เชียงราย - อดีตเครือข่ายพรรคอนาคตใหม่-คณะราษฎรเปิดเวทีเชียงรายอีก นักเรียน นักศึกษา เสื้อแดง นปช.ร่วมฟัง “ตั้ง อาชีวะ” โฟนอินร่ายยาวกระทบสถาบัน โชว์เส้นทางหนีเย้ยรัฐบาลไทย อวดสัญชาติใหม่
นายกฤตตฤณ สุขบริบูรณ์ นายผดุงเกียรติ ก๋าวิต๊ะ นายสราวุทธิ์ กุลมธุรพจน์ ฯลฯ ที่ส่วนใหญ่เคยร่วมงานกับพรรคอนาคตใหม่ ร่วมกับเครือข่ายคณะราษฎร 2563 ในเชียงราย ได้รวมตัวชุมนุมปราศรัยอีกครั้ง ณ ลานรำวงย้อนยุค สวนตุงและโคมนครเชียงราย เมื่อค่ำที่ผ่านมา (26 ต.ค.)
โดยมี นายสิรวิชญ์ เสรีธวัฒน์ หรือจ่านิว ร่วมเวที และเปิดวิดีโอของนายเอกภพ เหลือรา หรือตั้ง อาชีวะ ที่หลบหนีคดีตามมาตรา 112 ไปอยู่นิวซีแลนด์ ขณะที่มวลชนส่วนใหญ่เป็นนักเรียน นักศึกษา และกลุ่มคนเสื้อแดงจาก นปช.เชียงราย 52 อีกหลายคนเข้าร่วม รวมประมาณ 150 คน
ซึ่งก่อนที่จะมีการเปิดวิดีโอของ นายเอกภพ หรือตั้ง อาชีวะ แกนนำหลายคนได้ผลัดกันปราศรัยมีเนื้อหาคล้ายที่เคยปราศรัยกันมาคือโจมตีรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ว่าบริหารประเทศทำให้เกิดความเสียหายโดยเฉพาะด้านเศรษฐกิจ และประเทศไทยยังคงเป็นเผด็จการรวมทั้งกล่าวหาคนที่มีความเห็นแตกต่างจากตนว่าเป็นพวกสลิ่มหรือคนเสื้อเหลือง เกิดความเหลื่อมล้ำในสังคม
นอกจากนี้ กล่าวถึงการปิดกั้นข้อมูลข่าวสารและใช้บางสื่อเป็นกระบอกเสียง จึงเหมือนประเทศเกาหลีเหนือเข้าทุกขณะ ส่วนระบบการศึกษาก็ตกต่ำเพราะคนมีอำนาจไม่อยากให้คนฉลาดมาก การพัฒนาด้านอื่นๆ เช่น รถไฟความเร็วสูงที่ลงทุนมากกว่าครั้งก่อน เป็นต้น
จากนั้นมีการฉายวิดีโอนายเอกภพปราศรัยที่เวทีราชมังคลากีฬาสถาน กรุงเทพฯ จนเกิดขบวนการตามล่าหรือล่าแม่มด และมีการชุมนุมของ กปปส.เพื่อปลุกกระแส เมื่อไม่มีพรรคเพื่อไทยและคนเสื้อแดงช่วยเหลือจึงหลบหนีด้วยการปลอมตัวออกไปยังบ่อนการพนันที่เมืองไพลิน ประเทศกัมพูชา แต่ก็ถูกคุกคามอีกจนต้องหลบหนีไปนิวซีแลนด์ และทางอัยการก็ได้ขอให้ส่งตัวผู้ร้ายข้ามแดนแต่สุดท้ายก็ไม่เป็นผล ปัจจุบันตนถูกถอนพาสปอร์ตไทยหมดแต่ก็ได้สัญชาตินิวซีแลนด์เต็มตัว
นายเอกภพ หรือตั้ง อาชีวะ ได้กล่าวโฟนอินสดจากนิวซีแลนด์มายังเวทีที่ จ.เชียงราย ว่าเป็นเกียรติมากที่ได้โฟนอินมายังเวทีเชียงราย และเห็นว่าคนรุ่นใหม่เข้าถึงข้อมูลได้ง่ายกว่า ซึ่งในอดีตเราใช้หนังสือเป็นสื่อหลัก และกระทรวงศึกษาธิการก็ใช้เป็นเครื่องมือเพื่อให้เด็กเป็นเหยื่อตกผลึกในความคิดของเขา แต่ปัจจุบันคนเข้าถึงช่องทางอื่นและมีการใช้ถ้อยคำที่ตรงไปตรงมายิ่งกว่าสมัยของตนเสียอีก
แต่ยุคนี้ก็ถือว่ามีการปิดกั้นและประเทศไทยเป็นเผด็จการเต็มรูปแบบ ขณะที่นิวซีแลนด์ของตนนั้นก็มีสถาบันพระมหากษัตริย์แต่อยู่ภายใต้รัฐธรรมนูญ ภาษีอากรที่เก็บได้จะนำไปให้กระทรวงสาธารณสุขและศึกษาก่อน หากไทยเป็นรัฐสวัสดิการจะเจริญยิ่งกว่านิวซีแลนด์ สิงคโปร์ ฯลฯ ได้ แต่เขาก็ไม่ทำเพราะจะทำให้เขาหมดอำนาจได้ เมื่อเขากลัวจึงทำให้มีการถ่วงเวลาและทำให้การเปลี่ยนแปลงทำได้ช้า
รายงานข่าวแจ้งว่า นายเอกภพยังได้พูดจากระทบไปยังสถาบันเบื้องสูงในลักษณะให้เกิดความเข้าใจกันเองในหมู่คนฟังหลายครั้ง และฉีกหมายจับที่ได้รับจากทางราชการไทยในคดีดังกล่าว ก่อนจะระบุว่าปัจจุบันตนได้ชีวิตใหม่หลังจากลี้ภัยและได้สัญชาตินิวซีแลนด์ ช่วงท้ายยังพูดจากระทบกระเทียบไปถึงสถาบันเบื้องสูงเช่นเดิมก่อนหยุดการโฟนอิน
จากนั้นได้มีบุคคลอื่นๆ ผลัดกันปราศรัยหลายคน เช่น กฤตตฤณ นายสิรวิชญ์ ฯลฯ โดยมีเจ้าหน้าที่ตำรวจและสาธารณสุขดูแลและตรวจคัดกรองผู้เข้าร่วมชุมนุมเป็นไปด้วยความเรียบร้อย