แพร่ - ศรัทธาวัดแม่แคมจี้ผู้ว่าฯ แพร่ตรวจสอบ..หลังวัดยกที่ดินให้กรมชลฯ สร้างอ่างเก็บน้ำอันเนื่องมาจากพระราชดำริในหลวง ร.๙ จนถึงวันนี้ยังไม่มีการทำผาติกรรม แต่ไม้สักทอง กระยาเลย ไม้ผล รวมกว่า 500 ต้น ถูกโค่น-ย้ายหายเกลี้ยง
โครงการสร้างอ่างเก็บน้ำแม่แคมอันเนื่องมาจากพระราชดำริพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ในหลวงรัชกาลที่ ๙ ต.สวนเขื่อน อ.เมืองแพร่ ขณะนี้คืบหน้าเกินกว่าร้อยละ 50 แล้ว แต่พบว่ายังไม่มีการจ่ายค่าเวนคืนประกอบด้วยค่ารื้อถอนสิ่งปลูกสร้างต้นไม้ที่สำรวจไว้แล้วและค่าที่ดิน ซึ่งจำแนกออกเป็นกลุ่มที่มีเอกสารสิทธิและกลุ่มที่ไม่มีเอกสารสิทธิ ในจำนวนนี้มีที่ดินธรณีสงฆ์จำนวน 2 แปลงที่มีเอกสารสิทธิเป็น น.ส.3 ก.ก็ยังไม่มีการทำผาติกรรมยกเลิกกฤษฎีกาที่ดินสงฆ์ จำนวน 2 แปลง รวม 5 ไร่เศษแต่อย่างใด
ซึ่งวัดแม่แคมได้ร้องเรียนไปยังศูนย์ดำรงธรรมว่าทางวัดยินดีมอบที่ดินให้แก่โครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริเพื่อสร้างความเจริญให้บ้านเมืองตามแนวพระราชดำริในหลวงรัชกาลที่ ๙ แต่กรมชลประทานยังไม่ดำเนินการตามระเบียบของทางราชการในการจัดการที่ดินให้เป็นไปตามกฎหมาย ล่าช้ามานานจนอ่างเก็บน้ำสร้างไปแล้วกว่าร้อยละ 50
นอกจากนี้ยังพบว่ามีการปล่อยให้ไม้สักทองตามบัญชีสำรวจ 260 ต้น พร้อมไม้กระยาเลย ไม้ผล รวมทั้งหมดกว่า 500 ต้น ซึ่งเป็นทรัพย์สินของวัดแม่แคมหายไปทั้งหมด
ขณะที่ศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดแพร่ได้ประชุมหารือร่วมกันระหว่างป่าไม้ ชลประทาน กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน เทศบาลตำบลสวนเขื่อน ตำรวจ ภ.จว.แพร่ ที่ดินจังหวัดแพร่ สำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดแพร่ ตัวแทนโครงการสร้างอ่างเก็บน้ำแม่แคม และตัวแทนวัดแม่แคมที่ศาลาวัดแม่แคม เมื่อ 22 ธันวาคม 63 ที่ผ่านมา แต่ไม่สามารถหาข้อยุติได้
โดยเฉพาะปัญหาหลังมีการสร้างสำนักงานและที่พักคนงานพร้อมทั้งอาคารสปิลเวย์ แนวสันเขื่อน ในบริเวณที่ดินของวัดแม่แคม-โรงเรียนแม่แคม และที่ดินชาวบ้าน ไม่มีใครตอบได้ว่าไม้สักมีค่าทั้งหมดที่อยู่ในที่ดินของวัดแม่แคมหายไปไหน
แหล่งข่าวในชุมชนบ้านแม่แคมเปิดเผยถึงวันที่มีการตัดไม้สักทองและไม้กระยาเลยของวัดออกไปว่า ในวันนั้นนายประทวน แจ้งใจ ผู้รักษาความสงบในหมู่บ้านแม่แคม ได้แจ้งเจ้าอาวาสวัดแม่แคมว่า..โครงการสร้างอ่างเก็บน้ำฯ นำแบ็กโฮเข้าโค่นล้มไม้วัดหมดแล้ว เจ้าอาวาสฯ จึงได้แจ้งไปยังนางอนันยา เจียมศรีพงษ์ ผอ.สำนักพุทธฯ จ.แพร่ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมีเจ้าหน้าที่ป่าไม้ที่รับผิดชอบพื้นที่เข้าร่วมด้วย
เมื่อนางอนันยา พร้อมกับเจ้าหน้าที่เดินทางไปตรวจสอบก็พบว่าโครงการสร้างอ่างเก็บน้ำจ้างคนขับรถแบ็กโฮที่เป็นคนท้องถิ่นทำการโค่นต้นมะขาม ต้นสัก และไม้อื่นๆ จนเกือบหมดแล้ว จึงได้สั่งการให้หยุดการกระทำดังกล่าวเนื่องจากเป็นการบุกรุกที่ดินภายใต้กรรมสิทธิ์กรมการศาสนา ที่ยังไม่มีการทำผาติกรรม ขณะที่โค่นต้นไม้ดังกล่าวก็ไม่ได้รับอนุญาต
“ตอนนั้นเจ้าหน้าที่ป่าไม้ที่อยู่ในเหตุการณ์แนะนำให้เผาทิ้งทั้งหมดเพราะเป็นการกระทำที่ละเมิดกฎหมาย เรื่องนี้มีเจ้าหน้าที่ระดับสูงในโครงการสร้างอ่างเก็บน้ำอยู่ด้วย แต่พอรุ่งเช้าของอีกวันไม้ที่ตัดโค่นถูกลำเลียงหายไปจนหมด ไม่มีร่องรอยการเผาใดๆ ต่อมานางอนันยา เจียมศรีพงษ์ ผู้อำนวยการสำนักพุทธฯ และเจ้าหน้าที่ก็ถูกสั่งย้ายโดยไม่ทราบสาเหตุ”
นายพิทักษ์ชัย รักสุข ผู้แทนเจ้าอาวาสวัดแม่แคม กล่าวว่า มีข้อมูลขนาดนี้ชลประทานยังปัดความรับผิดขอบ ทั้งๆ ที่วัดแม่แคมต้องการมอบที่ดินให้โครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริเพราะความจงรักภักดีต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ที่สืบทอดมานาน การสร้างอ่างเก็บน้ำแห่งนี้จะมีประโยชน์ต่อสังคมอย่างใหญ่หลวง แต่มีการดำเนินการอย่างไม่โปร่งใส ขอเรียกร้องให้นายสมหวัง พ่วงบางโพ ผู้ว่าราชการจังหวัดแพร่ ทำการสอบสวนให้เห็นผู้ที่กระทำผิดดังกล่าวเพื่อเอาผิดตามกฎหมาย ทำให้กระบวนการสร้างอ่างเก็บน้ำน้อมเกล้าฯ ถวายในหลวงรัชกาลที่ ๙ มีความสง่างามสมพระเกียรติต่อไป