เชียงใหม่ - น่าจับฟาดก้น! แก๊งสาววัยรุ่นเชียงใหม่กลุ่มเสี่ยงโควิด-19 ฝ่ามาตรการควบคุมโรคพื้นที่สีแดงเข้ม ตั้งวงดื่มเหล้าและทะเลาะกันจนได้แผลต้องเข้า รพ. ไม่วายก่อเรื่องวุ่นมีปากเสียงหน้าห้องฉุกเฉิน แถมไม่สวมมาสก์ด่ากราด จนท.ที่ซักประวัติและคัดกรองเข้มตามมาตรการป้องกันควบคุมโรค จากนั้นยังกล้าถ่ายคลิปโพสต์กล่าวหาโดนปฏิเสธการรักษา ด้าน จนท.สุดท้อใจโพสต์โต้แฉยับความจริง
รายงานจากจังหวัดเชียงใหม่แจ้งว่า วันนี้ (4 พ.ค. ) ผู้ใช้โซเชียลมีเดียต่างแสดงความคิดเห็นวิพากษ์วิจารณ์อย่างกว้างขวางกรณีที่หญิงสาวผู้ใช้ TIKTOK รายหนึ่งโพสต์คลิปวิดีโอภาพเหตุการณ์บริเวณจุดรับผู้ป่วยฉุกเฉินของโรงพยาบาลแห่งหนึ่งในจังหวัดเชียงใหม่ที่กลุ่มหญิงสาวที่เป็นเพื่อนกันมีปากเสียงกันเอง ในสภาพที่เชื่อได้ว่าน่าจะมึนเมา ช่วงกลางดึกที่ผ่านมา ซึ่งในคลิปปรากฏภาพเจ้าหน้าที่สวมชุด PPE ป้องกันเชื้อโควิด-19 ด้วย
พร้อมบรรยายข้อความว่า “โดนแกล้งบาดแผลฉีกกว้างมาก เข้าใจหมอนะว่าเหนื่อยเพราะช่วงนี้โควิดระบาด#เชียงใหม่ ขอร้องอ้อนวอนหมอให้รักษาแผลน้องแต่หมอไม่ยอมรักษา#โรงพยาบาลนครพิงค์” ซึ่งมีผู้เข้าไปแสดงความเห็นจำนวนมาก ส่วนหนึ่งเห็นใจทางฝ่ายผู้โพสต์ แต่ส่วนใหญ่ตำหนิว่าการกระทำของฝ่ายผู้โพสต์ไม่เหมาะสมอย่างยิ่ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในสถานการณ์การระบาดของโควิด-19 ที่กลุ่มของผู้โพสต์ยังคงมีการตั้งวงสังสรรค์ดื่มกินกันจนมีเหตุให้เกิดอุบัติเหตุและได้รับบาดเจ็บ ทั้งที่มีการขอความร่วมมือให้งดการจัดเลี้ยงสังสรรค์ทุกรูปแบบตามมาตรการป้องกันควบคุมโรค แถมยังก่อความวุ่นวายในบริเวณโรงพยาบาลอีก
ขณะเดียวกันรายงานแจ้งว่าผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อ “หวานใจ โดเรมอน” ซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลนครพิงค์ อำเภอแม่ริม จังหวัดเชียงใหม่ ได้โพสต์เชิงตัดพ้อและชี้แจงเกี่ยวกับกรณีดังกล่าวว่า “#เวชกิจขอบอกเล่า เคสนี้เมื่อคืนเราอยู่จุดคัดกรองเอง น้องกลุ่มนี้มาด้วยเรื่องมีแผลตรงข้อแขน ทีแรกเพื่อนน้องโทร.มา 1669 ขอรถไปรับ ทางเราก็ซักประวัติตามแผน ช่วงนี้โควิดระบาดหนัก เราจึงจำเป็นเน้นย้ำในการซักประวัติเรื่องความเสี่ยงโควิดค่อนข้างเข้มนิดหนึ่งเพื่อป้องกันน้องๆ ทีมที่จะออกรับ #ซักประวัติได้ว่า กลุ่มนี้แจ้งว่ามีเพื่อนเป็นโควิด แล้วน้องๆ กลุ่มนี้ก็จัดอยู่ในกลุ่มเสี่ยงและอยู่ในช่วงกักตัว แต่วันที่เกิดเหตุน้องกลุ่มนี้ซื้อเหล้ามาดื่มกันแล้วเกิดทะเลาะกันในกลุ่ม ทางศูนย์จึงให้น้องรอขอประสานทีมก่อนทีมออกรับ
แต่อีกสักพักกลุ่มนี้ก็ขี่มอเตอร์ไซค์มา 2 คัน 6 คน น้องคนเสื้อดำมีแผลที่แขนมาแบบไม่ใส่มาสก์และมาในสภาพเมาเอะอะโวยวายมาก เราจึงเข้าไปสอบถามตามหน้าที่จุดคัดกรองด้านล่าง แต่น้องเสื้อดำไม่ให้ความร่วมมือเราบอกใส่มาสก์ก็ไม่ยอมใส่..โวยวายตลอด เราก็ได้พูดว่าน้องสงบสติอารมณ์ก่อนถ้าน้องโวยวายและไม่ใส่มาสก์แบบนี้พี่ก็ให้ขึ้นไปตรวจไม่ได้เพราะมันเป็นความเสี่ยง เราพูดแบบให้เหตุผลน้องฟัง น้องคนเสื้อดำก็ไม่ยอมฟังเสียงดังมากไม่มีใครฟังใครจนในกลุ่มเกิดทะเลาะกันเองตบตีกันเองต่อหน้าเรา หลังจากนั้นเราก็ขอคุยกับเพื่อน แนะนำให้พาเพื่อนไปนั่งสงบสติก่อนถ้าดีขึ้นแล้วค่อยไปตรวจ เราไม่เคยคิดที่จะปฏิเสธคนไข้เลยแม้แต่น้อย แต่สิ่งที่น้องเขาเอาไปโพสต์มันกลับกันมากจริงๆ #ท้อใจสุดๆ” ซึ่งโพสต์ดังกล่าวมีผู้เข้าไปแสดงความเห็นและให้กำลังใจการทำงานของเจ้าหน้าที่เป็นจำนวนมาก
จากการสอบถามพบว่าเจ้าของโพสต์เป็นเจ้าหน้าที่ของโรงพยาบาลนครพิงค์ แผนกเวชกิจฉุกเฉิน ซึ่งคืนที่ผ่านมามีหน้าที่เข้าเวรจุดคัดกรองและต้องปฏิบัติหน้าที่ตามมาตรการเข้มข้นป้องกันโควิด แต่พบว่าเด็กสาวกลุ่มนี้เข้ามาเพื่อขอรับการรักษาด้วยอาการมึนเมา แถมยังมีปากเสียงทาะเลาะกันต่อที่โรงพยาบาล ทางเจ้าหน้าที่ขอร้องให้สงบแต่ไม่เชื่อฟังและเกิดเหตุตามคลิปภาพที่มีการส่งเสียงดังโวยวาย และตำหนิเจ้าหน้าที่ โดยในกลุ่มนี้มีหลายคนไม่สวมหน้ากากอนามัยตามมาตรการของทางจังหวัด และยังมีอาการมึนเมาจากการที่ตั้งวงดื่มเหล้ากันมา และจากการซักประวัติเบื้องต้นยังพบว่าน้องๆ กลุ่มนี้อยู่ในกลุ่มเสี่ยงโควิดด้วยและอยู่ในช่วงที่ต้องกักตัว
อีกทั้งยังนำคลิปภาพมาโพสต์ตำหนิการทำงานของเจ้าหน้าที่ทั้งๆ ที่ตนเองฝ่าฝืนมาตรการและไม่ปฏิบัติตามคำแนะนำของเจ้าน้าที่จุดคัดกรอง สุดท้ายเจ้าหน้าที่ก็รับตัวทำการรักษาพยาบาลเป็นที่เรียบร้อย แต่ก็ไม่เข้าใจว่าทำไมเอาเรื่องนี้มาโพสต์ตำหนิเจ้าหน้าที่ ทั้งที่เจ้าหน้าที่ต้องทำงานกันอย่างหนัก และต้องปฏิบัติตามมาตรการเข้มข้นป้องกันโควิด ก็ทำให้หลายคนรู้สึกท้อใจในการทำงานท่ามกลางสถานการณ์ ที่มีผู้ไม่รับผิดชอบต่อสังคมเช่นนี้