ศูนย์ข่าวขอนแก่น - “ป้าขอนแก่น” ไม่ทน ถูกคนในโซเชียลตำหนิอย่างเสียหาย เพราะเข้าใจผิดว่าเธอจอดซ้อนคันถูกล็อกล้อแล้วโวยวายใส่ตำรวจ เผยข้องใจทำไม ผกก.สภ.เมือง ไม่เชิญไปสอบถามข้อเท็จจริง ฟังความตำรวจลูกน้องข้างเดียว ด้านพ่อค้าแม่ค้าในตลาดออกโรงเป็นพยานป้าถูกล็อกล้อ ทั้งที่ติดเครื่องเปิดไฟกะพริบนั่งอยู่ในรถ
ผู้กองจราจรโกหกคำโต
กลายเป็นประเด็นร้อนในสังคมโซเชียลอยู่หลายวัน กรณีตั้งแต่เช้าของวันที่ 27 เม.ย.ที่ผ่านมา นางวัชราภรณ์ ผ่องใส หญิงชาวขอนแก่น ได้จอดรถติดเครื่องเปิดไฟกะพริบอยู่ริมถนนศรีจันทร์ ด้านหน้าร้านสะดวกซื้อ 7-11 ถนนศรีจันทร์ (ตลาดเช้า) ฝั่งตรงข้ามโรงพยาบาลขอนแก่น แล้วให้หลานสาวลงรถไปซื้อน้ำผลไม้สกัด แต่จู่ๆ ก็มีนายตำรวจทราบชื่อภายหลัง คือ ร.ต.อ.สุพิศม์ ไสยเลิศ รอง สว.(จร.) ได้ใช้เครื่องบังคับล้อรถยนต์มาล็อกล้อรถทันที พร้อมกับเขียนใบสั่ง แม้นางวัชราภรณ์จะร้องขอให้ปลดล็อกเพื่อเธอจะได้ขับไปจ่ายค่าปรับที่ สภ.เมืองขอนแก่น แต่ ร.ต.อ.สุพิศม์ ไม่ยอมรับฟัง ขับรถมอเตอร์ไซค์ออกไปทันที
ทำให้นางวัชราภรณ์ รู้สึกไม่ได้รับความเป็นธรรม จึงร้องทุกข์ต่อสื่อมวลชน ว่า ตำรวจจราจรนายนี้ ปฏิบัติหน้าที่โดยไม่คำนึงถึงความเดือดร้อนของประชาชน ที่ต้องจ้างรถไปส่งโรงพักและจ้างรถโดยสารกลับมาส่งจุดที่รถถูกล็อก เสียเวลาเสียค่าใช้จ่ายโดยใช่เหตุ ในยุคที่เดือดร้อนจากโรคระบาดโควิด-19 อยู่แล้วควรจะแก้ปัญหากันด้วยเหตุและผล ถ้อยทีถ้อยอาศัยกันมากกว่าจะใช้อำนาจทางกฎหมายเพียงอย่างเดียว ทันทีที่ข่าวเผยแพร่ออกไป มีคนแสดงความเห็นต่อว่าก่นด่านางวัชราภรณ์ หรือที่ถูกขนานนามว่า “ป้าขอนแก่น” อย่างเสียหายจำนวนมาก
ล่าสุด วันนี้ (1 พ.ค.) นางวัชราภรณ์ ได้เปิดเผยต่อสื่อมวลชนอีกครั้ง ว่า เธอได้รับความเสียหาย ถูกสังคมเข้าใจผิดจากผู้คนในโซเชียลที่ด่าตำหนิเธอ กล่าวหาว่าเธอไม่เคารพกฎหมาย โดยนางวัชราภรณ์ กล่าวว่า คนอ่านข่าวที่ตำหนิเธอนั้น ไม่ได้มองในประเด็นที่เธอต้องการสื่อสาร ตีความในสาระข่าวไม่แตก เธอยอมรับว่า ผิดจริงที่จอดรถในจุดที่ห้ามจอด และพร้อมจะไปจ่ายค่าปรับตามกฎหมาย แต่ที่เธอข้องใจมาก คือ กรณีที่ตำรวจไม่ยอมปลดล็อกล้อให้เธอ ทั้งที่ตัวเธอก็อยู่ในรถคันดังกล่าว ติดเครื่องยนต์เปิดไฟกะพริบ รอหลานสาวซื้อของเพียงไม่กี่นาที หรือไม่ก็ควรจะตักเตือนให้เลื่อนรถออกไปก็ยังได้
“ที่ติดใจคือ เมื่อตำรวจไม่ยอมปลดล็อกล้อแล้วจะให้ฉันไปโรงพักไปจ่ายค่าปรับได้ยังไง ต้องให้นั่งแท็กซี่ เรียกแกร็บคาร์มารับไปโรงพักอย่างนั้นหรือ ทำไมต้องให้ประชาชนเสียค่าใช้จ่ายเพิ่มอีก ก็ในเมื่อฉันอยู่กับรถอยู่แล้ว ก็แค่ปลดล็อก จะได้ขับรถไปเสียค่าปรับที่โรงพัก เรื่องมันก็จบ คนอ่านข่าวก็ตีประเด็นไม่แตก ก็พากันรุมด่าฉันด้วยถ้อยคำหยาบคายมาก” นางวัชราภรณ์ กล่าวและว่า
สิ่งที่เธอติดใจอีกอย่างคือ กรณีการให้สัมภาษณ์ของ พ.ต.อ.ปรีชา เก่งสาริกิจ ผกก.สภ.เมืองขอนแก่น ที่บอกว่า ตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงต่อการปฏิบัติหน้าที่ของ ร.ต.อ.สุพิศม์ แล้ว พบว่า ปฏิบัติหน้าที่ตามกฎหมาย เพราะรถจอดกีดขวางจราจร คือ จอดซ้อนคัน และไม่มีใครอยู่ที่รถ จึงต้องบังคับล็อกล้อ ซึ่งไม่ตรงกับข้อเท็จจริงเลย นั่นเท่ากับว่า ตำรวจจราจรนายนี้ พูดความเท็จตรงข้ามกับเหตุการณ์จริง มีพ่อค้าแม่ค้าพร้อมจะเป็นพยานยืนยันว่าตัวฉันนั่งอยู่บนรถที่ติดเครื่องเปิดไฟกะพริบอยู่ และทำไมทางท่านผู้กำกับไม่เชิญตัวฉันไปสอบถามสอบปากคำ เพื่อจะได้ฟังความทั้งสองฝ่าย ควรจะฟังความให้รอบด้าน แม้แต่พ่อค้าแม่ค้าในตลาดก็น่าจะมาสอบถามด้วย
นายอดิศักดิ์ ไชยศรี เจ้าของร้านสามแยกกระจกอลูมิเนียมและขายเนื้อในตลาด ซึ่งเห็นเหตุการณ์เล่าว่า ขณะเกิดเหตุนั้น ตนเห็นรถคันสีขาวมาจอดเสร็จ แล้วตำรวจก็ขี่มอเตอร์ไซค์ตามติดมา รีบลงมาล็อกล้อเลย
ตนก็แปลกใจว่า ทำไมรีบล็อกทั้งที่รถยังไม่ได้ดับเครื่อง และมีคนนั่งอยู่เบาะซ้ายข้างคนขับ น่าจะเตือนให้เลื่อนรถออกไปจอดที่อื่นมากกว่า
“ผมยังได้ตะโกนบอกตำรวจอยู่เลยว่าเดี๋ยวเขาก็ขับไปแล้ว เขาอยู่ใกล้ๆ นี่เอง แต่ตำรวจเรียกผมไปบอกว่า คุณขวางการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ผมงงมากกว่า ไปขัดขวางหน้าที่อะไรของเขา ก็เลยหยิบโทรศัพท์มาถ่ายคลิปตอนเกิดเหตุไว้ ช่วงนั้นคนในตลาดยังไม่เยอะเพิ่งจะเจ็ดโมงเช้าเอง รถก็ยังไม่ติด ก็น่าจะตักเตือนกันก่อน”
นายนิคม จันทร์ศรีเสาร์ พ่อค้าขายข้าวจี่ 100 ล้าน เปิดเผยว่า ตอนเกิดเหตุตนเห็นลูกสาวหรือหลานสาวของคุณป้าลงมาซื้อน้ำปั่น 2 ถุง ส่วนคุณป้าก็อยู่บนรถนั่นแหละ เจ้าหน้าที่ตำรวจก็ขี่รถตรงมาล็อกล้อรถที่คุณป้านั่งอยู่ แล้วคุณป้าก็ลงมาพูดเสียงดังว่าอย่าเพิ่งล็อกล้อได้ไหม เขียนใบสั่งได้ไหม จะไปเสียค่าปรับเอง เพราะมันเสียเวลา แต่ตำรวจคนนั้นไม่สนใจ ทั้งที่รถยังสตาร์ทเครื่องอยู่ พวกผมเห็นก็งง
ด้าน นางธนวันต์ สกลนุรักษ์ แม่ค้าขายลอตเตอรี พยานอีกคนหนึ่งที่เห็นเหตุการณ์ บอกว่า ตอนที่สารวัตรตำรวจเดินตรงจะไปล็อกล้อ คุณป้าที่นั่งอยู่บนรถก็บีบแตร และตะโกนบอกว่าอย่าเพิ่งล็อกจะไปแล้ว หลานสาวที่ลงไปซื้อน้ำปั่นก็รีบวิ่งมาร้องขอตำรวจว่าอย่าล็อกได้ไหม สารวัตรคนนั้นบอกว่าไม่ได้ ต้องล็อก แล้วป้าก็ลงจากรถบอกว่าทำไมต้องรังแกประชาชนอย่างนี้ ทั้งที่แกก็ไม่ได้จอดซ้อนคัน สารวัตรตำรวจคนนี้คนเจอแกล็อกล้อเยอะ บางคันผัวจอดติดเครื่องเพราะเมียให้นมลูกรออยู่บนรถ แล้ววิ่งไปซื้อข้าวเหนียว ก็ยังถูกล็อกรถ
“เป็นที่รู้กันว่า สารวัตรตำรวจคนนี้ไม่มีปรานี จะล็อกล้อรถอย่างเดียว ไม่มีคำว่าเตือน แม่ค้าเขาเอื้อมระอา ทุกวันนี้ยิ่งทำมาค้าขายยากอยู่แล้ว เงินทองหาลำบาก น่าจะถ้อยทีถ้อยอาศัยกันไป แต่ถ้าคนใช้รถมีเจตนาทำผิดกฎหมาย จอดซ้อนคันดับเครื่องแล้วเดินไปจากรถ อันนี้ไม่มีใครว่า ให้ล็อกเลย ไม่มีใครอยากทำผิดกฎหมายหรอก” แม่ค้าลอตเตอรีกล่าว