แพร่ - สำนักพุทธเปิดบันทึกแฉพฤติกรรมคนตัดไม้สักทองที่ธรณีสงฆ์วัดแม่แคม ก่อนชักลากออก-สร้างอ่างเก็บน้ำทั้งที่ยังไม่ทำผาติกรรม อ้างวัดร้าง-ไม่มีเจ้าของ พบใช้เครื่องจักรของผู้รับเหมากรมชลฯ ลงมือ ระบุให้ชดใช้ค่าเสียหาย
กรณีไม้สักทองและไม้กระยาเลย-ไม้ผลในที่ดินธรณีสงฆ์ที่ยังมิได้ทำ “ผาติกรรม” ยกเลิกกฤษฎีกาที่ดินสงฆ์เพื่อเข้าสู่การเวนคืน ในพื้นที่หมู่ 7 ต.สวนเขื่อน อ.เมืองแพร่ กว่า 500 ต้นหายไป ทั้งยังมีการเดินหน้าก่อสร้างแนวสันเขื่อน และสปิลเวย์ของอ่างเก็บน้ำแม่แคมไปแล้วกว่าร้อยละ 50 (อ่านประกอบ https://mgronline.com/local/detail/9640000001203 )
ซึ่งเมื่อวันที่ 23 ธันวาคม 63 ศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดแพร่ได้เข้าแก้ปัญหาเพื่อให้การสร้างอ่างเก็บน้ำแม่แคม อันเนื่องมาจากพระราชดำริ ในหลวงรัชกาลที่ ๙ มีการเชิญผู้เกี่ยวข้องเข้ามาให้ข้อมูล และที่ประชุมมีมติให้ นายชูชาติ รักจิตร ผู้อำนวยการกองพัฒนาแหล่างน้ำขนาดกลาง กรมชลประทาน สืบหาข้อเท็จจริง 2 เรื่อง คือ 1. ที่ไม้สักทองและไม้มีค่าอื่นๆ ที่หายไป 2.การทำผาติกรรมดำเนินการในขั้นตอนใดแล้วและจะดำเนินการต่ออย่างไร
ล่าสุด นายพชรวัฒน์ กาวิชา เจ้าหน้าที่สำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดแพร่ นายชยพล ศรีงาม นักวิชาการศาสนาปฏิบัติการ สำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดแพร่ นางอรอุมา เบ็ญน้อย เจ้าหน้าที่ติดตามโครงการพระราชดำริจังหวัดแพร่ นายพิทักษ์ชัย รักสุข ได้เข้าติดตามผลการสืบสวนที่ศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดแพร่ เมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ปรากฏว่ายังไม่มีผลการสอบสวนของกรมชลประทานส่งเข้ามาแต่อย่างใด ศูนย์ดำรงธรรมจึงมีการนัดหารือภายในจังหวัดอีกครั้งในวันที่ 20 มกราคม 64 ที่ศาลากลางจังหวัดแพร่ ก่อนที่ผู้เสียหายอาจเขียนฎีกาเสนอต่อสำนักพระราชวังต่อไป
ด้าน นายชยพล ศรีงาม นักวิชาการศาสนาปฏิบัติการ สำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดแพร่ เปิดเผยถึข้อมูลวันที่มีการบุกรุกทำลายไม้ในเขตธรณีสงฆ์ ว่ามีการบันทึกข้อความที่ พร.0034 ลงวันที่ 4 เมษายน พ.ศ. 2562 โดยนางจุฑารัตน์ อุดศรี นักวิชาการศาสนาปฏิบัติการ เป็นผู้บันทึก นายโสไกร ใจมั่น นักวิชาการศาสนาชำนาญการ สำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดแพร่ พยาน และนางสาวอนันยา เจียมศรีพงษ์ ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดแพร่ ร่วมลงนาม
เอกสารหลักฐานดังกล่าวมีการบันทึกเหตุการณ์ ณ จุดเกิดเหตุ วันที่ 3 เมษายน พ.ศ. 2562 เรื่องเดิมพระครูสุนทรวรปัญโญ เจ้าอาวาสวัดแม่แคม ได้แจ้งมายังสำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดแพร่ว่ามีกลุ่มบุคคลนำรถแบ็กโฮเข้าไปในที่ดินธรณีสงฆ์ของวัดแม่แคม เข้าตัดไม้ไปแล้วบางส่วนจึงได้ขอหารือขอคำปรึกษาสำนักพุทธฯ
ในบันทึกระบุว่า นางจุฑารัตน์ อุดศรี นักวิชาการศาสนาปฏิบัติการ และนางสาวอนันยา เจียมศรีพงษ์ ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดแพร่ เข้าตรวจที่เกิดเหตุเมื่อวันที่ 3 เมษายน 2562 ในพื้นที่ธรณีสงฆ์เอกสารสิทธิ น.ส.3 ก. จำนวน 2 แปลง แปลงแรกเลขที่ 1085 จำนวน 4 ไร่เศษ แปลง 2 เลขที่ 1101 จำนวน 1 ไร่เศษ
พื้นที่ดังกล่าวพบมีการตัดไม้โค่นล้มได้โทรศัพท์สอบถามนายเศรษฐพงษ์ สวนเขื่อน ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 7 ต.สวนเขื่อน ได้ความว่า มีผู้ชี้ที่ดินให้บริษัทรับเหมาสร้างอ่างเก็บน้ำให้ดำเนินการตัดไม้อ้างว่าจะเอาไม้ไปใช้สาธารณประโยชน์ในหมู่บ้าน ไม่ได้นำไปให้วัดแม่แคมเพราะมีความเข้าใจว่าที่ดินดังกล่าวเป็นวัดร้าง ทรัพย์สินในที่ดินจึงไม่ใช่ของวัด และในส่วนของเอกสารแจ้งให้กับวัดทราบ เนื่องจากผู้นำหมู่บ้านดังกล่าวมีความขัดแย้งเดิมอยู่กับเจ้าอาวาสจึงไม่แจ้งให้เจ้าอาวาสทราบ
หลังเหตุการณ์เกิดขึ้น นายธนิฏฐ์ ทองพนัง ฝ่ายจัดหาที่ดินที่ 4 ส่วนจัดหาที่ดิน สำนักกฎหมายและที่ดิน กรมชลประทาน ได้ประสานมายังสำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดแพร่ในตอนบ่ายวันที่ 4 เมษายน 2562 ให้คำมั่นว่าจะส่งหนังสือแสดงรายละเอียดมายังสำนักพุทธฯ จ.แพร่
ขณะเดียวกัน ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดแพร่ได้ให้คำแนะนำแก่เจ้าอาวาส กรรมการวัด ผู้ใหญ่บ้าน ไวยาวัจกร และชาวบ้านที่เข้ามาเกี่ยวข้อง ว่าพื้นที่ดังกล่าวเป็นธรณีสงฆ์ตามเอกสารสิทธิ ต้นไม้สิ่งปลูกสร้างในพื้นที่เป็นของวัด ไม่ใช่ของหมู่บ้าน อำนาจตัดสินใจเป็นของเจ้าอาวาส
แนะนำให้แต่งตั้งคณะกรรมการดำเนินการในเรื่องที่เกิดขึ้น หากมีค่าชดเชยค่าเสียหายให้นำเงินเข้าบัญชีธนาคารของวัดและจัดทำบัญชีรายงานเจ้าอาวาสและสำนักพุทธฯ ให้กลุ่มบุคคลหยุดการกระทำบุกรุกที่ดินธรณีสงฆ์ ทรัพย์สินของวัดแม่แคม โดยไม่ต้องดำเนินคดีเพื่อไม่ให้เกิดความขัดแย้งเพิ่มเติม บันทึกดังกล่าวได้รายงานให้เจ้าคณะอำเภอและเจ้าคณะจังหวัดแพร่รับทราบเพื่อดำเนินการทำผาติกรรมที่ธรณีสงฆ์วัดแม่แคมต่อไป