xs
xsm
sm
md
lg

“อนุทิน” บินด่วนขนวัคซีนฉีด จนท.แนวหน้าชายแดนแม่ฮ่องสอน กันโควิดคนข้ามแดนระบาด

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



แม่ฮ่องสอน - “อนุทิน” บินด่วน นำวัคซีนโควิดมอบให้ รพ.แม่สะเรียง ฉีดบุคลากรทางการแพทย์-จนท.ด่านหน้าแนวชายแดน ป้องกันการติดเชื้อโควิด-19 ขณะเฝ้าระวังดูแลผู้ได้รับผลกระทบและผู้เดินทางข้ามแดนมาทำงานจากเพื่อนบ้าน


นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข พร้อมด้วยนายแพทย์ หม่อมหลวงสมชาย จักรพันธุ์ ประธานคณะที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข นายแพทย์ธงชัย กีรติหัตถยากร รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข นายชนก มากพันธุ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดแม่ฮ่องสอน ฝ่ายความมั่นคง และผู้บริหารกระทรวงสาธารณสุข ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยม มอบนโยบายดำเนินงานรองรับเหตุการณ์ประเทศเพื่อนบ้านสุดสัปดาห์นี้

พร้อมมอบวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 จำนวน 2,000 โดส ฉีดให้แก่บุคลากรทางการแพทย์และบุคลากรด่านหน้าที่ปฏิบัติงานตามแนวชายแดน และหน้ากากอนามัยทางการแพทย์ จำนวน 100,000 ชิ้น หน้ากากอนามัยชนิด N 95 จำนวน 20,000 ชิ้น เจลแอลกอฮอล์ เพื่อใช้ในการป้องกันการติดเชื้อขณะปฏิบัติงานดูแลประชาชน

นายอนุทินกล่าวว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี มีความห่วงใยต้องการให้เจ้าหน้าที่มีความปลอดภัยขณะปฏิบัติงานดูแลผู้ที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ภายในประเทศเพื่อนบ้าน และผู้ที่เดินทางข้ามแนวชายแดนเข้ามาตามปกติซึ่งมีประมาณวันละ 1,000-2,000 คน เนื่องจากประเทศเพื่อนบ้านยังมีอัตราการระบาดของโรคโควิด-19 สูง มีความเสี่ยงที่จะเกิดการติดเชื้อได้


และในครั้งนี้ กระทรวงสาธารณสุขจึงได้นำวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ของซิโนแวค จำนวน 2,000 โดส ที่ได้จัดส่วนหนึ่งสำรองไว้เพื่อรองรับสถานการณ์ฉุกเฉิน ฉีดให้กับบุคลากรทางการแพทย์ และเจ้าหน้าที่ด่านหน้า เช่น ทหาร ตำรวจ ตำรวจตรวจคนเข้าเมือง อาสาสมัครรักษาดินแดน และ อสม.ที่ทำงานในพื้นที่ชายแดน เพื่อลดความรุนแรง ป้องกันการป่วยโรคโควิด-19 เป็นการยืนยันถึงความพร้อมของระบบการแพทย์และสาธารณสุขไทย

นายอนุทินกล่าวต่อว่า กระทรวงสาธารณสุข ได้ร่วมกับฝ่ายความมั่นคง ในการเฝ้าระวัง คัดกรองคัดแยกผู้ที่ติดเชื้อโควิค-19 หากพบผู้ป่วยจะนำเข้าสู่ระบบการรักษา ส่วนผู้ที่ไม่แสดงอาการจะอยู่ในพื้นที่ที่ฝ่ายความมั่นคงจัดไว้เป็นเวลา 10 วัน และติดตามอาการจนกว่าจะหาย จากการตรวจเยี่ยมพบว่าโรงพยาบาลแม่สะเรียงมีความพร้อมในการดูแลรักษา ทั้งบุคลากร ยา เวชภัณฑ์ทางการแพทย์ และห้องแยกโรค รวมทั้งการดูแลผู้ที่ได้รับบาดเจ็บ ซึ่งรัฐบาลมีความตั้งใจที่จะให้การดูแลตามหลักมนุษยธรรม หากมีผู้ได้รับบาดเจ็บมากจะตั้งโรงพยาบาลสนามตามหลักสากล โดยมีโรงพยาบาลศรีสังวาลย์เป็นโรงพยาบาลหลักในการดูแล ปัจจุบันมีผู้บาดเจ็บเข้ารับการรักษาในประเทศไทย 7 ราย อยู่ที่โรงพยาบาลสบเมย โรงพยาบาลศรีสังวาลย์ และโรงพยาบาลแม่สะเรียง ทุกรายได้รับการตรวจหาเชื้อโควิด-19 ผลไม่พบเชื้อ

โอกาสเดียวกันนี้ นายอนุทิน ชาญวีรกูล ก็เดินทางถึงที่บ้านแม่สามแลบและสอบถามเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น จากนั้นก็เปิดเผยว่ารับทราบปัญหาที่เกิดขึ้นตามพื้นที่แนวชายแดนที่เกิดขึ้นในขณะนี้และทางนายกรัฐมนตรีก็ห่วงใย พร้อมกับกำชับให้ทุกหน่วยงานได้ให้การช่วยเหลือผู้หนีภัยเหล่านี้ตามหลักมนุษยธรรม เพราะกระทรวงสาธารณสุขเองก็ไม่สามารถปล่อยให้คนที่ได้รับความเดือดร้อนต้องมาสูญเสียขึ้น ส่วนมาตรการจะเข้าให้การช่วยเหลือนั้นต้องให้ทางเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงพิจารณาถึงมาตรการและความเร่งด่วนในการเข้าให้การช่วยเหลือต่อไป


วันเดียวกัน นายสันติพงษ์ มูลฟอง ผู้จัดการมูลนิธิเครือข่ายสถานะบุคคลและศูนย์พัฒนาเครือข่ายเด็กและชุมชนจังหวัดแม่ฮ่องสอน พร้อมด้วยเครือข่ายชาวกะเหรี่ยงในแม่ฮ่องสอน ได้นำสิ่งของบรรเทาทุกข์ ยา อาหารแห้ง เตรียมนำไปช่วยเหลือผู้หนีภัยกลุ่มหนึ่งที่มีรายงานว่าได้ขอหลบภัยเข้ามาอาศัยอยู่ในริมน้ำห่างจากจุดตรวจกองร้อยทหารพรานที่ 3606 บ้านแม่สามแลบ อ.สบเมย จ.แม่ฮ่องสอน ไปราว 3 กิโลเมตร จำนวน 48 คน มีทั้งเด็ก ผู้หญิง คนชราและผู้ป่วย

แต่เมื่อมาถึงจุดตรวจทางเจ้าหน้าที่ไม่อนุญาตให้ผ่านเข้าไปยังพื้นที่ดังกล่าว โดยแจ้งว่าไม่มีคำสั่งจากจังหวัดแม่ฮ่องสอนและทางหน่วยเหนือไม่อนุญาตให้เข้าไปในพื้นที่ดังกล่าว แม้ว่าทางภาคเอกชนจะพยายามแจ้งว่าขอช่วยเหลือผู้เจ็บป่วยก่อน แต่ก็ไม่สามารถดำเนินการได้ ทำให้ต้องนำสิ่งของกลับ เพราะทางทหารพรานเองก็ไม่รับฝากสิ่งของดังกล่าวด้วย


กำลังโหลดความคิดเห็น