xs
xsm
sm
md
lg

“พาณิชย์” จับเพิ่ม 3 รายขายหน้ากากอนามัยแพง ทำยอดรวมเพิ่มขึ้นเป็น 366 ราย

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



“พาณิชย์” จับร้านขายยา เฟซบุ๊ก และไลน์ จำหน่ายหน้ากากอนามัยแพงเกินจริงได้อีก 3 ราย ส่งผลให้มียอดการจับกุมรวมเพิ่มขึ้นเป็น 366 ราย

นายสุพพัต อ่องแสงคุณ โฆษกกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยถึงผลการปฏิบัติการกรณีสินค้าอุปโภคบริโภคและเวชภัณฑ์ของกระทรวงพาณิชย์ว่า วันที่ 19 เม.ย. 2563 ที่ผ่านมากระทรวงพาณิชย์ได้ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการจับกุมผู้กระทำความผิดตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ พ.ศ. 2542 โดยสามารถจับกุมผู้กระทำความผิดกรณีหน้ากากอนามัยเพิ่ม 3 ราย อยู่ในกรุงเทพฯ ทั้งหมด โดยแยกเป็นร้านขายยา 1 ราย จำหน่ายหน้ากากอนามัยแบบธรรมดา บรรจุแพกละ 10 ชิ้น ในราคาแพกละ 200 บาท เฉลี่ยชิ้นละ 20 บาท จับกุมร้านค้าจำหน่ายหน้ากากอนามัยผ่านทางเฟซบุ๊ก 1 ราย พบจำหน่ายหน้ากากอนามัยแบบธรรมดา บรรจุกล่องละ 50 ชิ้น ในราคากล่องละ 500 บาท เฉลี่ยชิ้นละ 10 บาท โดยทั้ง 2 รายกระทำความผิดข้อหาจำหน่ายหน้ากากอนามัยสูงเกินสมควร ตามมาตรา 29

ส่วนอีก 1 ราย เจ้าหน้าที่ได้ทำการล่อซื้อและจับกุมร้านค้าจำหน่ายหน้ากากอนามัยผ่านแอปพลิเคชันไลน์ โดยตรวจค้นพบของกลางเป็นหน้ากากอนามัยจำนวน 479,000 ชิ้น มีการจำหน่ายหน้ากากอนามัยในราคาชิ้นละ 11.50 บาท แจ้งข้อหากระทำความผิดเป็นผู้ผลิตไม่แจ้งชื่อ และต้นทุนราคาซื้อ ราคาจำหน่าย ปริมาณการผลิตคงเหลือ ต่อ กกร. ตามมาตรา 25 (5) และมาตรา 26 รวมถึงการจำหน่ายหน้ากากอนามัยสูงเกินสมควร ตามมาตรา 29 อีกด้วย

สำหรับในต่างจังหวัด ไม่มีการจับกุมเพิ่มเติม ทำให้สถิติการจับกุมผู้กระทำความผิดกรณีหน้ากากอนามัย เจลล้างมือ และแอลกอฮอล์ มียอดรวมเพิ่มขึ้นเป็น 366 ราย แยกเป็นกรุงเทพฯ 168 ราย และต่างจังหวัด 198 ราย

ทั้งนี้ โทษที่ผู้กระทำความผิดตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ พ.ศ. 2542 ข้อหาขายเกินราคาควบคุม มาตรา 25 (1) มีโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี ปรับไม่เกิน 1 แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ข้อหาไม่แจ้งต้นทุนราคาซื้อ ราคาจำหน่าย ปริมาณการผลิต ปริมาณคงเหลือ ตามมาตรา 25 (5) มีโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับไม่เกิน 20,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และปรับไม่เกินวันละ 2,000 บาท ตลอดเวลาที่ฝ่าฝืนหรือจนกว่าจะแจ้ง มาตรา 26 ข้อหาเป็นผู้ผลิตไม่แจ้งชื่อ ราคาซื้อ ราคาจำหน่าย มาตรา 28 ข้อหาไม่ปิดป้ายแสดงราคาขาย มีอัตราโทษปรับไม่เกิน 1 หมื่นบาท และมาตรา 29 ข้อหาขายแพงเกินสมควรมีอัตราโทษจำคุกไม่เกิน 7 ปี ปรับไม่เกิน 1.4 แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

อย่างไรก็ตาม กระทรวงพาณิชย์ขอเตือนถึงผู้ค้าอย่ากักตุนสินค้า หรือค้ากำไรเกินควร ไม่ว่าจะเป็นสินค้าหน้ากากอนามัย เจลล้างมือ และแอลกอฮอล์ รวมถึงสินค้าจำเป็นอื่นๆ เพราะหากตรวจสอบพบว่ามีการเอารัดเอาเปรียบประชาชน กระทรวงพาณิชย์จะดำเนินการตามกฎหมายขั้นเด็ดขาด โดยประชาชนที่พบเห็นการกักตุนหรือค้ากำไรเกินควร สามารถร้องเรียนได้ที่สายด่วนกรมการค้าภายใน 1569 และในต่างจังหวัดร้องเรียนได้ที่สำนักงานพาณิชย์จังหวัด หรือศูนย์ดำรงธรรมจังหวัด


กำลังโหลดความคิดเห็น