xs
xsm
sm
md
lg

กระแสตีกลับแรง! “ลุงพล” ควงเมียแจงการใช้เงินรับบริจาคที่ได้เกือบ 9 แสน ยันไม่ใช่ฆาตกรฆ่าหลาน

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



มุกดาหาร - ทนกระแสสังคมไม่ไหว “ลุงพล” ควงป้าแต๋นพร้อมทนายความเปิดแถลงข่าวชี้แจงการใช้เงินรับบริจาคที่ได้มากถึง 886,934.82 บาท นำไปเทพื้นสำนักสงฆ์ภูหลวง พร้อมขอโทษกรณีทำร้ายร่างกายสื่อ ยืนยันไม่ใช่ฆาตกรฆ่าน้องชมพู่

บ่ายวันนี้ (20 ม.ค.) นายไชย์พล วิภา นางสมพร หลาบโพธิ์ ลุง และป้าของเด็กหญิงอรวรรณ วงศ์ศรีชา หรือน้องชมพู่ ที่ถูกพบเป็นศพในสภาพเปลือยกายอยู่บนภูเหล็กไฟ พร้อมด้วย ทนายรัชพล ศิริสาคร ทนายความ ร่วมแถลงข่าวแก่สื่อมวลชนถึงประเด็นต่างๆ ที่สังคมกังขาในตัวนายไชย์พล หรือลุงพล


นายไชย์พล วิภา ลุงของน้องชมพู่ กล่าวยอมรับกรณีเหตุการณ์ทำร้ายร่างกายผู้สื่อข่าวช่องอัมรินทร์ 34 ว่าเป็นเรื่องที่ไม่เหมาะสม ส่วนตัวมีนิสัยโผงผาง พร้อมยอมรับผิดต่อเรื่องที่เกิดขึ้น จากนี้สัญญาจะไม่เกิดเหตุลักษณะนี้อีก อีกทั้งที่ผ่านมาไม่เคยปิดกั้นสื่อหลัก แต่การสัมภาษณ์บางประเด็นไม่อยากตอบ ซึ่งต้องคุยกับสื่อก่อนทุกครั้ง และระยะหลังมีประเด็นมากมาย ช่วงดังกล่าวได้คุยกับผู้สื่อข่าวคนหนึ่งว่าของดสัมภาษณ์ 2 เดือน แต่ไม่ได้คุยกับสื่ออื่น จนยูทูปเบอร์ได้ยินเลยกันสื่อหลักไม่ให้เข้าใกล้ ตนยังมีความรู้สึกดี และต้องพึ่งสื่อหลักจนกว่าคดีจะสิ้นสุด

ส่วนกรณีเรื่องเงินบริจาคเทพื้นสำนักสงฆ์ภูหลวง นายไชย์พลได้โชว์สมุดบัญชีรับบริจาค พร้อมบอกว่าได้เงินมาจำนวน 886,934.82 บาท มีการเบิกเงินออกมาแล้ว 3 ครั้ง ครั้งแรก 150,000 บาท ครั้งที่ 2 108,600 บาท และครั้งที่ 3 จำนวน 300,000 บาท ยอดเงินคงเหลือตอนนี้ 328,601 บาท ในจำนวนนี้ ยังต้องจ่ายค่าปูน และค่าช่างขัดปูนด้วย ขณะที่เงินบริจาคส่วนที่เหลือ นายไชย์พลระบุได้พูดคุยกับพระอาจารย์สมบัติ ประธานสำนักสงฆ์ภูหลวงแล้ว โดยพระอาจารย์สมบัติปฏิเสธที่จะรับเงินส่วนนี้ ลุงพลจึงได้แจ้งว่าจะนำไปซ่อมแซมห้องน้ำ รวมถึงศาลาการเปรียญวัดกกกอก

นอกจากนี้ ยังชี้แจงประเด็นเรื่องรายชื่อเปิดบัญชี ที่มี นายธนากร ทนันไธสง หรือยูทูปเบอร์อ๋อ ซึ่งไม่ใช่คนบ้านกกกอก ร่วมเปิดบัญชี เนื่องจากตอนแรกได้มีการนิมนต์พระอาจารย์สมบัติ พร้อมคณะกรรมการสำนักสงฆ์จำนวน 9 คนไปเปิดบัญชี แต่ไม่สามารถดำเนินการได้เพราะไม่ใช่วัด ต่อมาจึงได้ปรึกษากันว่าจะใช้ชื่อนายไชย์พลเป็นเจ้าของบัญชี พร้อมนำนายแถร เงินนาม หรือผู้ช่วยจ่อย และยูทูปเบอร์อ๋อ มาร่วมเปิดบัญชี เพราะคนหนึ่งเป็นผู้นำชุมชน และอีกคนเป็นตัวแทนกลุ่มยูทูปเบอร์ที่แฟนคลับโอนเงินมาร่วมบริจาคจำนวนมาก

ขณะที่กรณีเรื่องไม้มะค่าแต้ นายไชย์พลยืนยันไม่ได้เจตนาหลอกลวง แต่มีสิ่งลี้ลับบางอย่างเกิดขึ้นตั้งแต่เจอไม้ท่อนนี้ หากเจ้าหน้าที่จะดำเนินการตามกฎหมายพร้อมยอมรับ แต่เบื้องต้นทางเจ้าหน้าที่ป่าไม้ระบุยังไม่เคลื่อนย้ายไม้นี้ ขอฝากไว้ที่นี่ก่อน


นายไชย์พลกล่าวถึงคดีน้องชมพู่ว่า ดีใจที่ตำรวจใกล้จะจับคนร้ายได้ ยืนยันคนร้ายไม่ใช่ตนและป้าแต๋นแน่นอน ซึ่งรายละเอียดทุกอย่างกับตำรวจตั้งแต่วันแรกจนถึงวันนี้ก็เหมือนเดิม ส่วนชาวบ้านที่เข้าเครื่องจับเท็จและพยานแวดล้อมจะให้การอย่างไรก็เป็นไปตามสิทธิ์ และที่สำคัญทุกวันยังนอนหลับสบาย ตื่นเช้าปกติ ก่อนนอนสวดมนต์ตลอด หากสิ่งที่ พลตำรวจเอก สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ บอกว่าคนร้ายที่ทำรู้อยู่แก่ใจ คงนอนไม่หลับ ชี้ไม่ใช่ตัวเองแน่นอน

สำหรับประเด็นที่ นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม พูดว่าคนร้ายที่ทำน้องชมพู่เป็นกลุ่มไสยศาสตร์ หาเด็กบริสุทธิ์ทำพิธีตัดเหล็กไหล ได้ค่าตอบแทนหลักสิบล้านบาท รายละเอียดส่วนนี้ให้ตำรวจเป็นผู้ตรวจสอบจะดีกว่า

ด้านเรื่องยูทูปเบอร์ที่มีประเด็นทั้งคุกคามชาวบ้าน และการกีดกันสื่อและทำพฤติกรรมไม่เหมาะสม จนเกิดปัญหาร้องเรียนให้กลุ่มยูทูปออกจากหมู่บ้าน นายไชย์พลบอกว่าจะดูแลกลุ่มนี้ หากคนไหนทำไม่ดี พฤติกรรมไม่เหมาะสมจะไม่ให้อยู่ในพื้นที่ และดูแลกันเอง ส่วนการที่บอกให้ลบคลิปบางอย่างที่ไม่เหมาะสม ยืนยันเป็นเรื่องจริง เพราะบางครั้งยูทูปบอร์ก็ถ่ายภาพไม่เหมาะสม ตอนที่มีพฤติกรรมหรือการหยอกล้อที่ไม่เหมาะสม จึงสั่งให้ลบ ไม่ใช่การปกปิดเรื่องราวพฤติกรรมไม่ดี และหากชาวบ้านหรือสื่อได้รับผลกระทบจากยูทูปเบอร์สามารถมาแจ้งตนได้ทันที

“นับจากนี้พร้อมจะให้สัมภาษณ์สื่อตามปกติ แต่มีเงื่อนไขต้องบอกกล่าวประเด็นที่จะสัมภาษณ์ก่อน และหากสื่อไม่ต้องการให้ยูทูปเบอร์มาถ่ายตอนสัมภาษณ์ผมนั้นก็แจ้งผมได้”

ขณะที่ ทนายรัชพลบอกว่า ปมที่ทำให้นายไชย์พลก่อเหตุกับสื่อเมื่อวานนี้ เนื่องจากนายไชย์พลเครียดหลายเรื่อง เช่น ปัญหาเรื่องการครอบครองไม้, เรื่องเงินบริจาค และเรื่องเครื่องดักฟัง ซึ่งนายไชย์พลถือเป็นชาวบ้านธรรมดาไม่ใช่นักแสดง จึงทำให้ไม่สามารถควบคุมอารมณ์ได้มากเท่าที่ควร โดยหากสำนักข่าวจะดำเนินคดีถึงที่สุดพร้อมยอมรับเพราะทำผิดจริง


นางสมพร หรือป้าแต๋น ภรรยาลุงพล บอกว่า หากย้อนเวลากลับไปต้องการเป็นชาวบ้านปกติเหมือนเดิม ด้าน นางจำลอง แดนกาไสย ชาวบ้านกกกอก บุคคลที่อยู่ในเหตุการณ์นายไชย์พลทำร้ายร่างกายผู้สื่อข่าวยืนยันเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนายไชย์พลไม่ได้ตั้งใจ แต่เป็นเพราะคงมีความเครียดจึงเกิดความกดดัน พร้อมมองว่านายไชย์พลไม่ได้กระทำรุนแรง ดูเป็นการหยอกล้อกัน เชื่อว่าคงไม่มีเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นอีก อีกทั้งขณะนี้แม้เจ้าหน้าที่จะมาตรวจสอบแล้ว พบไม้ท่อนนี้ไม่ใช่ไม้ตะเคียนแต่เป็นไม้มะค่าแต้ หรือไม้มะค่าหนาม ส่วนตัวยังเชื่อว่าเจ้าแม่โสรภียังสิงสถิตอยู่ในท่อนไม้ท่อนนี้ ซึ่งในอนาคตหากถูกยกไปที่อื่นก็จะตามไปขอเลขที่นั่น

ด้านหมอเข้ม หมอธรรมตาทิตย์ ชาวบ้านกกตูม เล่าว่า เหล็กไหลมีอยู่จริงมีตัวผู้และตัวเมีย ถ้าตัวเมียอยู่ด้วยจะไม่ไปใหน และความเชื่อชาวบ้านว่าเหล็กไหลอยู่คงกระพัน แต่ไม่มีชาวบ้านคนไหนได้ครอบครองเหล็กไหล ไม่มีใครได้ มีคนเชื่อว่าไม่มีแต่มี แต่ไม่ได้ลบหลู่ มันไม่ใช่ของเราเอามาไม่ได้ กรณีเรื่องเอาผมน้องชมพู่ไปตัดเหล็กไหลนั้น ตนว่าทำไม่ได้ จะเอาผมไปตัดเหล็กไหลนั้นเป็นไปไม่ได้ ขนาดมีวิชาแก่กล้า มันไม่ใช่ของเจ้ายังตัดไม่ได้ หยดยาวลงมาจากถ้ำยังหดขึ้นเหมือนเดิม มีสิ่งเดียวที่ตัดได้คือขวานเทวดารามสูร และชาวบ้านยังมีความเชื่อเรื่องเหล็กไหล


กำลังโหลดความคิดเห็น