เชียงใหม่ - “บุญเลิศ” เปิดเวทีปราศรัยใหญ่ส่งท้ายหาเสียงเลือกตั้งนายก อบจ.ขอคะแนนเสียงให้ความเป็นธรรมได้สานงานต่อ พร้อมหลั่งน้ำตาเปิดปากรักเคารพ “ทักษิณ” เหมือนเดิม ขณะที่ “จตุพร” ขยี้ซ้ำวอนอย่าเลือกคนเอี่ยวทำลายกระบวนการยุติธรรมคดี “บอส กระทิงแดง” ด้าน “ส.ว.ก๊อง” จัดปราศรัยพร้อมกันวัดพลัง คนสำคัญพรรคเพื่อไทยขึ้นช่วย
ช่วงเย็นวันนี้ (18 ธ.ค. 63) ที่โรงยิมเนเซียม สนามกีฬาสมโภชเชียงใหม่ 700 ปี นายบุญเลิศ บูรณุปกรณ์ ผู้สมัครนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงใหม่ หมายเลข 2 พร้อมผู้สมัครสมาชิกองค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงใหม่ ในนามกลุ่มเชียงใหม่คุณธรรม จัดเวทีปราศรัยใหญ่หาเสียงส่งท้ายก่อนที่ถึงวันเลือกตั้ง 20 ธ.ค. 63 โดยมีนายจตุพร พรหมพันธุ์ ประธานแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) ร่วมด้วย ท่ามกลางมวลชนและผู้สนับสนุนที่เข้าร่วมรับฟังการปราศรัยจำนวนหลายพันคน
นายบุญเลิศกล่าวว่า ในการเลือกตั้งครั้งนี้หวังได้รับการสนับสนุนและคะแนนเสียงให้ชนะการเลือกตั้งเพื่อสานต่องานพัฒนาต่างๆ ตามนโยบายที่ทำมาตลอดและต่อยอดขึ้นไปอีก พร้อมอยากวิงวอนขอความเป็นธรรมด้วยว่าตัวเองไม่เคยหักหลังพรรคเพื่อไทยอย่างที่ถูกกล่าวหา เห็นได้ชัดจากการถูกจับดำเนินคดีจดหมายไม่รับร่างรัฐธรรมนูญและขังคุกนาน 2 เดือนเมื่อปี 2559 แต่ไม่เคยปริปากซัดทอดใครเลย ทั้งๆ ที่ทำตามความต้องการของพรรค
ขณะเดียวกัน ยืนยันว่าเคารพรักนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีอยู่เสมอ นับตั้งแต่ที่รู้จักใกล้ชิดมาตั้งแต่เด็กเพราะตัวเองเป็นเพื่อนกับน้องชายนายทักษิณ เช่นเดียวกับที่นับถือ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ที่พบเจอและคุ้นเคยกันมาตั้งแต่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ยังเด็ก ที่ผ่านมาทั้งตัวเองและคนในครอบครัวมีโอกาสทำงานการเมืองร่วมกับนายทักษิณและพรรคมาตลอดตั้งแต่เป็นพรรคไทยรักไทย อีกทั้งตัวเองยังหวังจะได้ทำงานร่วมกันอีกในอนาคต ซึ่งในการเลือกตั้งนายก อบจ.ครั้งนี้ หากแม้นายทักษิณบอกกับตนเพียงคำเดียวว่าขอไม่ให้ลงสมัครเพราะพรรคจะส่งคนอื่นลง ตนก็พร้อมที่จะทำตามทันที แต่เมื่อถึงตอนนี้ที่ลงสมัครแล้ว ตนก็ต้องทำอย่างเต็มที่และขอความยุติธรรมจากประชาชนด้วยการช่วยลงคะแนนเสียงให้ โดยไม่ว่าผลจะออกมาอย่างไรก็ยังเคารพรักนายทักษิณเช่นเดิม ซึ่งในช่วงท้ายของการปราศรัยนายบุญเลิศได้หลั่งน้ำตาระบายความอัดอั้นใจออกมาด้วย
ขณะที่นายจตุพรกล่าวว่า ยืนยันจุดยืนสนับสนุนนายบุญเลิศอย่างเต็มที่ เพราะยอมรับไม่ได้กับความอยุติธรรมที่พรรคเพื่อไทยเลือกคนอื่นเป็นตัวแทนลงสมัครนายก อบจ.เชียงใหม่ พร้อมกับกล่าวหาว่านายบุญเลิศหักหลังไปเข้ากับพรรคพลังประชารัฐซึ่งไม่เป็นความจริง เพราะที่จริงพรรคเลือกคนไว้แล้วตั้งแต่ที่นายบุญเลิศต้องติดคุกคดีไม่รับร่างรัฐธรรมนูญโดยที่ไม่เคยซัดทอดพรรคเลย จึงเป็นความเลวร้ายที่ยอมรับไม่ได้จริงๆ
นอกจากนี้ คนที่พรรคเลือกเป็นตัวแทนก็เป็นคนเชียงราย แต่กลับเลือกให้มาลงสมัครนายก อบจ.เชียงใหม่ ทำเหมือนเชียงใหม่ไม่มีคนดีมีฝีมือ และไม่คิดถึงหัวใจคนเชียงใหม่บ้างเลย ที่สำคัญ คนที่พรรคเลือกเป็นตัวแทนนั้นยังเป็นคนที่มีส่วนร่วมในการทำลายกระบวนการยุติธรรมในคดี “บอส กระทิงแดง” อีกด้วย ซึ่งคดีนี้เป็นคดีที่ย่ำยีหัวใจคนไทยมากที่สุดคดีหนึ่งในประวัติศาสตร์ จากการที่ผู้ต้องหารอดพ้นการติดคุกเพราะกระบวนการยุติธรรมถูกทำลาย แต่พรรคก็ยังเลือกคนที่มีส่วนร่วมทำลายมาเป็นตัวแทน เชื่อว่าเป็นสิ่งที่คนเชียงใหม่ยอมรับไม่ได้เหมือนกัน และต้องไม่เลือกคนอย่างนี้ พร้อมกันนี้ยืนยันว่าความสัมพันธ์ระหว่างตนกับนายทักษิณ และ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ยังเหมือนเดิม ไม่มีปัญหาอะไร ไม่ว่าผลการเลือกตั้งครั้งนี้จะเป็นอย่างไรก็ตาม
ด้านนายพิชัย เลิศพงศ์อดิศร หรือ ส.ว.ก๊อง ผู้สมัครนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงใหม่ หมายเลข 1 พร้อมผู้สมัครสมาชิกองค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงใหม่ ในนามพรรคเพื่อไทย จัดเวทีปราศรัยใหญ่ครั้งสุดท้ายเพื่อหาเสียงเช่นกันที่สนามฟุตบอลบริษัท สิงห์พัฒนาเชียงใหม่ จำกัด ถนนเชียงใหม่-หางดง ในตัวเมืองเชียงใหม่ โดยมีบุคคลสำคัญของพรรคเพื่อไทย เช่น นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ อดีตนายกรัฐมนตรี สามีของนางเยาวภา วงศ์สวัสดิ์ น้องสาวนายทักษิณ, ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง เป็นต้น ร่วมปราศรัยช่วยหาเสียงด้วย มีประชาชนผู้สนับสนุนเข้าร่วมจำนวนมาก
นายพิชัยบอกว่า จากการลงพื้นที่พบปะประชาชนทุกกลุ่มอย่างต่อเนื่องทำให้รู้และเข้าใจปัญหาของประชาชนทุกกลุ่มเป็นอย่างดี พบว่าสิ่งสำคัญที่สุดคือปัญหาเศรษฐกิจปากท้อง การค้าขายติดขัด หนี้สิน และราคาผลผลิตเกษตรตกต่ำ ทั้งนี้ พร้อมจะใช้ประสบการณ์ของตัวเอง รวมทั้งประสบการณ์และการสนับสนุนของพรรคแก้ไขปัญหาให้ได้ รวมทั้งมีระบบการบริหารสุจริตโปร่งใส จึงอยากขอโอกาสในการเลือกตั้งครั้งนี้
ส่วน ร.ต.อ.เฉลิมกล่าวว่า แม้นายพิชัยจะเป็นคนเชียงราย ไม่ใช่คนเชียงใหม่ แต่ก็รักเชียงใหม่ เพราะมาได้ภรรยาเป็นคนเชียงใหม่และสร้างครอบครัวอยู่เชียงใหม่ พร้อมทั้งสร้างประโยชน์ให้เชียงใหม่มากมายมานานหลายปีแล้ว ส่วนการที่พรรคเลือกให้เป็นตัวแทนเพราะคุณสมบัติดีพร้อม และเป็นไปตามมติพรรคที่เป็นประชาธิปไตย ไม่ใช่เลือกแต่พวกพ้อง
