ลำปาง - เหยื่อแก๊งมิจฉาชีพส่งภาพอ้าง..พ่อเลี้ยงแอบถ่าย ล่อเด็กสาวลำปางติดกับ เปิดใจเผยขั้นตอนลวงทำเป็นขบวนการสร้างตัวละครล่อทีละขั้น ก่อนขู่ถ่ายภาพโป๊ส่งขายต่อ พอคนดูเริ่มเบื่อก็หาเหยื่อรายใหม่ โชคดีเคสนี้เรื่องแดงก่อน
ความคืบหน้ากรณีแก๊งมิจฉาชีพทักแชตลวง-ข่มขู่เหยื่อเป็นเด็กสาวชาว อ.เมืองปาน จ.ลำปาง ถ่ายภาพโป๊ส่งผ่านแอปพลิเคชันให้ตั้งแต่กลางปี 60 กระทั่งล่าสุดถูกนำมาโพสต์แชร์อ้างว่าเป็นภาพพ่อเลี้ยงแอบถ่ายลูกเลี้ยงเพื่อล่อลวงเหยื่อต่อ กระทั่งเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองปาน และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องตรวจสอบแล้วพบว่าเป็นฝีมือของมิจฉาชีพตกเด็กนั้น
ล่าสุด น.ส.เอ (นามสมมติ) ชาวลำปางซึ่งเป็นคนโพสต์ภาพ-ข้อความขอความช่วยเหลือดังกล่าว เปิดเผยว่า ความตั้งใจของตนที่โพสต์เรื่องดังกล่าวเพราะเมื่อเห็นเรื่องราวที่หลานสาวพูดคุยกับเด็กหญิง และคุยกับนายอำนวยที่บอกว่าเป็นพ่อเลี้ยงแล้วก็รู้สึกสงสารเด็กหญิงคนดังกล่าว แต่ไม่รู้ว่าจะช่วยอย่างไร ซึ่งคิดว่าหากโพสต์เพื่อให้หน่วยงาน จนท.เข้าไปช่วยเหลือน่าจะเป็นเรื่องดีที่สุด จึงตัดสินใจโพสต์
จุดประสงค์ของตนตอนนั้นคือต้องการช่วยเด็กไม่มีเจตนาอื่นใดแอบแฝง เพราะรายละเอียดต่างๆ ที่หลานสาวมีมันสอดคล้องกันเป็นเรื่องเป็นราวจนน่าเชื่อว่าเป็นเรื่องจริง ซึ่งตนก็ให้หลานสาวแคปฯ ภาพที่คุยกับคนที่อ้างว่าชื่ออำนวยและหญิงสาวทั้งหมดไว้เป็นหลักฐาน
“ขอยืนยันว่าข้อความทั้งหมดเป็นจริงไม่ได้เมกข้อมูลขึ้นมาเอง ส่วนที่ว่าจะเป็นเฟชบุ๊กที่คนร้ายปลอมแปลงขึ้นมาหรือไม่นั้นตนไม่ทราบ เพราะตอนนั้นต้องการเพียงแค่ช่วยเด็กเท่านั้น ซึ่งดิฉันได้นำแชตต่างๆ มอบแก่ตำรวจเพื่อเป็นข้อมูลในการสืบสวนแล้ว”
ขณะที่น้องการ์ตูน (นามสมมติ) อายุ 14 ปี หลานสาว น.ส.เอ ซึ่งเกือบตกเป็นเหยื่อของแก๊งมิจฉาชีพและเป็นผู้ที่ทักแชตพูดคุยกับกลุ่มมิจฉาชีพ เล่าให้ผู้สื่อข่าวฟังว่า เคสที่ตนเป็นเป้าหมายมีตัวละครมาดำเนินการทั้งหมด 4 คน คือ
1. สุดารัตน์ (นกต่อ) ทำหน้าที่เป็นแม่พระใจดี อ้างตัวเป็นโมเดลลิ่งที่เก็บโทรศัพท์ของเพื่อนในเฟซฯของตนได้และต้องการส่งคืนขอให้ตนติดต่อให้ด้วย
2. มุก แสดงเป็นน้องสาวของเหยื่อรายก่อนหน้า ซึ่งเป็นผู้เสียหายที่หลงเชื่อถ่ายภาพเปลือยของตนเองส่งให้คนร้าย
3. นุ่น แสดงเป็นเหยื่อ สวมรอยเป็นนุ่นตัวจริงที่เป็นเหยื่อรายก่อนหน้านั้น และ 4. อำนวย แสดงเป็นพ่อเลี้ยงหื่น
น้องการ์ตูน (นามสมมติ) เล่าว่า เหตุการณ์เริ่มขึ้นเมื่อวันที่ 26 เม.ย. 64 จู่ๆ คนชื่อสุดารัตน์ (ตัวละครที่ 1) ได้ทักแชตทางเฟซบุ๊กมาหาตน แล้วบอกว่า..เก็บมือถือไอโฟนของคนชื่อมุกได้ แต่ไม่สามารถติดต่อมุกได้เพราะไม่ได้เป็นเพื่อนกันในเฟซฯ จึงรบกวนตนช่วยประสานให้หน่อยเนื่องจากเห็นเป็นเพื่อนในเฟซฯ ต้องการจะคืนโทรศัพท์ให้ ทั้งๆ ที่ตนเองกับสุดารัตน์ก็ไม่เคยรู้จักกันมาก่อน แต่เป็นแค่เพื่อนในเฟซเท่านั้น
ซึ่งตนก็ได้ทักไปหาคนชื่อมุก (ตัวละครที่ 2) และบอกไปว่า..มีคนเก็บโทรศัพท์มือถือได้ ซึ่งต่อมาก็มีการประสานในการส่งโทรศัพท์คืน โดยมีตนเป็นตัวกลาง แต่คนชื่อมุกบอกว่าโทรศัพท์เป็นของพี่สาวคนละแม่ชื่อนุ่นเป็นชาว อ.เมืองปาน ก่อนจะส่งที่อยู่ให้คนชื่อสุดารัตน์เพื่อให้ส่งโทรศัพท์ให้
จากนั้นในวันที่ 27 เม.ย. 64 ก็มีคนอ้างตัวว่าชื่อนุ่น (ตัวละครที่ 3) ทักเข้ามาหาตนก่อนทำตัวมาตีสนิทและเล่าเรื่องพ่อเลี้ยงที่ชื่อว่าอำนวย (ตัวละครที่ 4) ให้ฟังว่า..เป็นพ่อเลี้ยงหื่นชอบแอบถ่ายภาพตอนที่ตัวเองเข้าห้องน้ำ และตอนนี้ทนไม่ไหวแล้ว
ต่อมาวันที่ 1 พ.ค. 64 คนที่อ้างว่าชื่อ “นุ่น-ตัวละครที่ 3” ก็ขอให้ตนช่วยคุยกับพ่อเลี้ยง (อำนวย) ให้หยุดคุกคามตัวเอง แล้วก็ส่งลิงก์แชตของคนชื่ออำนวยมาให้ แต่สุดท้ายเจรจาไม่สำเร็จตนกลัวนุ่นจะเกิดอันตรายจึงนำเรื่องที่เกิดขึ้นทั้งหมดไปปรึกษาน้าสาว (น.ส.เอ) เพราะคิดว่าเรื่องทั้งหมดเป็นเรื่องจริงเพื่อขอให้น้าสาวช่วยนุ่น น้าจึงโพสต์ภาพและข้อความลงในเฟซบุ๊กเพื่อขอความช่วยเหลือจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจนเป็นข่าวดังกล่าว
และหลังจากเรื่องกลายเป็นข่าวดัง ปรากฏว่าตัวละครทั้ง 4 คือ สุดารัตน์, มุก, นุ่น, อำนวย ได้บล็อกเฟซฯ และลบข้อความที่เคยคุยกับตนเองหนีไปหมด และไม่สามารถติดต่อใครได้อีกเลย จึงทำให้เชื่อว่าตัวละครทั้ง 4 เป็นทีมเดียวกันทำหน้าที่มาตีสนิทเพื่อหวังอะไรบางอย่างจากตน โดยเฉพาะคนที่ชื่อสุดารัตน์ที่อ้างตัวเป็นโมเดลลิ่ง ได้หลอกเอาข้อมูลของตนไปหลายอย่างมาก
แต่สิ่งที่คนร้ายไม่คาดคิดคือว่าแผนจะมาแตกเสียก่อนเพราะว่าน้าสาวนำเรื่องไปโพสต์ขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องช่วยเหลือนุ่น กระทั่งพบว่านุ่นตัวจริงก็มีตัวตนจริง ซึ่งเคยตกเป็นเหยื่อไปก่อนหน้านี้ด้วย ทำให้เชื่อได้ว่ากลุ่มนี้มีการทำงานอย่างมีแบบแผนเพื่อหลอกล่อให้เหยื่อตายใจ จึงอยากให้ตำรวจช่วยจับตัวแก๊งพวกนี้มาดำเนินคดีตามกฎหมายให้ได้เพราะเชื่อว่าอาจจะมีเด็กอีกหลายรายถูกหลอกในลักษณะนี้และอยากบอกเพื่อนที่ได้รับข้อความหรือถูกแชตมาในลักษณะนี้ขอให้นำเรื่องไปปรึกษาผู้ใหญ่ อย่าได้ทำอะไรด้วยตนเองเพราะจะต้องเป็นเหยื่อของแก๊งมิจฉาชีพได้ตลอดเวลา
กรณีดังกล่าวนี้ หากเรื่องไม่แดงเป็นข่าวก็จะมีตัวละครตัวที่ 5-6 ตามมา คือจะมีคนแสดงตัวเป็นเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องกับองค์กรสิทธิเด็กฯ แชตเข้ามาหาแล้วแจ้งให้ทราบว่าเหยื่อเกี่ยวข้องกับขบวนการหลอกเด็ก ซึ่งถือเป็นนกต่อและจะต้องถูกดำเนินคดี แต่หากไม่อยากถูกดำเนินคดีก็ต้องยอมเปลื้องผ้าถ่ายรูปโป๊ของตนเองไปแลก โดยมิจฉาชีพจะให้ใช้แบบวิดีโอคอลเปิดกล้อง ส่วนปลายทางจะปิดกล้องและให้เหยื่อโพสท่าทางตามคำสั่ง จากนั้นกลุ่มมิจฉาชีพจะนำรูปไปขายในกลุ่มลับ กระทั่งรูปดังกล่าวขายได้แล้วในระยะหนึ่งสมาชิกเริ่มเบื่อก็จะใช้วิธีการเดียวกันเพื่อหาเหยื่อรายต่อไปเรื่อยๆ