xs
xsm
sm
md
lg

เซ็นย้อนหลัง? “แพร่” เร่งเคลียร์ปมกรมชลฯ สร้างอ่างไม่ทำผาติกรรม-สักทองที่ธรณีสงฆ์หายจนวัดต้องถวายฎีกา

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



แพร่ - ศูนย์ดำรงธรรมฯ แพร่เร่งเคลียร์ปัญหาสร้างอ่างเก็บน้ำฯ อันเนื่องมาจากพระราชดำริฯ  หลังกรมชลฯ สร้างก่อนทำผาติกรรมที่ธรณีสงฆ์-ไม้มีค่าหายเกลี้ยง จนชาวบ้านรอค่าเวนคืนเก้อมา 3 ปี เล็งขอเจ้าอาวาสวัดฯ เซ็นย้อนหลังปูทางจ่ายชดเชย ดึง สตง./ป.ป.ท.สอบหาคนผิดอีกทาง


กรณีโครงการสร้างอ่างเก็บน้ำแม่แคม อันเนื่องมาจากพระราชดำริในหลวงรัชกาลที่ ๙ หมู่ 7 บ้านแม่แคม ต.สวนเขื่อน อ.เมืองแพร่ ซึ่งเกิดปัญหาการทำผิดขั้นตอนกฎหมายในกระบวนการจัดหาที่ดิน-เวนคืน หลังกรมชลประทานเริ่มก่อสร้างเมื่อปี 2560 จนถึงปัจจุบันคืบหน้าไปแล้วกว่าร้อยละ 58 แต่การเวนคืนที่ดินและจ่ายค่าทดแทน-ค่าขนย้ายทรัพย์สินยังดำเนินการไม่แล้วเสร็จ

โดยเฉพาะที่ดินธรณีสงฆ์ 2 แปลง 5 ไร่เศษของวัดแม่แคมยังไม่ทำผาติกรรมเปลี่ยนจากพื้นที่ธรณีสงฆ์มาเป็นพื้นที่เวนคืนสร้างอ่างเก็บน้ำ ขณะที่ไม้มีค่าทั้งไม้สักทอง ไม้กระยาเลย ไม้ผล ในที่ดินดังกล่าวถูกตัดโค่น-ขนย้ายออกจากพื้นที่ไปด้วย

ล่าสุดศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดแพร่ได้เชิญผู้เกี่ยวข้องทั้งสำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดแพร่ กรมชลประทาน กรมที่ดิน องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในพื้นที่คือเทศบาลตำบลสวนเขื่อน เจ้าคณะจังหวัดแพร่ เจ้าคณะอำเภอเมืองแพร่ เจ้าอาวาสวัดแม่แคม กำนัน ผู้ใหญ่บ้านในพื้นที่ และไวยาวัจกรวัดแม่แคม ร่วมประชุมหาทางออกอีกครั้งที่ห้องประชุมชั้น 5 ศาลากลางจังหวัดแพร่ เมื่อ 20 ม.ค.ที่ผ่านมา

ก่อนเริ่มประชุม นายฌาญณริฐน์ พรมวัง นายกเทศมนตรีตำบลสวนเขื่อน ได้ยื่นหนังสือถึงผู้ว่าราชการจังหวัดแพร่ให้เร่งรัดการชดเชยเวนคืนที่ดินเอกสารสิทธิจำนวน 23 ราย และเร่งแก้ปัญหาโดยหาข้อยุติโดยเร็ว

รายงานข่าวแจ้งว่า ในการประชุมซึ่งไม่อนุญาตให้สื่อมวลชนเข้าฟัง ศูนย์ดำรงธรรมกล่าวถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ประเด็นสำคัญคือ 1. การเวนคืนที่ธรณีสงฆ์ที่ต้องทำผาติกรรมก่อน กรมชลประทานต้องแจ้งให้หน่วยงานสงฆ์ทราบโดยเฉพาะผู้รับผิดชอบโดยตรงคือเจ้าอาวาสวัดแม่แคม แต่ปัจจุบันมิได้ดำเนินการ และเลยขั้นตอนดังกล่าวไปแล้ว การทำงานที่ผ่านมากลายเป็นปัญหาบุกรุก ละเมิด ส่งผลไปถึงประเด็นที่ 2 คือ ต้นไม้สัก และไม้กระยาเลยซึ่งเป็นทรัพย์สินของวัด ตามบัญชีที่กรมชลประทานสำรวจมีการนำเครื่องจักรเข้ารื้อถอน-โค่นล้ม และหายไปทั้งหมด


นายพิทักษ์ชัย รักสุข ผู้รับมอบอำนาจจากเจ้าอาวาสวัดแม่แคม ที่เข้าประชุมในครั้งนี้ ระบุว่า ที่ประชุมต้องการให้การสร้างอ่างไม่หยุดชะงักเพราะเป็นโครงการสำคัญ ขณะที่ทางกรมชลประทานขอให้เจ้าอาวาสลงนามยินยอมให้ทำผาติกรรมย้อนหลัง และหาผู้กระทำผิดขโมยไม้ในที่ธรณีสงฆ์มาดำเนินคดี พร้อมทั้งเร่งจ่ายเงินเวนคืนให้เจ้าของที่ดินที่รอมานานกว่า 3 ปี จำนวน 23 ราย

อย่างไรก็ตาม เจตนาของเจ้าอาวาสที่ไม่ต้องการเอาผิดใครเพราะอยู่ในสมณเพศ แต่ที่ผ่านมากรมชลประทานทำผิดขั้นตอนของกฎหมาย ในภาพรวมคือ "ผิดกฎหมาย" จนประชาชนที่เสียที่ทำกินไปแล้วไม่ได้รับค่าเวนคืนไปด้วย และเนื่องจากอ่างเก็บน้ำแห่งนี้เป็นอ่างสำคัญที่เรียกว่าโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริในหลวง ร.๙ เมื่อไม่ยอมแก้ไขให้โครงการมีความโปร่งใส จึงได้ยื่นถวายฎีกาต่อพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลปัจจุบัน เพื่อนำไปสู่การแก้ไขอย่างเป็นธรรมต่อไป

ด้านนายวิเชียร อนุศาสนนันท์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดแพร่ ที่เป็นประธานการประชุมครั้งนี้ กล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า ผลสรุปคือการเร่งจ่ายเงินชดเชยให้จบโดยเร็ว พร้อมตรวจสอบกระบวนการทำงานว่าเป็นไปตามกฎหมายหรือไม่ โดยให้ สตง.และ ป.ป.ท.เข้ามาตรวจสอบ ถ้าพบความผิดก็ว่าไปตามผิด ถูกก็ว่าตามถูก ซึ่งหน่วยงานเหล่านี้มีหน้าที่ตรวจสอบดำเนินการอยู่แล้ว

อย่างไรก็ตาม การชดเชยจะเร่งรัดไม่ได้ อยู่ที่ระบบราชการ ซึ่งได้ทำความเข้าใจกับผู้ใหญ่บ้าน กำนันแล้วว่าเงินของกรมชลประทานอาจต้องมีการบริหารภายใน ต้องใช้เวลาจะเร่งเอาวันนี้พรุ่งนี้คงไม่ได้ ส่วนการทำผาติกรรมย้อนหลังนั้นทางวัดไม่ขัดข้องหลังประชุมคงไปประสานกันเพื่อให้โครงการเดินไปได้

ส่วนพระครูสุนทรวรปัญโญ เจ้าอาวาสวัดแม่แคม กล่าวว่า ทางวัดได้ถวายฎีกาไปเมื่อวันที่ 19 มกราคมที่ผ่านมา ถือเป็นสิ่งสำคัญสูงสุด และจะรอการตอบรับก่อนจึงจะตัดสินใจลงนามทำผาติกรรมย้อนหลังได้ ถ้าไม่ผิดกฎหมายเพราะเจ้าอาวาสก็มีสถานะเป็นเจ้าพนักงานของรัฐเหมือนกัน ซึ่งที่ผ่านมาเชื่อว่ามีการดำเนินการที่มิชอบด้วยกฎหมาย

ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า ก่อนหน้านี้มีชาวบ้านฟ้องร้องกรมชลประทานกรณีที่มีการแผ้วถางทรัพย์สินของชาวบ้านในพื้นที่ใกล้เคียง ปัญหาที่ธรณีสงฆ์วัดแแม่แคมเป็นอีกกรณีหนึ่งที่มีการเข้ารื้อถอนสิ่งที่เป็นทรัพย์สินในพื้นที่ธรณีสงฆ์โดยยังไม่ผ่านกระบวนการทำผาติกรรม


กำลังโหลดความคิดเห็น