ชาวบ้านกว่า 40 คนโวยลั่นหลังตำรวจเรียกวัยรุ่นขี่ จยย.ตรวจค้นเอาปืนจ่อ รอง ผกก.สส.สภ.บางแม่นาง ระบุลูกน้องติดตามวัยรุ่นหลบหนีตรวจค้นกลับถูกชักมีดต่อสู้ จนท. ยันแค่จับปืนตามยุทธวิธีเตรียมป้องกันตัวยังไม่ได้ชักออกมา
วันนี้ (27 เม.ย.) จากกรณีเมื่อเวลา 22.00 น. วันที่ 26 เม.ย. 64 ที่ผ่านมา ที่หมู่บ้านตะวันงาม ต.บางแม่นาง อ.บางใหญ่ จ.นนทบุรี ได้เกิดเหตุวุ่นวายชุลมุนระหว่างเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บางแม่นาง และชาวบ้านกว่า 40 คน โต้เถียงกันลั่นภายในหมู่บ้าน โดยกลุ่มชาวบ้านหาว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจทำเกินกว่าเหตุใช้ปืนจ่อหัวเด็กวัยรุ่น แต่ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้พยายามอธิบายว่าเป็นเรื่องเข้าใจผิด เพราะวัยรุ่นทั้งหมดแข่งรถกันมาเลยเรียกตรวจค้นก่อนขี่ จยย.หลบหนี จึงตามมาและถูกวัยรุ่นใช้มีดตรงเข้ามาจะทำร้าย จึงใช้ยุทธวิธีรวบตัวไว้ได้ แต่ชาวบ้านไม่ยอมต่างพากันเอะอะโวยวายใส่เจ้าหน้าที่ตำรวจจนเหตุการณ์ไม่มีทีท่าว่าจะยุติ
ต่อมาทาง พ.ต.ท.ศุภชัย ศรีศักดิ์ รองผกก.สส.สภ.บางแม่นาง นายสมพล สุรสัจจะ ปลัดอำเภอบางใหญ่ เดินทางมาที่เกิดเหตุ พร้อมเจรจาและขอให้ชาวบ้านไปพูดคุยหาข้อยุติที่โรงพัก ใช้เวลาราวหนึ่งชั่วโมง หลังฟังเหตุผลจากเจ้าหน้าที่ตำรวจแล้วชาวบ้านทั้งหมดต่างเข้าใจ พอใจ เดินทางกลับออกจาก สภ.บางแม่นาง ในเวลาต่อมา
ทางด้าน พ.ต.ท.ศุภชัย ศรีศักดิ์ รองผู้กำกับสืบสวน สภ.บางแม่นาง เปิดเผยว่า วันนี้ก่อนเกิดเหตุ เวลา 21.30 น. ร.ต.อ.สันติชัย ดีพร้อม รอง สว.สส.สภ.บางแม่นาง พร้อมชุดสืบสวน รวม 4 นาย ออกตรวจพื้นที่รับผิดชอบ ตนเองได้รับแจ้งว่าถูกชาวบ้านล้อมไว้ไม่ให้ออกจากหมู่บ้านตะวันงาม ตนจึงลงพื้นที่ไปตรวจสอบพบว่ามีชาวบ้านประมาณ 30-40 คน ตนเกรงว่าเหตุการณ์จะบานปลายตนจึงประสานกับทางปลัดอำเภอบางใหญ่ ให้มีการพูดคุยกันและเชิญตัวทั้งสองฝั่งมาที่โรงพัก สรุปได้ว่าเวลา 21.00 น. ทางตำรวจได้เห็น จยย.2 คัน ขับแข่งตีคู่กันมาในซอยลาว ใกล้หมู่บ้าน เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงแสดงตัวและขอตรวจค้น แต่ จยย.ได้ขับรถหนีไป ซึ่งเกรงว่าจะมีสิ่งผิดกฎหมาย และเจ้าหน้าที่ตำรวจได้เห็นว่ากลุ่มวัยรุ่นมีการชักมีดดาบออกมา ทางเจ้าหน้ามี่ตำรวจจึงเข้าโคฟเวอร์ล็อกตัวเพื่อที่จะทำการตรวจค้น
แต่มีประชาชนชาวบ้านเห็นว่าตำรวจชักปืนจะทำร้าย แต่ยืนยันว่าทางเจ้าหน้าที่ตำรวจไม่มีการดึงปืนออกมาจากเอวแต่อย่างใด แต่เมื่อมาถึงโรงพักได้มีการพูดคุยกันว่าเป็นยุทธวิธีของทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทางเราได้อธิบายเหตุและผลให้กับตัวแทนหมู่บ้านและผู้ปกครองผู้เสียหาย ประชาชนก็ต่างเข้าใจกันดี จึงแยกย้ายกันกลับและไม่มีเหตุรุนแรงอะไรเกิดขึ้น ซึ่งเป็นการเข้าใจผิดกันเพราะชาวบ้านไม่ได้เห็นเหตุการณ์ตั้งแต่แรก ซึ่งเรื่องของการดูบัตรคือ ร.ต.อ.สันติชัย ดีพร้อม เป็นรองสารวัตรสืบสวนจริงซึ่งเป็นผู้ควบคุมการปฏิบัติหน้าที่ ได้โชว์บัตรแสดงตนแล้วว่าเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ แต่เกรงว่าจะถูกชาวบ้านดึงไปจะทำให้บัตรหายเพราะเคยเกิดเหตุการณ์แบบนี้มาแล้ว แต่ยืนยันว่ามีการโชว์บัตรให้ดูแล้วจริง และเชิญชาวบ้านไปที่โรงพักเพื่อที่จะแสดงตัวว่าเป็นตำรวจจริง เรื่องทั้งหมดเป็นการเข้าใจผิด