บุรีรัมย์ - หลายหน่วยงานรุดเยี่ยมให้กำลังใจพร้อมมอบสิ่งของและถกหารือแนวทางช่วยเหลือยายวัย 89 ปีถูกเรียกคืนเงินเบี้ยคนชราย้อนหลัง 10 ปีเกือบแสนบาท เบื้องต้นเสนอให้นำเงินบำนาญพิเศษที่ยายได้รับเพิ่มเมื่อกลางปี 2562 จากเดือนละ 5,000 เป็น 10,000 ผ่อนชำระคืน 1 ปีโดยไม่คิดดอกเบี้ย
วันนี้ (24 ม.ค.) ความคืบหน้ากรณีที่ นางบวน โล่ห์สุวรรณ อายุ 89 ปี พร้อมด้วย นางลัดดาวรรณ โล่ห์สุวรรณ อายุ 66 ปี ลูกสาว ชาวตำบลเจริญสุข อ.เฉลิมพระเกียรติ จ.บุรีรัมย์ ได้ออกมาร้องขอความช่วยเหลือ หลังจากเจ้าหน้าที่ อบต.ได้แจ้งว่ามีหนังสือจากกรมบัญชีกลางมาทวงเงินเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุหรือเบี้ยคนชรา ที่จ่ายให้แก่นางบวน ผู้เป็นแม่ย้อนหลังเป็นเวลา 10 ปีคืน เป็นเงิน 84,400 บาท พร้อมดอกเบี้ยด้วย เพราะเป็นการจ่ายซ้ำซ้อนเนื่องจากยายบวนได้รับเงินบำนาญพิเศษกรณีที่เป็นทายาทของ จ.ส.อ.จักราวุทธ โล่ห์สุวรรณ ลูกชาย ซึ่งเป็นทหารสังกัด มทบ.21 นครราชสีมา เดือนละ 5,000 บาท หลังจากลูกชายเสียชีวิตจากเหตุการณ์คลังแสงระเบิดที่โคราชเมื่อวันที่ 25 ตุลาคม 2544 สร้างความตกใจให้ยายบวนเป็นอย่างมากเพราะไม่เคยรู้มาก่อนว่าหากได้รับเงินบำนาญของลูกชายที่เสียชีวิตแล้ว จะไม่มีสิทธิ์รับเงินเบี้ยผู้สูงอายุ และหากเป็นการจ่ายซ้ำซ้อนทำไมถึงปล่อยให้ล่วงเลยมาจนถึง 10 ปี แล้วเพิ่งจะมาทวงถาม ก็ไม่รู้จะหาเงินที่ไหนมาจ่ายคืน จึงอยากวิงวอนให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องช่วยเหลือ ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น
ล่าสุดเมื่อช่วงบ่ายวันนี้ พล.ต.ภัชรพล ศิริรักษ์ ผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 26 (ผบ.มทบ.26) พร้อมด้วย พ.ต.อ.มานิตย์ สร้อยจิตร ผู้กำกับการ สภ.เฉลิมพระเกียรติ, นายธนศักดิ์ ปุ่น ประโคน ปลัดอำเภออาวุโส อ.เฉลิมพระเกียรติ, นายทินกร วรนุช นายก อบต.เจริญสุข, น.ส.ธสา ชินรัมย์ ผู้อำนวยการกองสวัสดิการสังคม อบต.เจริญสุข และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ได้ลงพื้นที่ไปยังหมู่บ้านสี่เหลี่ยม ต.เจริญสุข อ.เฉลิมพระเกียรติ เพื่อประชุมหารือแนวทางในการช่วยเหลือยายบวน โล่ห์สุวรรณ ที่ถูกเรียกเก็บเบี้ยผู้สูงอายุคืนย้อนหลัง 10 ปี
จากการพูดคุยได้เสนอให้คุณยายและครอบครัวสามารถผ่อนชำระได้ โดยตามระเบียบที่กำหนดไว้คือ หากผ่อนชำระภายใน 1 ปีจะไม่มีดอกเบี้ย แต่ถ้าเกิน 1 ปี ตามระเบียบกำหนดไว้จะต้องคิดอัตราดอกเบี้ยร้อยละ 7.5 ต่อปี
ทั้งนี้ จากการสอบถามข้อมูลรายละเอียดทราบว่าทางรัฐได้เพิ่มวงเงินบำนาญกรณีพิเศษที่ลูกชายยายที่เสียชีวิตจากเดือนละ 5,000 บาท เป็น 10,000 บาทเมื่อประมาณเดือน พ.ค. 2562 แต่คุณยายไม่ทราบเพราะไม่ได้เช็กยอดเงิน ส่วนใหญ่จะให้ลูกหลานเป็นคนไปเบิกให้ ประกอบกับคุณยายยังมีเบี้ยคนพิการอีกเดือนละ 800 บาท จึงแนะนำให้คุณยายนำเงินจากบำนาญพิเศษดังกล่าวไปผ่อนชำระ ซึ่งหากยายจะผ่อนแบบไม่มีดอกเบี้ยต้องผ่อนเฉลี่ยเดือนละ 7,030 กว่าบาท 12 เดือน ซึ่งคุณยายก็ขอปรึกษาหารือกับทางลูกหลานก่อน เพราะหากยายผ่อนเดือนละ 7,030 กว่าบาทก็จะเหลือเงินใช้จ่ายประมาณ 3,000 กว่าบาท
หลังจากเจ้าหน้าที่มาชี้แจงทำความเข้าใจ ทั้งยาย และลูกสาวก็เข้าใจระเบียบว่าจะต้องคืนเงิน แต่ด้วยความที่ฐานะยากจนและภาระค่าใช้จ่ายในครอบครัวจึงไม่มีเงินก้อนที่จะไปจ่ายคืน ทั้งนี้ ผบ.มทบ.26 และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องยังได้ให้กำลังใจและมอบสิ่งของช่วยเหลือยายในเบื้องต้นด้วย
นายทินกร วรนุช นายกองค์การบริหารส่วนตำบล ( อบต.) เจริญสุข ระบุว่า หลังทราบเรื่องทาง อบต.ไม่นิ่งนอนใจพยายามหาทางออกให้แก่คุณยาย แต่เจ้าหน้าที่ต้องทำตามระเบียบเพราะหากไม่ทำจะมีความผิดฐานละเว้น เนื่องจากเงินจำนวนดังกล่าวเป็นเงินแผ่นดิน แต่ยืนยันว่าจะหาแนวทางช่วยเหลือไม่ให้คุณยายต้องเดือดร้อน หรือได้รับผลกระทบต่อการดำรงชีวิต