พิษณุโลก - หนุ่มก่อสร้างเมืองสองแควติดเหล้าจนหลอน หายตัวไร้ร่องรอยนาน 4 เดือน สุดท้ายกลายเป็นศพแห้งๆ เหลือแต่โครงกระดูกกลางป่ารกร้าง พี่ชายยืนยันเป็นน้องแน่
วันนี้ (23 มี.ค. 64) ร.ต.อ.นพดล ไม้งาม พนักงานสอบสวน สภ.เมืองพิษณุโลก ได้รับแจ้งจากชาวบ้านพบโครงกระดูกมนุษย์อยู่กลางป่ารกร้างภายในหมู่บ้านคลองมหาดไทย ม.5 ต.อรัญญิก อ.เมืองพิษณุโลก จึงเดินทางไปตรวจสอบพร้อมด้วยสมาคมกู้ภัยข่าวภาพ
ที่เกิดเหตุเป็นป่ารกร้างกลางบ้าน ม.5 ต.อรัญญิก อ.เมืองพิษณุโลก พื้นที่กว้างประมาณ 1 งานเศษ บริเวณใต้ต้นไม้พบโครงกระดูกมนุษย์สภาพแห้งเหลือแต่กระดูก ใกล้กันพบเสื้อผ้าลักษณะคล้ายเสื้อยืดสีเขียว กางเกงสีน้ำตาล เข็มขัดสีส้ม ตกอยู่ สอบถามชาวบ้านใกล้เคียงทราบว่ามีชาวบ้านเข้ามาตีรังผึ้งแล้วพบโครงกระดูกจึงรีบแจ้งเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบ
ต่อมานายมงคล จักษุสุวรรณ อายุ 53 ปี อยู่บ้านเลขที่ 275/7 ม.5 ต.อรัญญิก อ.เมืองพิษณุโลก ที่ทราบข่าวได้เข้ามาดูโครงกระดูกก่อนยืนยันว่า จากเสื้อผ้าและเข็มขัดยืนยันว่าเป็นโครงกระดูกของน้องชายตนเอง คือ นายอุเทน จักษุสุวรรณ อายุ 40 ปี พักอาศัยอยู่บ้านเดียวกัน ซึ่งได้หายออกจากบ้านไปตั้งแต่วันที่ 15 พ.ย. 63 ตนได้แจ้งความคนหายไว้เมื่อวันที่ 17 พ.ย. 63
นายมงคลเล่าว่า ตนมีอาชีพเป็นผู้รับเหมาก่อสร้าง ส่วนนายอุเทนน้องชายก็ทำงานก่อสร้างอยู่กับตน แต่น้องเป็นคนติดสุราต้องดื่มประจำ หากไม่ดื่มจะมีอาการมือไม้เนื้อตัวสั่น และมักจะมีอาการหลอนอยู่บ่อยๆ วันที่ 15 พ.ย. 63 ที่ผ่านมาน้องชายก็มีอาการหลอนเห็นคนมาหา 4 คน และมาบอกตนว่าเขามาดี ตนก็เลยไล่ให้น้องไปกินข้าวแล้วอาบน้ำนอน ไม่ต้องออกไปทำงาน
กระทั่งตอนเย็นตนกลับมาบ้านก็ไม่เจอน้องชายแล้ว ก็พยายามตามหาตามบ้านเพื่อนก็ไม่พบ จนวันรุ่งขึ้นก็ระดมคนงานหาทั่วหมู่บ้านก็ไม่พบ เลยไปแจ้งความคนหายไว้เมื่อวันที่ 17 พ.ย. 63 ที่ผ่านมา เวลาล่วงเลยมาประมาณ 2 สัปดาห์หลังจากน้องหาย ตนฝันว่าน้องมาบอกให้ช่วยด้วย ภาพในฝันเห็นน้องชายอยู่ในน้ำ พอเช้ามาตนจึงแจ้งกู้ภัยฯ ให้ไปช่วยงมหาที่บ่อน้ำภายในหมู่บ้านแต่ก็ไม่พบ
จนวันนี้ (23 มี.ค.) มีชาวบ้านโทร.มาบอกว่าเจอโครงกระดูก ให้ตนมาดูว่าใช่น้องชายที่หายไปหรือไม่ ซึ่งดูจากเสื้อผ้าและเข็มขัดที่ตกอยู่ข้างโครงกระดูกตนก็มั่นใจว่าเป็นของน้องชายแน่ ซึ่งก็ไม่ได้ติดใจอะไรเพราะน้องชายถึงจะหลอนแต่ก็ไม่เคยทำร้ายใคร จึงไม่คิดว่าจะมีใครทำร้ายน้องชายตน
สอบถามภรรยาของนายนนทชัย ปรีชาวนา เจ้าของอู่รถที่อยู่ติดกับจุดที่พบโครงกระดูก เล่าว่า ตนเพิ่งย้ายมาอยู่ที่อู่แห่งนี้เมื่อประมาณเดือนมกราคม 2564 ยังไม่ได้เปิดอู่อย่างเป็นทางการ ก็ไม่เคยได้กลิ่นเหม็นเน่าอะไร เพียงแต่ช่วงที่ย้ายมาอยู่แรกๆ ได้ยินเสียงสุนัขหอนบ่อยๆ แต่ก็ไม่ได้คิดหรือกลัวอะไร เพราะอยู่กับสามี จนมาวันนี้เจอโครงกระดูกก็รู้สึกกลัวเพราะติดกับอู่ของตนเลย
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจจะได้ประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจวิทยาการเข้าตรวจสอบ และนำโครงกระดูกส่งชันสูตรหาสาเหตุของการเสียชีวิต พร้อมตรวจ DNA พิสูจน์อัตลักษณ์บุคคลเพื่อยืนยันว่าเป็นนายอุเทน จักษุสุวรรณ ที่ญาติแจ้งความคนหายไว้จริงหรือไม่ ส่วนประเด็นอื่นๆ ทั้งถูกฆาตกรรมหรือเป็นอุบัติเหตุก็ยังไม่ได้ตัดทิ้ง ก่อนมอบศพให้ญาตินำไปประกอบพิธีทางศาสนาต่อไป
