เจ้าของหอพักออกโรงโต้สาวโรงงานโพสต์ข้อความถูกเรียกค่าปรับโหด ชี้ก่อนเช่าให้อ่านรายละเอียดชัดๆ

ศูนย์ข่าวศรีราชา - เจ้าของหอพักใน จ.ชลบุรี ออกโรงโต้หลังเกิดกระแสดรามาเหตุสาวโรงงานโพสต์ข้อความถูกเรียกเก็บค่าปรับโหด  5,000 บาท หลังแจ้งขอย้ายออกจนเงินมัดจำไม่พอให้หัก ทำโลกออนไลน์วิจารณ์ยับ ด้านเจ้าของหอวอนเห็นใจชี้ก่อนเช่าให้อ่านรายละเอียดให้ชัด หากทำห้องเสียหายต้องเสียค่าปรับ  

จากกรณีที่มีผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อ wilayluck Pongbanrai Mook ได้โพสต์ภาพพร้อมข้อความระบุว่า ถูกเรียกค่าปรับจากเจ้าของหอพักแห่งหนึ่งใน อ.พานทอง จ.ชลบุรี เป็นเงินจำนวน 5,640 บาท หลังแจ้งย้ายออก ซึ่งเจ้าของหอพักได้ส่งใบแจ้งหนี้เพื่อเรียกค่าเสียหายที่เกิดกับผ้าม่าน ที่นอนและเฟอร์นิเจอร์ต่างๆ พร้อมอ้างว่าทั้งหมดเป็นของใหม่ หากตนเองย้ายออกทางหอพักจะต้องทำห้องให้เหมือนกับที่ไม่เคยมีคนอยู่ ซึ่งแม้ตนเองจะขอลดราคาค่าปรับแต่เจ้าของหอพักกลับไม่ลดให้ และยังยืนยันว่าหากตนเองไม่ยอมจ่ายค่าปรับจะไม่ให้ย้ายออก

กระทั่งตนเองต้องยื่นเรื่องร้องเรียนไปยัง สคบ. พร้อมนำรูปถ่ายภายในห้องพัก รวมทั้งใบแจ้งหนี้ต่างๆ เผยแพร่ในโลกออนไลน์เพื่อเตือนใจผู้ที่กำลังมองหาหอพัก จนทำให้มีผู้เข้ามาแสดงความคิดเห็นเป็นจำนวนมากนั้น




วันนี้ (26 ต.ค.) ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปนิคมอุตสาหกรรมอมตะซิตี้ ซึ่งตั้งอยู่ใน ต.พานทอง อ.พานทอง จ.ชลบุรี เพื่อพบกับ น.ส.วิไลลักษณ์ พงษ์บ้านไร่ อายุ 26 ปี พนักงานบริษัทแห่งหนึ่งที่เป็นผู้โพสต์เรื่องราวดังกล่าว พร้อมบอกว่าตนเองได้แจ้งเรื่องการย้ายออกไปยังเจ้าของหอพักที่เกิดเหตุหลังเข้าพักอาศัยมานานกว่า 1 ปี เนื่องจากต้องการย้ายไปอยู่หอพักแห่งใหม่ซึ่งอยู่ใกล้ที่ทำงาน

โดยหลังแจ้งย้ายออกเจ้าของหอพักได้ส่งพนักงานเข้าสำรวจห้องพัก ซึ่งในครั้งแรกตนเองเห็นว่าที่นอนมีคราบประจำเดือนที่เลอะและซักไม่ออกจึงยินดีที่จะเสียค่าปรับ แต่สุดท้ายเจ้าของหอกลับมีการคิดค่าปรับเพิ่มในหลายจุดจนทำให้เงินที่วางมัดจำไว้จำนวน 6,000 บาท ไม่พอจ่าย จึงได้พยายามขอต่อรอง แต่เจ้าของหอพักไม่ยินยอมและไม่อนุญาตให้ตนเองขนของออกจากห้องจนกว่าจะมีการจ่ายค่าปรับตามที่ระบุ

กระทั่งตนเองต้องนำเงินไปจ่ายค่าปรับตามจำนวน และได้นำเรื่องราวโพสต์เตือนภัยผู้คนในโลกออนไลน์ โดยไม่คิดว่าจะเกิดการแชร์ต่อเป็นจำนวนมาก


จากการสอบถามไปยัง น.ส.อรวรรณ ว่องไวชล อายุ 55 ปี เจ้าของหอพักที่ถูกอ้างถึงเปิดเผยว่า การที่ผู้เช่าโพสต์ข้อความดังกล่าวได้ก่อให้เกิดความเสียหายต่อหอพักเป็นอย่างมาก ซึ่งก่อนหน้าที่จะทำสัญญาเข้าพักทางหอได้ให้ผู้เช่าอ่านสัญญาต่างๆ ให้ถี่ถ้วน ประกอบกับห้องที่มีการเอ่ยถึงเป็นห้องใหม่และไม่เคยมีใครเข้าอาศัย ซึ่งผู้เช่าก็ทราบตั้งแต่แรกว่า หากเกิดความเสียหายขึ้นในห้องพักผู้เช่าจะต้องชดใช้ และได้ให้ผู้เช่าวางเงินมัดจำ จำนวน 6,000 บาท

“ในเดือนสุดท้ายที่ผู้เช่าจะย้ายออกทางหอพักก็ไม่ได้ให้จ่ายค่าเช่าจำนวน 2,900 บาท รวมถึงค่าน้ำค่าไฟก็ได้หักจากค่ามัดจำ แต่ผู้เช่าจะต้องจ่ายค่าส่วนต่างที่ทำให้ห้องและเฟอร์นิเจอร์ภายในห้องได้รับความเสียหายเป็นเงินจำนวน 5,000 บาทเท่านั้น ซึ่งเมื่อหักจากค่ามัดจำแล้วผู้เช่าจะต้องจ่ายเงินเพิ่มอีกจำนวน 3,400 บาท ซึ่งตอนจ่ายค่าปรับก็ไม่เห็นว่าผู้เช่าจะมีท่าทีไม่พอใจอะไร กระทั่งมาเห็นว่ามีการโพสต์ข้อควาในโลกออนไลน์ จึงทำให้รู้สึกเครียดมาก”

ทั้งนี้ เจ้าของหอพักยังบอกอีกว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทำให้หอพักได้รับความเสียหาย จึงอยากให้ผู้คนในโลกออนไลน์ฟังข้อมูลจากทั้ง 2 ฝ่าย ก่อนจะวิพากษ์วิจารณ์