แม่ฮ่องสอน - ชาวกะเหรี่ยงยังอพยพจ่อขอหลบภัยเข้าชายแดนแม่ฮ่องสอนต่อเนื่อง หลังทหารเมียนมายังเปิดฉากยิงถล่มไม่หยุด ไทยรับเหยื่อสะเก็ดระเบิดทั้งชายและหญิงรักษาตัวอีก 7 ราย
ความคืบหน้าสถานการณ์ความไม่สงบในพื้นที่รัฐกะเหรี่ยง ตรงข้ามชายแดนจังหวัดแม่ฮ่องสอน ที่เกิดการปะทะกันระหว่างกองกำลังชนกลุ่มน้อยกะเหรี่ยง KNU กับทหารเมียนมาตลอดหลายวันที่ผ่านมานั้น ล่าสุดตลอดทั้งคืนจนถึงเช้าวันนี้ (31 มี.ค. 64) มีรายงานจากพื้นที่ของกะเหรี่ยง KNU ว่ามีเครื่องบินของทหารเมียนมาโจมตีด้วยการทิ้งระเบิดไม่ทราบชนิดหลายเที่ยว ทำให้ผู้คนต้องหลบหนีภัยและพบว่ามีชาวบ้านหลายคนบาดเจ็บและเสียชีวิต
อย่างไรก็ตาม จนถึงขณะนี้ยังไม่สามารถตรวจสอบความเสียหายได้ เนื่องจากเกรงว่าจะมีการโจมตีทางอากาศอีก ขณะเดียวกันก็มีชาวบ้านบางส่วนพยายามนั่งเรือขนาดใหญ่เพื่อขอข้ามแดนมาหลบภัยในเขตประเทศไทย แต่ยังไม่สามารถเข้ามาถึงฝั่งไทยได้ ต้องหลบเข้าในพื้นที่ปลอดภัยใกล้เคียงก่อน
ขณะที่ช่วงเย็นวานนี้ (30 มี.ค.) โรงพยาบาลสบเมย อ.สบเมย จ.แม่ฮ่องสอน ได้รับผู้บาดเจ็บซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของผู้อพยพชาวกะเหรี่ยงที่ถูกสะเก็ดระเบิดทหารเมียนมายิงถล่ม เข้ารักษาจำนวน 7 ราย เป็นชาย 3 คน หญิง 4 คน ได้แก่ 1. นายซอโด้เนโซ อายุ 15 ปี 2. นายซอครอง อายุ 37 ปี 3. นายซอลาเตร อายุ 48 ปี 4. น.ส.นอเอสะตะ อายุ 18 ปี 5. น.ส.นอมือเกรอ อายุ 25 ปี 6. นางนอแบทู อายุ 60 ปี และ 7. นางเชอคึมู อายุ 31 ปี
โดยทางโรงพยาบาลสบเมยต้องจัดรถไปรับผู้บาดเจ็บทั้งหมดร่วมกับ ร.พ.สต.แม่สามแลบ จากท่าเรือแม่สามแลบ โดยมีเจ้าหน้าที่ทหารพรานจากกองร้อยที่ 3606 ฐานปฏิบัติการบ้านแม่สามแลบให้ความช่วยเหลืออย่างทุลักทุเล
นายแพทย์ จักรี คมสาคร นายแพทย์ผู้อำนวยการโรงพยาบาลสบเมย เปิดเผยว่า ผู้บาดเจ็บทั้งหมดถูกสะเก็ดระเบิดแต่อาการไม่สาหัส สามารถช่วยเหลือตัวเองได้ รู้สึกตัวดี แขนขาไม่หัก แต่ก็ต้องส่งผู้ป่วยรักษาต่อที่โรงพยาบาลศรีสังวาลย์ จ.แม่ฮ่องสอน จำนวน 2 ราย โรงพยาบาลแม่สะเรียง 1 ราย นอนรักษาที่โรงพยาบาลสบเมย 4 ราย อาการอยู่ในขั้นปลอดภัยแล้ว ซึ่งทางฝ่ายไทยต้องให้การดูแลต่อไปก่อนตามหลักมนุษยธรรม
ด้านจังหวัดแม่ฮ่องสอนได้แจ้งต่อสื่อมวลชนว่า วันนี้ (31 มี.ค.) จะมีผู้หนีภัยบางส่วนสมัครใจเดินทางกลับเมียนมาราว 200 คน โดยทางฝ่ายปกครอง ทหารพราน และหน่วยเฉพาะกิจ กรมทหารราบที่ 7 จะได้อำนวยความสะดวกตามขั้นตอนที่ได้แจ้งไว้ก่อนหน้านี้แล้ว