ชายแดนแม่สาย - จังหวัดเชียงรายระดมเจ้าหน้าที่ซ้อมใหญ่เตรียมพร้อมรับโควิดระบาดระลอก 2 ให้ได้เต็ม 100% หลังพม่ายังพบผู้ป่วยเพิ่มต่อเนื่อง
วันนี้ (26 ต.ค.) นายกฤชเพชร เพชระบูรณิน รองผู้ว่าราชการ จ.เชียงราย ได้เป็นประธานเปิดโครงการฝึกซ้อมแผนรับสถานการณ์กรณีการแพร่ระบาดโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ในพื้นที่ชายแดนชียงรายระลอกที่ 2 ที่หอประชุมที่ว่าการ อ.แม่สาย จ.เชียงราย
นายบรรเจิด ภูสมศรี รองปลัดองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) เชียงราย นำผู้เข้าร่วมเป็นคณะกรรมการโรคติดต่อ จ.เชียงราย คณะทำงานศูนย์ปฏิบัติการควบคุมโรค (ศปก.) จ.เชียงราย และ ศปก.อ.แม่สาย นอกจากนี้ยังมีกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน และอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.) ทั้งหมดประมาณ 200 คนเข้าร่วมฝึกซ้อม ทั้งด้านการรับการสั่งการ การอำนวยการ การฝึกตามสถานการณ์พิเศษ และขั้นตอนต่างๆ เพื่อให้แต่ละหน่วยงานได้ทำงานร่วมกันอย่างมีประสิทธิภาพและเป็นไปตามขั้นตอน
จากนั้นมีการจัดสรรและแบ่งมอบหน้าที่รับผิดชอบรวมทั้งจัดระบบร้องขอรับการสนับสนุนเพิ่มเติม ซึ่งผู้เข้าร่วมทั้งหมดจะมีการสรุปผลการประชุมเพื่อทบทวนหลักการปฏิบัติโดยเฉพาะกรณีรองรับสถานการณ์ไวรัสโควิด-19 ในระลอกที่ 2 ที่อาจจะมีขึ้นในอนาคต
นายบรรเจิดกล่าวว่า โควิดพม่าเกิดการระบาดระลอกที่ 2 ตั้งแต่วันที่ 16 ส.ค.เป็นต้นมา ส่วนใหญ่อยู่ในเมืองชิดตเว รัฐยะไข่-ย่างกุ้ง ที่เป็นพื้นที่วิกฤตทำให้มีจำนวนผู้ติดเชื้อสะสมเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ด้วยเหตุนี้ประเทศไทยจึงมีการจัดตั้งศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดต่อดังกล่าว
กรณีของ จ.เชียงรายก็พบว่ามีดินแดนติดต่อกับประเทศพม่า ซึ่งที่ผ่านมาพบมีคนต่างด้าวลักลอบเดินทางเข้ามาเป็นจำนวนมากทำให้เกิดความเสี่ยง ดังนั้นจึงมีความจำเป็นต้องควบคุมดูแลไม่ให้มีการนำเชื้อเข้ามาระบาดทาง จ.เชียงราย จึงได้มีการจัดฝึกอบรมเจ้าหน้าที่ส่วนที่เกี่ยวข้องให้พร้อมหากเกิดการระบาดระลอกสองขึ้นมา
ทั้งนี้ จ.เชียงรายมีอาณาเขตติดต่อกับพม่าตั้งแต่ อ.แม่ฟ้าหลวง อ.แม่สาย และ อ.เชียงแสน รวมระยะทางประมาณ 153 กิโลเมตร พื้นที่พรมแดนส่วนใหญ่เป็นป่าเขา ลำน้ำสายและลำน้ำรวกก่อนไหลลงสู่แม่น้ำโขง ซึ่งที่ผ่านมากองกำลังผาเมืองได้รับผิดชอบดูแลการลักลอบเข้ามาตามช่องทางธรรมชาติต่างๆ มีการติดตั้งรั้วลวดหนาม ไฟส่องสว่าง โดรนบินลาดตระเวน วางกำลังเฝ้าตรวจร่วมกับตำรวจและฝ่ายปกครองตั้งจุดตรวจจุดสกัด ฯลฯ ตลอดแนว
ขณะที่การเชื่อมต่อกับประเทศพม่าเปิดเพียงช่องทางเดียว คือ ด่านพรมแดนสะพานข้ามลำน้ำสายแห่งที่ 2 เพื่อการขนสินค้าระหว่าง อ.แม่สาย กับ จ.ท่าขี้เหล็ก และกำหนดมาตรการเปลี่ยนถ่ายคนขับ รวมทั้งตรวจคัดกรองผู้ที่ทำหน้าที่บริเวณพรมแดนทั้งชาวไทยและพม่าอย่างเข้มงวด