เชียงราย/ท่าขี้เหล็ก - กระแสข่าวแพร่สะพัด ผลตรวจสาว 1G1 พากันหนีโควิดลอบข้ามแดนเข้าเชียงรายเป็นบวกเพิ่มอีกราย แต่ต้องรอตรวจซ้ำอีกรอบ ขณะที่ “ท่าขี้เหล็ก” เงียบเหงาทั้งเมือง
วันนี้ (1 ธ.ค.) สถานการณ์การระบาดของไวรัสโควิด-19 ทำให้ท่าขี้เหล็ก หัวเมืองชายแดนของสาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมาร์ (พม่า) ตรงข้าม อ.แม่สาย จ.เชียงราย เงียบเหงาทั้งเมือง โดยเฉพาะช่วงค่ำคืนตั้งแต่ 18.00 น.เป็นต้นไป แทบไม่มีผู้คนเดินทางออกจากบ้าน
ขณะที่ทางการท้องถิ่นของพม่าได้เข้มงวดเรื่องการรวมกลุ่มกันของผู้คนตามร้านค้าแผงลอยต่างๆ, กำชับให้สวมหน้ากากอนามัย, ปิดสถานบันเทิงต่างๆ ที่เป็นแหล่งกระจายโรคมาก่อนหน้านี้ จนส่งผลให้คนไทยจำนวนหนึ่งที่เคยทำงานอยู่ในสถานที่ต่างๆ ต้องอยู่แต่ในที่พักและพยายามจะเดินทางกลับประเทศไทย
ด้านสถานการณ์การพบผู้ติดเชื้อใน จ.เชียงราย ล่าสุดมีรายงานว่าอาจจะมีผู้ติดเชื้อเพิ่มอีกอย่างน้อย 1 ราย เป็นหนึ่งในหญิงสาวที่มีประวัติเคยทำงานอยู่กับหญิงสาวที่ จ.เชียงใหม่ และ จ.เชียงราย ที่พบติดเชื้อมาก่อนหน้านี้ซึ่งถูกเจ้าหน้าที่เข้าไปควบคุมตัวได้ขณะลักลอบเข้ามาทางช่องทางธรรมชาติชายแดนไทย-พม่า และหลังจากถูกนำเข้าสู่กระบวนการกักดูอาการในศูนย์กักดูอาการของฝ่ายปกครอง จ.เชียงราย (นอกศูนย์กักดูอาการ หรือ Local Quarantine) แพทย์ได้ทำการตรวจหาเชื้อพบผลเป็นบวก ส่วนคนอื่นๆ ที่พักอยู่ห้องเดียวกันยังไม่มีรายงานการตรวจ
ล่าสุดทางเจ้าหน้าที่สาธารณสุขได้นำหญิงสาวและเพื่อนที่มาด้วยกันออกจากศูนย์กักดูอาการของฝ่ายปกครอง โดยส่วนหนึ่งนำไปที่ดูแลใน อ.แม่ลาว และรอผลการตรวจรอบที่ 2 ต่อไป
นอกจากนี้ยังมีรายงานว่า คณะกรรมการโรคติดต่อฯ และสำนักงานสาธารณสุข จ.เชียงราย มีกำหนดจะแถลงข้อเท็จจริงเกี่ยวกับเรื่องนี้ในช่วงบ่ายวันวันนี้ หากผลการตรวจรอบที่ 2 ยังยืนยันผลเป็นบวกก็จะแสดงว่าเป็นผู้ติดเชื้อใหม่ และทำให้เป็นผู้ป่วยรายที่ 3 ของ จ.เชียงราย ในรอบสัปดาห์นี้และเป็นรายที่ 12 ของจังหวัดนับตั้งแต่พบการระบาดของไวรัสโควิด-19
ด้านสถานศึกษาหลายแห่งใน อ.แม่สาย ได้ปิดการเรียนการสอนเพื่อลดความเสี่ยงและทำความสะอาดบริเวณสถานที่ด้วยน้ำยาฆ่าเชื้อ โดยที่โรงเรียนบ้านเวียงพาน ต.เวียงพางคำ ซึ่งมีนักเรียนจากฝั่งท่าขี้เหล็กตกค้างอยู่กับครอบครัวในฝั่งไทยมาตั้งแต่ต้นอยู่ด้วย ทางโรงเรียนได้ประกาศหยุดเรียนด้วยเหตุพิเศษตั้งแต่วันที่ 1-6 ธ.ค.นี้ เช่นเดียวกับอีกหลายโรงเรียนที่ทะยอยปิดตามความเหมาะสม
นายปุณณวิช เทพสุรินทร์ ผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านเวียงพาน กล่าวว่า จากการติดตามข่าวการแพร่ระบาดในประเทศเพื่อนบ้านนั้น เมื่อพิจารณาถึงความรุนแรงพบว่ามีมากขึ้นตามลำดับจึงทำการปิดเรียนแต่ยังคงให้ครูอาจารย์และบุคลากรปฏิบัติหน้าที่อยู่ เพื่อจัดเตรียมสถานที่และทำความสะอาดทั้งหมด โดยมีการประสานไปยังเทศบาลฯ เพื่อขอให้สนับสนุนการฉีดพ่นน้ำยาฆ่าเชื้อด้วยเพื่อให้นักเรียนและผู้ปกครองมั่นใจในความปลอดภัย