พบ “ลุงพล” แย่งไมโครโฟน และพยายามขู่ทำร้ายร่างกายนักข่าวอมรินทร์ทีวี ระหว่างกองทัพสื่อรุมให้สัมภาษณ์ แถมยังขู่นักข่าวห้ามถ่ายภาพ ไม่เช่นนั้น จะแจ้งความ พบปมขัดแย้งมีหลายอย่าง ทั้งเรื่องเงินบริจาคค่าเทปูนสำนักสงฆ์ ที่รู้กันกับยูทูปเบอร์ รวมถึงความขัดแย้งกับหมอปลา
วันนี้ (19 ม.ค.) เฟซบุ๊ก Phuri Phatara ของ นายภูริภัทร บุญนิล ผู้สื่อข่าวสถานีโทรทัศน์ไทยรัฐทีวี โพสต์วิดีโอคลิปขณะที่กองทัพสื่อมวลชนกำลังสัมภาษณ์ลุงพล หรือ นายไชย์พล วิภา ลุงของน้องชมพู่ที่เสียชีวิต ที่ศาลพญานาค ข้างบ้านลุงพล บ้านกกกอก ต.กกตูม อ.ดงหลวง จ.มุกดาหาร
ปรากฏว่า ระหว่างนั้น นายไชย์พล ได้จับไมโครโฟนของสถานีโทรทัศน์อมรินทร์ทีวี ที่เคยทำข่าวโปรโมตลุงพล และกล่าวว่า “ช่องไหนขอจับ ขอถือหน่อย” และพยายามแย่งไมโครโฟนจาก นายนภัส ปราณีตพล ผู้สื่อข่าวสถานีโทรทัศน์อมรินทร์ทีวี แต่ผู้สื่อข่าวได้ยื้อแย่งไมโครโฟน ทำให้ลุงพลไม่พอใจถึงกับพูดว่า “ให้ผมถือหน่อย ช่องนี้ เป็นอะไร” แล้วตบบ่าผู้สื่อข่าว
ขณะที่ผู้สื่อข่าวกล่าวว่า อย่าทำร้ายผมเลยครับ ผมมาทำหน้าที่สื่อ จากนั้นลุงพลได้เข้าล็อกคอผู้สื่อข่าว ทำท่าคล้ายจะทำร้ายร่างกาย ก่อนจะแยกตัวออกมาแล้วเดินกลับบ้านไป ผู้สื่อข่าวถามว่า “ทำไมต้องให้ผมหยุดพูดครับ ผมไม่ได้ทำอะไรผิดครับ”
อีกคลิปหนึ่ง หลังจากที่ลุงพลกำลังเดินออกจากกองทัพสื่อมวลชน ปรากฏว่า ระหว่างที่ผู้สื่อข่าวตามถ่ายภาพอยู่นั้น บรรดายูทูปเบอร์ที่ทำข่าวเกาะติดชีวิตลุงพล ได้พยายามเข้ามาปกป้องลุงพล ส่วนลุงพลชี้หน้าผู้สื่อข่าวที่กำลังถ่ายภาพ และกล่าวว่า “พี่มาถ่ายขออนุญาตผมหรือยัง ห้ามถ่าย ถ้าพี่ถ่ายผมจะแจ้งความพี่นะ” ผู้โพสต์วิดีโอคลิประบุว่า “ให้สังคมตัดสิน พิจารณาเอาเอง ว่าการกระทำแบบนี้เหมาะสมหรือไม่ #บ้านกกกอก #Saveน้องฟ้าอมรินทร์ทีวี”
ด้าน ทนายเกิดผล แก้วเกิด โพสต์ข้อความระบุว่า “ใจเย็นๆ ครับ อย่าแย่งไมค์ ลุงพล ทำร้ายร่างกาย แม้เพียงเล็กน้อย ก็เป็นความผิดทางอาญานะครับ อาญา 391 ผู้ใดใช้กำลังทำร้ายผู้อื่น โดยไม่ถึงกับเป็นเหตุให้เกิดอันตรายแก่กายหรือจิตใจ ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 1 เดือน หรือปรับไม่เกิน 1 หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ”
รายงานข่าวเพิ่มเติมระบุว่า หลังจากที่ลุงพลได้เข้าเครื่องจับเท็จของทางตำรวจแล้ว พบว่า มีท่าทีเปลี่ยนไป ก่อนหน้านี้ กองทัพสื่อมวลชนหลายสำนักไปยังสำนักสงฆ์ภูหลวง เพื่อขอสัมภาษณ์ลุงพล แต่ถูกกลุ่มยูทูปเบอร์ที่มาตามติดชีวิตลุงพลขัดขวางเเละบอกว่าไม่ให้สื่อหลักเข้า ลุงพลของดให้สัมภาษณ์สื่อเป็นเวลา 2 เดือน หากมีประเด็นอะไรจะชี้แจงผ่านช่องยูทูปเบอร์เท่านั้น และเมื่อสื่อมวลชนพยายามขอสัมภาษณ์ลุงพล กลับไม่พูดอะไร พยายามพูดเรื่องอื่นที่ไม่เกี่ยวกับคำถาม โดยยังมีประเด็นท่อนไม้ตะเคียน “เจ้าแม่โสรภี” ข้างบ้านลุงพลที่นำขึ้นมาวางให้คนกราบไหว้บูชาขอโชคลาภ พบว่า ไม่ใช่ไม้ตะเคียน แต่เป็นไม้มะค่า
นอกจากนี้ ยังมีประเด็นดรามาเรื่องเงินบริจาคเพื่อเทพื้นศาลาสำนักสงฆ์ภูหลวง ที่พบว่า ลุงพลเปิดบัญชีรับบริจาคร่วมกับนายอ๋อ ยูทูปเบอร์ที่ไปทำคลิปเกาะติดชีวิตลุงพล โดยผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านที่มีชื่อในการเบิกเงินร่วมกันบอกว่าไม่รู้เรื่อง ขณะที่นายอ๋อปฏิเสธที่จะชี้แจงและไม่พอใจผู้สื่อข่าว ส่วนพระอาจารย์สมบัติ อภิสัมโธ ประธานสำนักสงฆ์ภูหลวง กล่าวว่า ไม่เคยเห็นตัวเลขในบัญชี รวมไปถึงไม่เคยรับรู้ถึงรายละเอียดในการใช้จ่ายเงิน แถมลุงพลจะขอลดสเปกการเทปูน อ้างว่า กลัวเงินที่รับบริจาคมาไม่พอกับค่าใช้จ่าย ทำให้มีการทักท้วง จนสุดท้ายลุงพล ต้องยอมทำตามสเปกเดิม ยืนยันว่า จะไม่เข้าไปยุ่งกับเงินบริจาคของลุงพล และถ้ามีเงินเหลือจะขอไม่รับไว้ เพราะไม่อยากมีปัญหาอีกต่อไปแล้ว
และยังมีกรณีที่ลุงพล ให้ข่าวเกี่ยวกับมีการแอบวางเครื่องดักฟังไว้ในรถยนต์ จนเป็นกระแสข่าวพูดถึงหมอปลา หรือ นายจีรพันธ์ เพชรขาว และ น้ำฟ้า ภรรยา รวมถึงประเด็นที่หมอปลาเคยเตือนลุงพลเรื่องการเปิดรับบริจาค และเคยกล่าวว่า “ลุงพลคนน่ารักคนเดิมหายไปไหน” กระทั่งล่าสุดหมอปลาแจ้งความดำเนินคดีกับลุงพลในข้อหาหมิ่นประมาท ที่ สภ.บ้านลาด จ.เพชรบุรี