พิษณุโลก - ชาวบ้าน-พรานป่ารวมตัวตั้งกลุ่มไกด์ชุมชน “ท่องไทยไปชมภู” เจาะผืนป่าธรรมชาติ อช.ทุ่งแสลงหลวง ปั้นทริปท่องเที่ยวขาลุยเดินป่า กางเต็นท์ค้างแรม ชมธรรมชาติ สัมผัสเกาะแก่ง รวมถึงบังเกอร์แม้ว จุดซุ่มยิง จนท.ในอดีต
นายบุญสืบ เผือกอ่อน อายุ 57 ปี พร้อมชาวบ้านหมู่ 1 และหมู่ 3 บ้านชมพู อ.เนินมะปราง จ.พิษณุโลก กว่า 10 คน ได้รวมตัวเป็นไกด์ชุมชนกลุ่ม “ท่องไทยไปชมภู” ให้บริการนำนักท่องเที่ยวสายผจญภัยชมธรรมชาติคลองชมพู (คลองชมภู) อุทยานแห่งชาติทุ่งแสลงหลวง ระยะทาง 8-10 กิโลเมตร เดินป่ากางเต็นท์ค้างแรม
ทริปล่าสุดเสาร์-อาทิตย์ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นช่วงฤดูแล้งน้ำในคลองน้อยลง ทำให้มองเห็นโขดหินน้อยใหญ่ บางช่วงก็เป็นแผ่นหินรูปลักษณ์ต่างๆ บางช่วงก็มีแอ่งน้ำทางธรรมชาติที่สวยงาม มีแหล่งศึกษาตามธรรมชาติ โดยบริเวณคลองน้ำเค็ม ในฤดูแล้งยังมีเกลือเกาะตามโขดหินในคลอง เนินกระเบื้องโบราณ ลานหินปืน แก่งคันนา แก่งกระซาว ลานหินถ้ำน้ำน้อย ลานหินถ้ำหม้อ เป็นต้น นักท่องเที่ยวสามารถเลือกกางเต็นท์ตามจุดต่างๆ ได้
จุดเริ่มต้นคือ ต้องติดต่อกับกลุ่มไกด์ชุมชน จากนั้นต้องขออนุญาตกับทางหน่วยพิทักษ์อุทยานแห่งชาติทุ่งแสลงหลวง ที่ 5 (สล.5) ก่อนเดินเท้าไปตามคลองชมพู เริ่มจากที่แก่งคันนา แก่งป่ากระซาว เนินบังเกอร์แม้ว คลองน้ำเค็มหรือคลองเค็ม เนินกระเบื้องโบราณ ลานหินปืน ลานหินถ้ำน้ำน้อย ลานหินหม้อ รวมระยะทาง 10 กิโลเมตร
ซึ่งแต่ละจุดก็จะมีประวัติและเรื่องเล่าให้นักท่องเที่ยวได้เรียนรู้และชมกัน เช่น แก่งป่ากระซาว นักท่องเที่ยวจะได้ชมลานหินฝนมีดโบราณ, บังเกอร์แม้ว นักท่องเที่ยวก็จะได้ชมหินที่ชาวไทยภูเขามาสร้างไว้คล้ายบังเกอร์เพื่อลอบยิงเจ้าหน้าที่, คลองน้ำเค็ม หรือชาวบ้านเรียกว่าคลองเค็มนั้น นักท่องเที่ยวก็จะได้ชมก้อนหินที่เกลือเกาะจนเป็นแผ่น และคราบเกลือ บางช่วงน้ำที่ไหลก็เค็ม ปลาไม่สามารถอาศัยอยู่ได้
ขณะที่ลานหินปืนนั้นก็จะมีหินก้อนลักษณะทรงกลม เหลี่ยม โค้งมนต่างๆ มากมาย ยาวนับกว่า 1 กิโลเมตร บริเวณน้ำจะมีแอ่งน้ำที่ช้างป่า และสัตว์อื่นๆ จะลงมากินน้ำกันเป็นประจำ และพบเห็นเป็นรอยเท้าเป็นช่วงๆ, ส่วนบริเวณจุดเนินกระเบื้อง ก็จะมีเศษกระเบื้องโบราณลวดลายต่างๆ ให้นักท่องเที่ยวได้ศึกษากัน ระหว่างการเดินเท้าก็จะมีต้นไม้น้อยใหญ่
สำหรับลานกางเต็นท์นั้น ขึ้นอยู่กับนักท่องเที่ยวจะเลือกกางเต็นท์ หากไม่เดินป่าไกล เพียง 1.5 กิโลเมตรก็สามารถกางเต็นท์ได้ที่แก่งคันนา หากต้องการเดินป่าชมธรรมชาติไปเรื่อยๆ ก็สามารถไปกางเต็นท์ได้ที่ลานหินถ้ำน้ำน้อย และถ้ำหม้อ ซึ่งบริเวณที่กางเต็นท์นั้นนักท่องเที่ยวก็จะสามารถชมธรรมชาติ เช่น ดอกศิลาวารีย์ ที่หาชมได้ยากมาก หนึ่งเดียวที่คลองชมพู และเล่นน้ำตามแอ่ง หรือแก่งต่างๆ ได้ พร้อมกับชิมอาหารพื้นบ้านที่กลุ่มไกด์ชุมชนจัดให้บริการแก่นักท่องเที่ยว พร้อมกับปรุงอาหารสดที่เก็บได้ตามป่าที่เดินเท้า เช่น ยอดผักหวาน ยอดหนาม เป็นต้น ส่วนในยามค่ำคืน นักท่องเที่ยวก็จะนอนฟังเสียงน้ำไหล ฯลฯ
นายบุญสืบ เผือกอ่อน หัวหน้ากลุ่มไกด์ชุมชนท่องไทยไปชมภู กล่าวว่า ปี 2563 ที่ผ่านมาชาวบ้านที่สนใจในเรื่องการท่องเที่ยวชุมชนก็เริ่มเลิกอาชีพนายพราน หันมาเปิดท่องเที่ยวชมธรรมชาติที่คลองชมพู เพราะนอกจากจะเป็นการสร้างรายได้ให้กลุ่มชาวบ้านแล้ว ยังเป็นการร่วมอนุรักษ์ธรรมชาติตามสายน้ำคลองชมพูอีกด้วย
ซึ่งนักท่องเที่ยวสามารถมาเที่ยวและกางเต็นท์ค้างแรมได้ตลอดทั้งปี ไม่ว่าจะเป็นฤดูฝน ฤดูหนาว และฤดูแล้ง โดยเฉพาะฤดูแล้ง นักท่องเที่ยวก็มาชมคลองเกลือที่มีลักษณะโดดเด่น และเรื่องราวอันยาวนาน ซึ่งตลอดการเดินป่านั้นกลุ่มตนเองก็จะเล่าถึงความสำคัญของจุดต่างๆ ให้นักท่องเที่ยวได้ฟัง
ทั้งนี้ ที่ผ่านมามีนักท่องเที่ยวมาเที่ยวชมคลองชมพูต่อเนื่อง บางทริปท่องเที่ยวก็นอน 2 คืน 3 วัน บางทริปก็นอน 1 คืน 2 วัน ฯลฯ หากนักท่องเที่ยวสนใจติดต่อที่ตนได้ โทร. 08-5737-4528