กำแพงเพชร - สำนักพุทธฯ กำแพงเพชรลงพื้นที่ตรวจสอบถึงวัด..หลังคลิปพระพี่เลี้ยงใช้ไม้เรียว-ไม้หน้าสามฟาดเณรว่อนโซเชียลฯ เคลียร์ชัดเป็นคลิปเก่าเณรส่งให้แม่ดูหวังได้สึก ขณะที่สามเณรโดนตียอมรับเสพยาวันลอยกระทง ถูกลงโทษจนเลิกยาได้
วันนี้ (30 ม.ค. 64) นายสมศักดิ์ สะมะโน ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนา จ.กำแพงเพขร พร้อมเจ้าหน้าที่ ได้เดินทางไป วัดคฤหบดีสงฆ์ ม.3 ต.ท่าพุทรา อ.คลองขลุง จ.กำแพงเพชร เพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีคลิปที่เผยแพร่ในโซเชียลมีเดียปรากฏภาพพระพี่เลี้ยงใช้ไม้เรียว-ไม้หน้าสามตีสามเณร รวมทั้งมีผู้ปกครองสามเณรในวัดร้องเรียนให้ช่วยตรวจสอบและไข เพราะเกรงว่าลูกหลานที่บวชเรียนอยู่ที่วัดจะได้รับอันตราย
พระอาจารย์น้อย ที่คอยดูแลภายในวัดพร้อมกับดูแลสามเณรในกุฏิเรือนนอน ให้ข้อมูลว่า สามเณรที่เข้ามาบวชเรียนในวัดมีทั้งหมดกว่า 40 รูป ส่วนเหตุการณ์ดังกล่าวที่เกิดขึ้นนั้นเป็นเรื่องจริง แต่เป็นการลงโทษตามความผิด แต่พระรูปที่ลงโทษตีสามเณรในคลิปวันนี้ไม่อยู่วัดเนื่องจากเดินทางไปศึกษาพระธรรมวินัยในตัวจังหวัดกำแพงเพชร
จากนั้นจึงได้นิมนต์สามเณรอายุ 16 ปีที่ปรากฏภาพถูกตีในคลิป เล่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นว่า คลิปภาพดังกล่าวเกิดขึ้นตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน 2563 เป็นคลิปเก่า ซึ่งเณรที่โดนตีในคลิปคือตนเองจริง โดนตีเพราะแอบไปเสพยาเสพติดกับเพื่อนๆ ข้างนอกที่เอามาให้ลองเสพในช่วงวันลอยกระทง
เมื่อพระพี่เลี้ยงทราบเรื่องจึงได้เข้ามาทำโทษพร้อมดุด่าว่าตนทำไมไม่ยอมเลิก ซึ่งตนก็ยอมรับผิดและยอมให้ลงโทษ พ่อแม่ญาติพี่น้องก็ทราบเรื่อง และไม่ได้ตำหนิการกระทำของพระพี่เลี้ยงแต่อย่างได เพราะตนผิดเอง และพ่อแม่ก็ให้ตนเข้ามาบวชเรียน หากไม่โดนตีในครั้งนั้นตนก็ยังคงเลิกเสพยาเสพติดไม่ได้
ขณะที่สามเณรที่นำคลิปวิดิโอที่เพื่อนสามเณรถ่ายส่งไปให้ผู้ปกครองดูเพื่อจะขอลาสิกขา โดยอ้างว่าไม่อยากอยู่แล้ว อยู่ไปก็เหมือนนรก เพราะเพื่อนสามเณรของตนเองถูกพระพี่เลี้ยงทำโทษรุนแรงบ่อยครั้ง ยอมรับว่าส่งไปจริง โดยตนนั้นทนต่อกฎระเบียบต่างๆ ของทางวัดไม่ไหว อึดอัด พยายามขอสึกกับแม่หลายครั้งแล้วแต่ก็ไม่ยอมให้สึก จึงได้นำคลิปดังกล่าวไปให้แม่ตนดู เมื่อแม่ทราบเรื่องจึงได้เข้าร้องเรียนผู้สื่อข่าวให้เข้ามาตรวจสอบ
ทั้งนี้ พระสงฆ์ที่ดูแลกุฏิเรือนนอนพร้อมสำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดกำแพงเพชรได้ทำความเข้าใจกับสามเณรรูปดังกล่าว ว่าทุกที่จะมีกฎระเบียบวินัยอยู่ อาจจะเหมือนหรือแตกต่างกันไป จึงอยากให้สามเณรทำความเข้าใจและปรับพฤติกรรมตนเองใหม่ ซึ่งจากนี้ไปจะไม่มีเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นอีก ส่วนพระที่ลงโทษสามเณรจริงๆ แล้วก็ไม่ได้ลงโทษรุนแรงหรือบ่อยครั้งแต่อย่างได มีเพียงครั้งนั้นที่ต้องการจะป้องปรามให้สามเณรเลิกยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติดเท่านั้น
ผู้สื่อข่าวได้พูดคุยกับสามเณรหลายรูปถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ได้ข้อมูลว่าจริงๆ แล้วพระรูปดังกล่าวก็ไม่ได้มีความโหดร้ายสักเท่าใด และยังเป็นหัวเรี่ยวหัวแรงของทางวัดด้วย หากไม่มีท่านภายในวัดคงไม่เรียบร้อย เพียงแต่บางครั้งรู้สึกว่าหากพระรูปดังกล่าวอารมณ์ไม่ดีก็จะถูกทำโทษแบบเหมารวมเท่านั้น
