“พาณิชย์” เผยจับกุมผู้กระทำความผิดกรณีหน้ากากอนามัย และเจลแอลกอฮอล์ได้อีก 8 ราย เจอทั้งในเฟซบุ๊ก ไลน์ ร้านค้าทั่วไป ทำยอดรวมเพิ่มขึ้นเป็น 382 ราย
นายสุพพัต อ่องแสงคุณ โฆษกกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยถึงผลการปฏิบัติการกรณีสินค้าอุปโภคบริโภคและเวชภัณฑ์ของกระทรวงพาณิชย์ว่า วันที่ 22 เม.ย. 2563 ที่ผ่านมากระทรวงพาณิชย์ได้ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการจับกุมผู้กระทำความผิดตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ พ.ศ. 2542 สามารถจับกุมผู้กระทำความผิดกรณีหน้ากากอนามัย เจลล้างมือ และแอลกอฮอล์ เพิ่มอีก 8 ราย แยกเป็นในกรุงเทพฯ 2 ราย และต่างจังหวัด 6 ราย ทำให้ยอดรวมการจับกุมผู้กระทำความผิดเพิ่มขึ้นเป็น 382 ราย แยกเป็นกรุงเทพฯ 172 ราย และต่างจังหวัด 210 ราย
สำหรับการจับกุมในกรุงเทพฯ 2 ราย เป็นการล่อซื้อและจับกุมผู้จำหน่ายหน้ากากอนามัยผ่านทางเฟซบุ๊ก 1 ราย พบจำหน่ายหน้ากากอนามัย บรรจุกล่องละ 50 ชิ้น ในราคากล่องละ 575 บาท เฉลี่ยชิ้นละ 11.50 บาท จำนวน 119 กล่อง รวม 5,950 ชิ้น และร้านค้าจำหน่ายหน้ากากอนามัยผ่านทางแอปพลิเคชันไลน์ 1 ราย จำหน่ายหน้ากากอนามัยบรรจุกล่องละ 50 ชิ้น ในราคากล่องละ 700 บาท เฉลี่ยชิ้นละ 14 บาท รวม 30,000 ชิ้น แจ้งข้อหากระทำความผิดจำหน่ายหน้ากากอนามัยสูงกว่าราคาที่กำหนด และราคาสูงเกินสมควร ตามมาตรา 25 (1) และมาตรา 29
ส่วนในต่างจังหวัด 6 ราย แยกเป็นการกระทำความผิด ดังนี้ กระทำความผิดตามมาตรา 28 ข้อหาจำหน่ายเจลแอลกอฮอล์โดยไม่ปิดป้ายแสดงราคาขาย จำนวน 1 ราย เป็นร้านค้าแผงลอย ในจังหวัดนครสวรรค์ และกระทำความผิดตามมาตรา 29 ข้อหาจำหน่ายหน้ากากอนามัยในราคาสูงเกินสมควร โดยเจ้าหน้าที่ทำการล่อซื้อและจับกุมผู้จำหน่ายหน้ากากอนามัยผ่านทางเฟซบุ๊ก จำนวน 4 ราย ได้แก่ จังหวัดชลบุรี 1 ราย พบจำหน่ายหน้ากากอนามัย บรรจุกล่องละ 50 ชิ้น ในราคากล่องละ 590 บาท เฉลี่ยชิ้นละ 11.80 บาท จังหวัดนครสวรรค์ 1 ราย พบจำหน่ายหน้ากากอนามัยทางการแพทย์ บรรจุกล่องละ 50 ชิ้น ในราคากล่องละ 650 บาท เฉลี่ยชิ้นละ 13 บาท และจังหวัดพิษณุโลก 2 ราย พบจำหน่ายหน้ากากอนามัย บรรจุกล่องละ 50 ชิ้น ในราคากล่องละ 680-690 บาท เฉลี่ยชิ้นละ 13.60-13.80 บาท รวม 150 ชิ้น และเจ้าหน้าที่ยังได้ทำการล่อซื้อและจับกุมผู้จำหน่ายหน้ากากอนามัยเป็นร้านค้าทั่วไปในจังหวัดพิษณุโลกอีก 1 ราย พร้อมของกลางเป็นหน้ากากอนามัยบรรจุกล่องละ 50 ชิ้น
ทางด้านสถานการณ์การจำหน่ายไข่ไก่ ในภาพรวมความต้องการซื้อไข่ไก่ลดลงจนเข้าสู่ภาวะปกติ ประชาชนซื้อเท่าที่พอเพียงต่อการบริโภค อีกทั้งมีปริมาณผลผลิตไข่ไก่เข้าสู่ตลาดเพิ่มขึ้น สามารถสั่งซื้อและส่งสินค้าได้ตามปกติ ทำให้ไม่มีปัญหาด้านราคาและการขาดแคลน แต่กระทรวงพาณิชย์ได้ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดต่อไป และพบผู้กระทำความผิดกรณีไม่ปิดป้ายแสดงราคาขาย ตามมาตรา 28 เพิ่ม 1 ราย ในจังหวัดเพชรบูรณ์ ส่วนการขายแพงไม่มีการจับกุมเพิ่ม ทำให้ยอดรวมการจับกุมเพิ่มเป็น 28 ราย
อย่างไรก็ตาม กระทรวงพาณิชย์ขอย้ำเตือนผู้ที่มีพฤติกรรมกักตุน และขายสินค้าแพงเกินจริง โดยเฉพาะสินค้าหน้ากากอนามัย เจลล้างมือ และแอลกอฮอล์ รวมถึงสินค้าที่จำเป็นอื่นๆ หากพบการกระทำความผิด กระทรวงพาณิชย์จะดำเนินคดีตามกฎหมายขั้นเด็ดขาด เพราะถือเป็นการเอารัดเอาเปรียบประชาชน โดยประชาชนที่พบเห็นการกักตุนสินค้าและขายสินค้าแพงเกินจริง สามารถร้องเรียนได้ที่สายด่วนกรมการค้าภายใน 1569 และในต่างจังหวัดร้องเรียนได้ที่สำนักงานพาณิชย์จังหวัด หรือศูนย์ดำรงธรรมจังหวัด