พิษณุโลก - ตร.เนินมะปราง เรียกเค้นสอบจนสารภาพ..พี่เขยโหดอ้างแค้นน้องเมียทำลายข้าวของ-ทุบรถไถเป็นประจำ แถมล่าสุดยังด่าทอ จนทนไม่ไหวคว้าเหล็กเพลารถไถฟาดขมับกะโหลกยุบ ลากศพฝังบ่อพักน้ำเสียริมคลองชมพู
ความคืบหน้าคดีพบศพนายแหวน คำพรมมี อายุ 52 ปี ถูกคนร้ายทุบหัวฆ่าโหดฝังดินหลังบ้านพักเลขที่ 127/1 หมู่ 5 บ้านปลวกง่าม ต.ชมพู อ.เนินมะปราง จ.พิษณุโลก เมื่อคืนที่ผ่านมา (26 มี.ค. 64) ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจได้เชิญตัวคนในบ้านสอบปากคำต่อเนื่องตั้งแต่คืนที่ผ่านมาจนถึงวันนี้ (27 มี.ค.) กระทั่งนายบรรเจิด กันวงษ์ อายุ 60 ปี พี่เขยที่ถูกเรียกสอบด้วย ได้เปิดปากสารภาพว่าเป็นคนใช้เหล็กเพลารถไถทุบหัวน้องเมีย ก่อนขุดหลุมลึกเกือบ 2 เมตร ฝังอำพรางศพ
ต่อมา พล.ต.ต.ธวัช วงศ์สง่า ผบก.ภ.จว.พิษณุโลก พร้อมด้วย พ.ต.อ.ชนะชัย แสงศิริ ผกก.สภ.เนินมะปราง พ.ต.อ.ธีระเดช แจ่มแจ้ง ผกก.สส.ภ.จว.พิษณุโลก พ.ต.ท.เจริญ พิทักษ์นิติวุฒิ รอง ผกก.สส. ได้เดินทางมาร่วมสอบสวนผู้ต้องหาเพิ่มเติม ก่อนคุมตัวนายบรรเจิด ผู้ต้องหาฆ่านายแหวนไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพที่บ้านที่เกิดเหตุ เลขที่ 127/1 หมู่ 5 บ้านปลวกง่าม ต.ชมพู อ.เนินมะปราง จ.พิษณุโลก โดยมีชาวบ้านที่ทราบข่าวต่างมาดูเหตุการณ์เป็นจำนวนมาก
นายบรรเจิด ผู้ต้องหาซึ่งอยู่ในอาการเรียบเฉยแต่สีหน้าเคร่งเครียด รู้สึกผิดต่อสิ่งที่ทำ ได้ยกมือไหว้ขอโทษ ระหว่างทำแผนประกอบคำรับสารภาพ พร้อมเปิดเผยว่า ส่วนตัวไม่ได้ดื่มเหล้า วันเกิดเหตุก็ไม่ได้เมา แต่ด้วยความแค้นที่ผู้ตายชอบทำลายข้าวของและทุบรถไถประจำ
กระทั่งวันเกิดเหตุมีเรื่องทะเลาะกันอีก ผู้ตายด่าทอตนเองด้วยถ้อยคำหยาบ จนทนไม่ไหวพลั้งมือคว้าเหล็กเพลารถไถที่อยู่ใกล้มือฟาดไปที่บริเวณขมับขวาและใบหน้าจนผู้ตายล้มลงแน่นิ่งไป พอตนรู้สึกตัวก็พบว่านายแหวนเสียชีวิตไปแล้วก็กลัวความผิด จึงเข้าไปเอามุ้งในห้องนายแหวนมาพันที่บริเวณศีรษะป้องกันเลือดไหลเยอะ ก่อนลากศพไปทิ้งไว้ในหลุมบ่อพักน้ำเสียที่ขุดไว้บริเวณท้ายสวนมะม่วงติดกับคลองชมพูมานานแล้ว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจใช้เวลาทำแผนประมาณ 30 นาที ก่อนจะควบคุมตัวกลับไปฝากขังที่ สภ.เนินมะปราง เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย ขณะที่ชุดสืบสวน สภ.เนินมะปราง ได้ตรวจสอบบริเวณรอบบ้านพักที่เกิดเหตุเพื่อหาหลักฐานเพิ่มเติม กระทั่งพบอาวุธที่ใช้สังหารซุกอยู่ในป่าหญ้าข้างๆ หลุมศพ เป็นเหล็กเพลารถไถยาวกว่า 1 ฟุต ตรงกับคำรับสารภาพของผู้ต้องหา จึงนำส่งให้กับตำรวจวิทยาการ ศูนย์พิสูจน์หลักฐาน 6 ตรวจสอบลายนิ้วมือและคราบเลือดเพื่อใช้เป็นหลักฐานสำคัญในคดี
นอกจากนี้ยังพบเมมโมรีการ์ดที่ถูกหักแล้วตกอยู่ใกล้กับกองกิ่งไม้จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน โดยจะมีการสืบสวนสอบสวนว่ามีคนอื่นรู้เห็นหรือร่วมก่อเหตุด้วยหรือไม่ เบื้องต้นผู้ต้องหารับสารภาพว่าลงมือแต่เพียงผู้เดียว แต่จะต้องสอบสวนอย่างละเอียดอีกครั้งหนึ่ง ก่อนจะแจ้งข้อหาฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา ปิดบังซ่อนเร้นอำพรางศพ ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
ด้านนางแพง กันวงษ์ ภรรยาของนายบรรเจิด ผู้ต้องหา เปิดเผยว่า ตนและครอบครัวเสียใจที่สามีต้องมาพลั้งมือฆ่าน้องชายของตน ไม่คิดเลยว่าจะมีเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นในครอบครัว เมื่อเช้าตอนที่ตนไปหาสามีที่โรงพักระหว่างถูกควบคุมตัวสอบปากคำ ตอนนั้นสามีตนยังไม่ยอมพูด แต่สุดท้ายสารภาพบอกว่าเขายอมแล้ว
น.ส.ปรียา สนใจ อายุ 52 ปี เพื่อนผู้ตาย ที่ได้เดินทางมาที่บ้านหลังเกิดเหตุหลังทราบข่าว กล่าวว่า นายแหวน ผู้ตาย เป็นคนอัธยาศัยมนุษยสัมพันธ์ดี ไม่เคยมีปัญหากับใคร แต่ก็ดื่มสุราบ้าง แต่มาช่วงหลังดื่มน้อยลงไม่ได้ดื่มมาก แค่เบียร์ 1-2 แก้ว ตอนไปทำงานด้วยกันเก็บมะม่วง-ห่อมะม่วงด้วยกันก็ช่วยเหลือกันดี พอทราบข่าวก็ตกใจมาก พยายามโทร.หาเขาตั้งแต่วันที่หายตัวไปแล้ว แต่ก็ติดต่อไม่ได้ พอทราบข่าวส่วนตัวก็เสียใจเพราะเป็นเพื่อนร่วมงานกันมานานแล้ว
