“อนุทิน” เผยพรุ่งนี้ลงพื้นที่ฉีดวัคซีนซิโนแวคให้ จนท.ด่านหน้า ที่แม่สะเรียง สบเมย หลังเกิดสถานการณ์แนวชายแดน
วันนี้ (1 เม.ย.) เมื่อเวลา 12.00 น. ที่ทำเนียบรัฐบาล นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยว่า ในวันศุกร์ที่ 2 เมษายนนี้จะเดินทางไปยังพื้นที่แนวชายแดนอำเภอแม่สะเรียง กิ่งอำเภอสบเมย เพื่อตรวจเยี่ยมพร้อมทั้งนำวัคซีนซิโนแวคไปฉีดให้แก่เจ้าหน้าที่ส่วนหน้าประมาณ 2,000 คน เพื่อเป็นการป้องกันการแพร่ระบาดหลังจากเกิดสถานการณ์ตามแนวชายแดน
ทั้งนี้ ได้มีการประสานและพูดคุยกับทางแม่ทัพภาคที่ 3 แล้วในการดูแล โดยหลักมนุษยชนเราก็ต้องให้การดูแลผู้ที่หนีภัยเข้ามา ในส่วนของศูนย์อพยพนั้นจะไม่มีการล้ำเข้ามาในเขตแดนของประเทศไทย แต่จะอยู่ตามแนวตามที่ได้จัดไว้ เราก็ต้องดูแลให้แก่บุคคลเหล่านั้นซึ่งก็ต้องมีมาตรการการป้องกันการแพร่ระบาดเป็นอย่างดี แต่เราพร้อมช่วยเหลือในด้านสาธารณสุข รักษาอาการบาดเจ็บต่างๆ หากมีผู้ได้รับบาดเจ็บหนีภัยเข้ามา
นายอนุทินเปิดเผยว่า ในวันที่ 2 เมษายน ตนจะลงพื้นที่ อ.แม่สะเรียง จ.เชียงใหม่ เพื่อดูแลด้านมนุษยธรรมแก่ผู้ที่อพยพมาอยู่บริเวณชายแดนว่าเราจะให้ได้แค่ไหน ที่สำคัญต้องปลอดภัยไม่ให้โรคทะลักเข้ามา เบื้องต้นเตรียมโรงพยาบาลของรัฐไว้ หากมีผู้บาดเจ็บจำนวนมากจะเตรียมโรงพยาบาลสนาม ที่ขณะนี้เราสามารถจัดตั้งได้เร็ว และจำนวนเตียงสามารถรองรับได้แน่นอน นอกจากนี้ยังจะนำวัคซีนโควิด-19 ของซิโนแวคไปฉีดให้บุคลากรด่านหน้าตลอดแนวชายแดน ทั้งที่ อ.สบเมย จ.แม่ฮ่องสอน อ.แม่สอด จ.ตาก โดยจะฉีดให้ได้มากที่สุด และขอย้ำว่า เป็นการฉีดให้เจ้าหน้าที่ของเรา ทั้งทหาร ตำรวจ อาสาสมัคร แพทย์ พยาบาล ประมาณ 2,000 คน ไม่ได้ไปฉีดให้ผู้อพยพ เพราะถึงอย่างไรคนไทยต้องได้รับวัคซีนก่อน
ผู้สื่อข่าวถามว่า ที่ต้องลงพื้นที่เพราะประเมินว่าการสู้รบจะรุนแรงและจะมีผู้อพยพเข้ามาจำนวนมากใช่หรือไม่ นายอนุทินกล่าวว่า ถูกต้อง เพราะเราต้องดูความพร้อมของเราด้วย แต่ประเด็นหลักไม่ได้ไปดูแค่ผู้บาดเจ็บเท่านั้น ไปเพื่อควบคุมโรคไม่ให้เขาเอาของฝากเข้ามา อย่างไรก็ตาม ตามหลักมนุษยธรรมไม่ใช่ผลักดันเขากลับให้ไปรับอันตราย แต่ขณะเดียวกันก็ไม่ให้เข้ามาลึกในเขตแดนของไทย เราจะดูแลตามความฉุกเฉิน ส่วนกรณีมีผู้บาดเจ็บที่ถูกยิงมา 7 คน ขณะนี้ได้นำมารักษาตัวแล้ว