อ่างทอง- โครงกระดูกและฟอสซิลมนุษย์โบราณอายุกว่า 3 พันปี ที่ตำบลสีบัวทอง อำเภอแสวงหา จังหวัดอ่างทอง ลุงแจ้งขุดเพิ่มห่อเก็บไว้ที่บ้าน ด้านวัฒนธรรมจังหวัดลงพื้นที่ตรวจสอบพบเป็นชุดเดียวกับที่เจ้าหน้าที่กรมศิลปากรนำไปตรวจสอบ
วันนี้ (5 มี.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า โครงกระดูกและฟอสซิลมนุษย์โบราณอายุกว่า 3 พันปี ซึ่งนายสมเกียรติ บริบูรณ์ หรือลุงแจ้งขุดเพิ่มห่อเก็บไว้ที่บ้านเลขที่ 2 หมู่ที่ 5 ตำบลสีบัวทอง อำเภอแสวงหา จังหวัดอ่างทอง หลังจากที่ลุงแจ้ง ได้ขุดพื้นที่นา จำนวน 17 ไร่ บริเวณกลางทุ่งนาด้านข้างองค์การบริหารส่วนตำบลสีบัวทอง เพื่อทำการขายหน้าดิน โดยขุดลึกไปประมาณ 1.50 เมตร ก็พบโครงกระดูกมนุษย์ ฟอสซิลสัตว์ รูปร่างคล้ายมีด ขวานหิน เครื่องปั้นดินเผาจำนวนมาก จึงหยุดการขุดดินขาย และนำวัตถุโบราณมาเก็บไว้ที่บ้าน พร้อมได้แจ้งไปยังจังหวัดอ่างทอง เพื่อดำเนินการตามขั้นตอนเพื่อตรวจสอบ
โดยทางจังหวัดอ่างทอง พร้อมด้วยผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.รัศมี ชูทรงเดช หรืออาจารย์อิ๋ว นักโบราณคดี และเจ้าหน้าที่กรมศิลปากร สำนักศิลปากรที่ 3 จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ได้เข้าตรวจสอบวัตถุโบราณเมื่อปลายปีที่ผ่านมา เบื้องต้น แจ้งให้ทราบว่า เป็นแหล่งโบราณคดีสมัยก่อนประวัติศาสตร์ อายุราว 3,000 ปี และทางด้านเจ้าหน้าที่กรมศิลปากร พร้อมเตรียมนำข้อมูลเสนอไปตามขั้นตอนเพื่อสืบค้นหาแหล่งโบราณคดีสมัยก่อนประวัติศาสตร์ในประเทศไทย
ล่าสุด หลังจากเจ้าหน้าที่คืนพื้นที่ให้ลุงแจ้งแล้ว โดยลุงแจ้ง ได้ทำการขุดค้นเพิ่มเติม พบโครงกระดูกมนุษย์ ฟอสซิลสัตว์ ขวานหิน เครื่องปั้นดินเผาเพิ่มอีก ลึกจากพื้นดินประมาณ 50 เซนติเมตร บริเวณใกล้เคียงกับที่ขุดพบเดิม แล้วนำผ้ามุ้งสีฟ้าพันไว้โดยรอบแล้วนำมาไว้ที่บ้าน จำนวน 9 โครงที่สมบูรณ์จำนวน 3 โครง เก็บไว้ด้านล่างข้องบ้านทำเป็นกระท่อมเก็บไว้ ส่วนที่หักครึ่ง 6 โครงเก็บไว้บนบ้าน
โดยนายสมเกียรติ หรือลุงแจ้ง กล่าวว่า หลังจากที่เจ้าหน้าที่กรมศิลปากร ได้ทำการขุดวัตถุโบราณนำไปตรวจสอบแล้ว พื้นที่นาดังกล่าวตนเองจึงให้คนอื่นมาเช่าทำไร่อ้อย เมื่อจะทำการไถปรับหน้าดินเพื่อทำไร่อ้อย ตนเองจึงลงมือเร่งขุดหาวัตถุโบราณใกล้เคียงกับที่เดิม และได้พบโครงกระดูกมนุษย์ ฟอสซิลสัตว์ ขวานหิน เครื่องปั้นดินเผาเพิ่มขึ้นอีก จึงได้ทำการเซาะโครงกระดูกที่ติดกับเครื่องใช้ต่างๆ ทำการเคลื่อนย้ายมาเก็บรักษาไว้ในบ้านของตนเอง แต่กลัวว่าจะเกิดแตกหักเสียหาย จึงได้นำมุ้งมาห่อแล้วมัดด้วยเชือกอย่างแน่นหนา นำมาเก็บไว้ที่บ้าน ซึ่งตนเองคิดว่าอยากจะให้ทางราชการสร้างเป็นพิพิธภัณฑ์เพื่อเก็บไว้ให้ลูกหลานได้ดูในพื้นที่ของตนเอง
ส่วนทางด้าน น.ส.นิษฐกานต์ คุณวัชระกิจ วัฒนธรรมจังหวัดอ่างทอง เปิดเผยว่า หลังจากทราบเรื่องเมื่อวานที่ผ่านมา ตนเองพร้อมด้วย นางวันทนีย์ มีแสง ผู้อำนวยการกลุ่มส่งเสริมศาสนา ศิลปะ และวัฒนธรรม และเจ้าหน้าที่สำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดอ่างทอง ได้ลงพื้นเพื่อติดตามการพบโครงกระดูกโบราณ บริเวณบ้านพักของลุงแจ้ง เบื้องต้นได้ประสานไปยังสำนักศิลปากรที่ 3 จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ซึ่งพบว่าเป็นโครงกระดูกและฟอสซิลชุดเดียวกับที่เคยขุดค้นพบ สันนิษฐานเบื้องต้นว่า มีอายุเก่าแก่ประมาณ 2,500-3,000 ปี เป็นยุคสำริดเข้าสู่ยุคหินใหม่ เจ้าหน้าที่กรมศิลปากรได้ขุดนำโครงกระดูกที่มีความสมบูรณ์ไปทำการตรวจสอบอย่างละเอียด จำนวน 5 โครง
ส่วนที่มีข่าวว่าพบมัมมี่ ซึ่งขอยืนยันว่าโครงกระดูกที่ถูกค้นพบเพิ่มไม่ใช่มัมมี่ แต่เป็นภูมิปัญญาชาวบ้านของลุงแจ้ง ที่กลัวว่าจะแตกหักเสียหายในระหว่างเคลื่อนย้าย จึงได้นำมุ้งมาห่อแล้วมัดด้วยเชือกรวมกันมาทั้งโครงกระดูกและข้าวของเครื่องใช้ที่ติดกันอยู่ หลังได้ให้เช่าที่นาปลูกไร่อ้อย สำหรับเรื่องพิพิธภัณฑ์ ทางสำนักศิลปากรที่ 3 จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ได้แจ้งไปที่กรมศิลปากรแล้วเพื่อทำการศึกษาว่าคุ้มค่าหรือไม่ ซึ่งต้องรอผลการตรวจสอบอย่างละเอียด โดยวัตถุโบราณต่างๆ ได้ถูกนำไปเก็บไว้ที่บ้านของลุงสมเกียรติ และอยากจะให้สร้างในพื้นที่บริเวณบ้าน โดยจะต้องนำเรื่องดังกล่าวประชุมหารือกับผู้ที่เกี่ยวข้องถึงความเหมาะสมต่อไป