่องจากการใช้ภาษาเพื่อการสื่อสารมีความยุ่งยากเป็นอย่างมาก แต่จากการสอบถามผ่านล่ามพบว่าผู้ติดเชื้อทุกรายไม่มีความซับซ้อนของไทม์ไลน์ ไม่ได้ไปไหนไกลจากโรงงาน แต่เพื่อความสบายใจของประชาชนในหมู่บ้านหนองนกน้อย และพื้นที่ใกล้เคียง
ขอเรียนว่าเจ้าหน้าที่หลายหน่วยได้บูรณาการควบคุมสถานการณ์ได้ โดยขอสนับสนุนวัคซีนโควิด-19 จำนวน 1,000 โดส ฉีดให้ประชาชนรอบโรงงานเป็นกรณีพิเศษเพื่อให้ประชาชนมีความมั่นใจมากยิ่งขึ้น และหลังจากนี้ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่สุ่มตรวจคัดกรองหาเชื้อจากคนงานในโรงงานอุตสาหกรรม โรงเรียนในทุกอำเภอ
นายแพทย์สุริยะ คูหะรัตน์ นายแพทย์สาธารณสุขประจวบฯ กล่าวอีกว่า สำหรับคลัสเตอร์ที่ยังหวั่นวิตกคือ การติดเชื้อจากบุคคลในครอบครอบครัวที่ถอดหน้ากากอนามัยรับประทานอาหารร่วมกัน และล่าสุดได้แจ้งเตือนผู้ที่ไปรับประทานอาหารตั้งแต่ 22 เม.ย.ถึง 2 พ.ค.ในร้านอาหารญี่ปุ่นยาโยอิที่ห้างมาร์เก็ตวิลเลจหัวหิน 10 กว่าราย ร้านอาหารซีฟูดเจ๊เขียว ชุมชนตะเกียบหัวหิน 20 กว่าราย และร้านมหาอร่อย หัวหิน กว่า 20 ราย ทั้งหมดเจ้าหน้าที่ได้นำไปตรวจหาเชื้อและกักตัว 14 วันแล้ว ส่วนบุคคลที่มีอาการผิดปกติให้ไปตรวจหาเชื้อที่สถานพยาบาลใกล้บ้าน
