ศูนย์ข่าวศรีราชา - นับ 1 ใหม่! รื้อ “บ้านสุขาวดี” รุกที่สาธารณะ 11 ไร่ หลังคณะกรรมการพิจารณาอุทธรณ์ระบุ เมืองพัทยา ออกคำสั่งรื้อถอนไม่ครบองค์ประกอบจนต้องเพิกถอนคำสั่งเดิม ออกประกาศใหม่ ด้านเจ้าหน้าที่มั่นใจงวดนี้หลักฐานแน่น
วันนี้ (24 ก.พ.) นายคริส เชิดสุริยา หัวหน้าฝ่ายควบคุมอาคาร สำนักการช่างเมืองพัทยา พร้อมด้วย นายเกียรติศักดิ์ คงเขียว วิศวกรชำนาญการ นายช่างตรวจเขต นายมารุต อุทัยวัฒนานนท์ วิศวกรโยธาปฏิบัติการ และเจ้าหน้าที่นิติกรเมืองพัทยา ได้ร่วมกันปิดหมายประกาศยกเลิกคำสั่งเจ้าพนักงานท้องถิ่นตาม พ.ร.บ.ควบคุมอาคาร พ.ศ.2522 และการปิดหมายประกาศคำสั่งแบบ ค.3, ค.4, ค.7 และ ค.10 อาคารจำนวน 3 หลัง ภายในพื้นที่ “บ้านสุขาวดี” ต.นาเกลือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี
หลังได้รับการลงนามโดย นายสนธยา คุณปลื้ม นายกเมืองพัทยา เพื่อดำเนินการกับอาคารที่ตรวจพบว่ามีปัญหาการบุกรุกที่สาธารณะและมีการก่อสร้างโดยไม่ได้รับอนุญาต รวมทั้งอาคารที่มีการก่อสร้างโดยไม่เว้นระยะตามแนวร่นจากระดับน้ำทะเลในระยะ 20 เมตร ตามประกาศของกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ซึ่งเป็นการดำเนินงานใหม่ในรอบที่ 2
เนื่องจากการออกประกาศคำสั่งที่ผ่านมาในครั้งแรก “บ้านสุขาวดี” ในนามบริษัท เฮลท์ฟู้ดส์ อินเตอร์เนชั่นแนล (ไทยแลนด์) จำกัด ได้อุทธรณ์คำสั่งต่อคณะกรรมการพิจารณาอุทธรณ์จังหวัดชลบุรี จนมีผลการพิจารณาว่าประกาศคำสั่งเมืองพัทยา ยังไม่ครบองค์ประกอบและเหตุผลในการรื้อถอนไม่ครบถ้วนจึงให้มีการดำเนินการใหม่
นายคริส เชิดสุริยา หัวหน้าฝ่ายควบคุมอาคาร สำนักการช่างเมืองพัทยา กล่าวว่า ที่ผ่านมา เมืองพัทยาได้แจ้งหนังสือไปยัง บริษัทเฮลท์ฟู้ดส์ อินเตอร์เนชั่นแนล (ไทยแลนด์) จำกัด ในนาม “บ้านสุขาวดี” หลังตรวจพบว่ามีการก่อสร้างอาคารโดยไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าพนักงานท้องถิ่น
พร้อมปิดหมายตาม พ.ร.บ.ควบคุมอาคารเรื่องการระงับการใช้ ห้ามก่อสร้างดัดแปลง และให้ทำการรื้อถอนออกอาคารจากพื้นที่ ตามคำสั่งแบบ ค.3, ค.4, ค.7 และ ค.10 ตั้งแต่ปี 2562
โดยมี 3 อาคารที่เข้าข่ายกระทำการผิดขั้นตอน ประกอบด้วย อาคาร A ซึ่งเป็นอาคารโครงเหล็ก 2 ชั้น ขนาด 18.30x55.30 เมตรจำนวน 1 หลัง และป้ายโครงสร้างเหล็กขนาด 10x13 เมตร จำนวน 2 ป้าย ซึ่งพบว่าเป็นการก่อสร้างบนพื้นที่สาธารณะหรือมีการบุกรุกที่ดินขนาด 11 ไร่ 1 งาน
ส่วนอาคาร B ซึ่งเป็นอาคาร คสล. 1 ชั้น ขนาด 35x40 เมตร จำนวน 1 หลัง พบว่ามีพื้นที่บางส่วนของอาคารก่อสร้างทับแนวระยะถอยร่นจากระดับน้ำทะเล
และอาคาร C ที่เป็นอาคาร คสล.1 ชั้น ขนาด 5x15 เมตร จำนวน 1 หลัง พบว่าทั้งอาคารอยู่ในแนวระยะถอยร่นจากระดับน้ำทะเลเช่นกัน
“ขั้นตอนทั้งหมดมีการตรวจสอบภาพถ่ายทางอากาศ รวมทั้งการรังวัดระวางที่ดินจากสำนักงานที่ดินอำเภอบางละมุง และพยานแวดล้อม ซึ่งปัจจุบันได้นำรั้วเหล็กไปปิดล้อมอาคาร A ไว้เพื่อระงับการใช้อาคารและรอความคืบหน้าผลการปฏิบัติทางกฎหมาย”
นายคริส ยังกล่าวอีกว่า สำหรับประกาศคำสั่งของเมืองพัทยาในครั้งใหม่นี้ถือเป็นการเริ่มต้นกระบวนการออกคำสั่งทางปกครองแบบนับ 1 ใหม่อีกรอบ เพื่อให้เกิดความชัดเจนและครอบคลุม ทั้งในเรื่องของเนื้อหา ข้อมูลและหลักฐานประกอบเพื่อใช้ในการดำเนินการประกอบคำสั่งรื้อถอนอาคารที่มีการก่อสร้างโดยไม่ได้รับอนุญาตและอยู่ในพื้นที่สาธารณะ
รวมทั้งอาคารที่ก่อสร้างทับระยะแนวแถวร่นจากระดับน้ำทะเล ซึ่งการดำเนินการครั้งใหม่นี้มั่นใจว่าเจ้าหน้าที่มีการทำงานอย่างรัดกุมและรอบคอบ
“ทั้งนี้ บ้านสุขาวดี ยังมีสิทธิคัดค้านหากไม่เห็นด้วยในคำสั่งของเมืองพัทยา และยังมีสิทธิในการอุทธรณ์เช่นเดิม จึงคาดว่าจะต้องใช้เวลาและขั้นตอนอีกระยะเพื่อให้การดำเนินงานเป็นไปตามที่ออกประกาศคำสั่งไว้” หัวหน้าฝ่ายควบคุมอาคาร สำนักการช่างเมืองพัทยา กล่าว