ศูนย์ข่าวนครราชสีมา - ข่าวดี! โคราชพบผู้ป่วยติดเชื้อโควิด-19 เพิ่มแค่ 7 ราย น้อยสุดในรอบ 24 วัน ยอดผู้ป่วยสะสม 661 ราย ขณะ ตม.โคราชแจ้งข้อหาเพิ่ม “หนุ่มยูกันดา” ป่วยโควิดปกปิดข้อมูล อยู่ในราชอาณาจักรโดยผิดกฎหมาย พร้อมสอบเอาผิดเมียชาวเสิงสางฐานให้ที่พำนักชาวต่างชาติโดยไม่แจ้ง
วันนี้ (4 พ.ค.) ที่ห้องประชุมสำนักงานการท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดนครราชสีมา ศูนย์บัญชาการเหตุการณ์ตอบโต้โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 จังหวัดนครราชสีมา นายวิเชียร จันทรโณทัย ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา ประธานคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัด พร้อมด้วย พญ.อารีย์ เชื้อเดช รองนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดนครราชสีมา, พ.ต.ท.หญิง อุดมลักษณ์ สวัสดิ์กลาง สารวัตรสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดนครราชสีมา และคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดฯ ร่วมกันแถลงข่าวสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ระลอกใหม่เดือนเมษายนในพื้นที่ จ.นครราชสีมา ระบุว่า วันนี้พบผู้ป่วยยืนยันติดเชื้อโควิด-19 เพิ่มจำนวน 7 ราย ถือเป็นข่าวดีที่จังหวัดนครราชสีมาพบผู้ติดเชื้อน้อยที่สุดในรอบ 24 วัน แต่เราไม่ได้นิ่งนอนใจ ไม่ได้ประมาท ยังคงคุมเข้มการปฏิบัติตามมาตรการอย่างเคร่งครัด
โดยผู้ป่วยรายใหม่ทั้ง 7 รายตรวจพบที่อำเภอเมืองนครราชสีมา 4 ราย, อ.ปักธงชัย 2 ราย, อ.สีดา 1 ราย รวมผู้ป่วยสะสม 661 ราย กระจายใน 28 อำเภอ หายป่วยสะสม 257 ราย เสียชีวิตสะสม 1 ราย คงเหลือรักษาตัว 403 ราย สำหรับข้อมูลโรงพยาบาลสนาม มีผู้ป่วย 24 ราย แบ่งเป็นชาย 8 ราย หญิง 16 ราย คงเหลือเตียงว่างใน รพ.สนาม 76 เตียง
สำหรับมาตรการในขณะนี้ยังคงขอความร่วมมือให้พี่น้องประชาชนงดออกนอกเคหสถาน หรืองดเดินทาง ในช่วงเวลา 23.00-04.00 น. อีกทั้งผู้ที่เดินทางมาจากพื้นที่สีแดงเข้มจะต้องรายงานตัวต่อ อสม.และหน่วยงานภาครัฐ อย่างไรก็ตาม ต้องขอประชาสัมพันธ์ขอความร่วมมือไปยังพี่น้องประชาชนอย่าปกปิดข้อมูลไทม์ไลน์ ขอให้แจ้งแพทย์ พยาบาล บุคลากรทางการแพทย์ อสม. แพทย์ รพ.ส่งเสริมสุขภาพตำบลตามข้อเท็จจริง เพื่อเราจะได้ดูแลแก้ไขและช่วยกันป้องกันอย่างเข้มแข็ง
ในส่วนที่ผู้ประกอบการเดินรถในพื้นที่จังหวัดนครราชสีมา โดยทางชมรมผู้ประกอบการรถโดยสาร จ.นครราชสีมา มีการยื่นข้อเสนอให้คณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดพิจารณาให้ประกาศหยุดการเดินรถในพื้นที่ที่มาจากพื้นที่เสี่ยงนั้น เรื่องนี้คณะกรรมการโรคติดต่อได้ประชุมหารือกันแล้วยังไม่เห็นชอบ และยังไม่มีความจำเป็นจะต้องประกาศหยุดเดินรถโดยสารแต่อย่างใด เนื่องจากยังมีประชาชนที่มีความจำเป็นต้องเดินทางจะได้รับความเดือดร้อน
หากจะมีการประกาศหยุดเดินรถจากพื้นที่เสี่ยงนั้นส่วนกลางต้องเป็นหน่วยงานที่ประกาศหยุดการเดินทางทางรถ เนื่องจากยังมีรถโดยสาร รถไฟ จากจังหวัดอื่นๆ ที่ไม่ใช่พื้นที่สีแดงเข้มยังคงวิ่งผ่านจังหวัดนครราชสีมาอยู่ หากจะหยุดการเดินรถเพื่อควบคุมโรคยังคงไม่มีเหตุผลพอ แต่หากเป็นความเดือดร้อนด้านอื่นก็ให้ผู้ประกอบการเดินรถส่งข้อเสนอมาให้คณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดพิจารณา
ขณะที่ พ.ต.ท.หญิง อุดมลักษณ์ สวัสดิ์กลาง สารวัตรสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดนครราชสีมา เปิดเผยถึงกรณีชาวยูกันดาที่ติดเชื้อโควิด-19 เข้ามาในพื้นที่อำเภอเสิงสาง จ.นครราชสีมา ว่า จากการตรวจประวัติพบว่าชาวยูกันดารายนี้เดินทางเข้ามาในประเทศไทยตั้งแต่วันที่ 26 ส.ค. 2561 เข้ามาด้วยวีซ่าประเภทนักท่องเที่ยว ซึ่งสามารถอยู่ในราชอาณาจักรได้ 60 วัน ซึ่งสิ้นสุดในวันที่ 24 ต.ค. 2561 แต่จากข้อมูลได้มีการแจ้งที่พักอาศัยเมื่อวันที่ 4 มี.ค. 62 ที่ จ.สุราษฎร์ธานี หลังจากนั้นไม่ได้มีการแจ้งขอทำเรื่องอยู่ต่อหรือมีการรายงานตัวภายใน 90 วันเพื่อแจ้งที่อยู่แต่อย่างใด ซึ่งทาง ตม.นครราชสีมาได้ทราบเรื่องการเข้ามาในพื้นที่ จ.นครราชสีมาจากไทม์ไลน์ของผู้ป่วยชาวยูกันดา และไม่มีการแจ้งเรื่องเข้ามาในพื้นที่ หรือแจ้งเรื่องการมีภรรยาเป็นชาวเสิงสางแต่อย่างใด
ทั้งนี้ ทาง ตม.นครราชสีมาได้ดำเนินการกล่าวโทษร้องทุกข์ต่อชาวยูกันดารายนี้แล้วที่ สภ.เสิงสาง ในข้อหา “เป็นบุคคลต่างด้าวที่อยู่ในราชอาณาจักรโดยผิดกฎหมาย” ตามมาตรา 81 พ.ร.บ.คนเข้าเมือง มีโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี ปรับไม่เกิน 20,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ส่วนภรรยาชาวอำเภอเสิงสางจะถูกดำเนินคดีด้วยหรือไม่ต้องมีการสอบสวนว่าได้ให้ที่พำนักแก่ชาวต่างชาติคนนี้หรือไม่ หากทะเบียนบ้านเป็นชื่อบุคคลใดเป็นเจ้าบ้านก็จะถูกดำเนินคดีตามกฎหมายในฐานไม่แจ้งว่ามีบุคคลต่างด้าวเข้ามาพัก ภายใน 24 ชม.