บุรีรัมย์ - ยายวัย 89 ชาวบุรีรัมย์ พร้อมลูกหลานยันจะหาเงินมาจ่ายเบี้ยคนชราที่ถูกเรียกย้อนหลังคืนทั้ง 84,400 บาท แต่ขอยืดเวลาผ่อนชำระจาก 1 ปี เป็น 20 เดือนโดยไม่คิดดอกเบี้ย ลูกสาวยอมรับเครียด ชี้ไม่โทษใครผิดไม่อยากให้เรื่องบานปลายห่วงสภาพจิตใจแม่ ยันไม่เปิดบัญชีรับบริจาคหวั่นกระแสดรามา หากใครอยากช่วยให้มาพูดคุยด้วยตัวเอง
วันนี้ (25 ม.ค.) ความคืบหน้ากรณีที่ นางบวน โล่ห์สุวรรณ อายุ 89 ปี พร้อมด้วย นางลัดดาวรรณ โล่ห์สุวรรณ อายุ 66 ปี ลูกสาว ชาวตำบลเจริญสุข อ.เฉลิมพระเกียรติ จ.บุรีรัมย์ ได้ออกมาร้องขอความช่วยเหลือหลังจากเจ้าหน้าที่ อบต.ได้แจ้งว่ามีหนังสือจากกรมบัญชีกลางมาทวงเงินเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุที่จ่ายให้แก่นางบวน ผู้เป็นแม่ย้อนหลังเป็นเวลา 10 ปีคืนเป็นเงิน 84,400 บาท พร้อมดอกเบี้ยร้อยละ 7.5 เพราะเป็นการจ่ายซ้ำซ้อนเนื่องจากยายบวนได้รับเงินบำนาญพิเศษกรณีที่เป็นทายาทของ จ.ส.อ.จักราวุทธ โล่ห์สุวรรณ ลูกชาย ซึ่งเป็นทหารสังกัด มทบ.21 นครราชสีมา เดือนละ 5,000 บาท หลังจากลูกชายเสียชีวิตจากเหตุการณ์คลังแสงระเบิดที่โคราชเมื่อวันที่ 25 ตุลาคม 2544 และได้รับเงินบำนาญเพิ่มเป็น 10,000 บาทเมื่อกลางปี 2562 ซึ่งสร้างความตกใจให้ยายบวนเพราะไม่เคยรู้มาก่อนว่าหากได้รับเงินบำนาญของลูกชายที่เสียชีวิตแล้วจะไม่มีสิทธิ์รับเบี้ยผู้สูงอายุ และหากเป็นการจ่ายซ้ำซ้อนทำไมถึงปล่อยให้ล่วงเลยมาจนถึง 10 ปีแล้วเพิ่งจะมาทวงถาม จึงไม่รู้จะหาเงินที่ไหนมาจ่ายคืน จึงอยากวิงวอนให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องช่วยเหลือ
กระทั่งเมื่อวานนี้ (24 ม.ค.) ผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 26 พร้อมด้วยผู้กำกับการ สภ.เฉลิมพระเกียรติ นายก อบต.เจริญสุข และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้ลงพื้นที่ไปเยี่ยมให้กำลังใจคุณยายบวน พร้อมทั้งหารือแนวทางในการช่วยเหลือยาย โดยจากการพูดคุยก็ได้เสนอให้คุณยาย และครอบครัวสามารถผ่อนชำระได้ ตามระเบียบที่กำหนดไว้คือ หากผ่อนชำระภายใน 1 ปีจะไม่มีดอกเบี้ย แต่หากเกิน 1 ปี ตามระเบียบกำหนดไว้จะต้องคิดอัตราดอกเบี้ยร้อยละ 7.5 ต่อปี ตามที่เสนอข่าวมาอย่างต่อเนื่องนั้น
ล่าสุดคุณยายบวน และลูกหลานได้ปรึกษาหารือกันแล้วตกลงว่าจะหาเงินมาชำระเบี้ยคนชราย้อนหลังคืนตามระเบียบทั้ง 84,400 บาท โดยเลือกแบบไม่มีดอกเบี้ย แต่ทางครอบครัวได้แจ้งทาง อบต.ว่าขอยืดระยะเวลาจาก 1 ปี หรือ 12 เดือน เป็น 20 เดือน เพื่อขอเวลาหาเงินและส่วนหนึ่งต้องแบ่งจากเงินบำนาญพิเศษกรณีลูกเสียชีวิตที่ยายได้รับล่าสุดเป็นเดือนละ 10,000 บาท มารวมกันเพื่อชำระในแต่ละเดือน ซึ่งตอนนี้รอคำตอบจากทาง อบต.ว่าจะสามารถยืดระยะเวลาจาก 12 เดือน เป็น 20 เดือนได้หรือไม่ แต่หากตามระเบียบไม่สามารถทำได้ทางลูกหลานก็จะพยายามหาเงินมาจ่ายคืนให้ครบทุกบาทตามระเบียบ เพราะทางครอบครัวเข้าใจว่าเงินดังกล่าวเป็นเงินหลวง
นางลัดดาวรรณ ลูกสาวยายบวน บอกว่า หลังจากพูดคุยกันแล้วทั้งแม่และลูกหลานจะพยายามหาเงินไปชำระเบี้ยผู้สูงอายุคืนให้ครบทั้งหมด ขณะนี้รอคำตอบจากทาง อบต.ว่าจะสามารถยืดระยะเวลาการชำระแบบไม่มีดอกเบี้ยจาก 12 เดือนเป็น 20 เดือนได้หรือไม่ ยอมรับว่าทั้งแม่และครอบครัวรู้สึกเครียดกับเรื่องราวที่เกิดขึ้น แต่ยืนยันว่าทางครอบครัวจะไม่เปิดบัญชีรับบริจาคเพราะไม่อยากให้เกิดกระแสดรามา แต่หากใครอยากจะช่วยเหลือก็ให้มาพูดคุยกับคุณแม่หรือลูกหลานที่บ้านด้วยตัวเอง และเรื่องราวที่เกิดขึ้นไม่อยากจะโทษใครอาจจะด้วยความไม่รู้หรือการสื่อสารไม่เข้าใจ ไม่อยากให้เรื่องบานปลายเพราะห่วงสภาพจิตใจของแม่เพราะอายุมากแล้ว แค่นี้ก็เครียดมากพอแล้ว ขอบคุณทุกหน่วยงานที่เข้ามาเยี่ยมให้กำลังใจและช่วยเหลือคุณแม่
ขณะที่พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ได้ลงพื้นที่สอบถามรายละเอียดคุณยายที่บ้าน พร้อมทั้งจะได้ประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อหาแนวทางในการช่วยเหลือคุณยายในอีกทางหนึ่งด้วย