ท่าขี้เหล็ก - ค้าชายแดนผ่านแม่สาย-ท่าขี้เหล็กกลางโควิดระบาดป่วนต่อ..เวทีหารือไทย-พม่า ต่างฝ่ายอ้างเสนอหน่วยเหนือก่อน ขณะที่ทางการท้องถิ่นพม่ายื่นข้อเสนอกลับรวดเดียว 8 ข้อ
วันนี้ (28 ก.ย.) พ.อ.ชาตรี สงวนธรรม ผบ.ฉก.ม.2 กองกำลังผาเมือง ประธานทีบีซีฝ่ายไทย พร้อมด้วยนายประสงค์ หล้าอ่อน นายอำเภอแม่สาย และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องได้เดินทางเข้าประชุม นายอูมิ้น ไหน่ ผู้ว่าการ จ.ท่าขี้เหล็ก พ.ท.เปี้ยโส่งอ่อง ผบ.กองพันเคลื่อนที่เร็วที่ 293 ในฐานะประธานทีบีซีฝ่ายพม่า ที่ห้องประชุมโรงแรมวันจีวัน โฮลเต็ล จ.ท่าขี้เหล็ก ประเทศพม่า ตรงข้าม อ.แม่สาย จ.เชียงราย
เพื่อแก้ไขปัญหากรณี จ.ท่าขี้เหล็กได้ใช้มาตรการจำกัดรถสินค้าผ่านด่านพรมแดนไทย-พม่า สะพานมิตรภาพข้ามลำน้ำสายแห่งที่ 2 ระหว่าง อ.แม่สาย กับ จ.ท่าขี้เหล็ก ให้เหลือเพียงวันละ 6 คัน ตามมาตรการป้องกันไวรัสโควิด-19 จากเดิมที่มีการขนวันละกว่า 400-500 เที่ยว
เบื้องต้นมีรายงานว่าฝ่ายไทยเสนอขอให้เพิ่มจำนวนรถที่ใช้ขนส่งสินค้า หลังจากนายประจญ ปรัชญ์สกุล ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย-ประธานคณะกรรมการโรคติดต่อฯ เคยมีคำสั่งที่ 22 เมื่อ 17 ก.ย. กำหนดรถที่จะขนส่งสินค้าผ่านพรมแดนไทย-พม่า ได้ 168 คันโดยไม่ได้จำกัดว่าจะเป็นรถของสัญชาติใด และให้มีการเปลี่ยนคนขับบริเวณด่านพรมแดนโดยให้คนไทยหรือชาวพม่าที่อาศัยอยู่ที่ อ.แม่สาย เป็นคนขับรถเข้ามารับสินค้าตามโกดังต่างๆ ใน อ.แม่สาย
อย่างไรก็ตาม ทางท้องถิ่น จ.ท่าขี้เหล็ก แจ้งว่า จะนำข้อเสนอดังกล่าวไปแจ้งต่อรัฐบาลรัฐฉานเพื่อให้พิจารณา โดยยังไม่รับปากจะดำเนินการตามข้อเสนอหรือไม่ พร้อมกับแจ้งข้อเสนอต่อทาง จ.เชียงราย จำนวน 8 ข้อ คือ
1. การใช้รถขนสินค้าผ่านแดนทั้งที่ติดป้ายทะเบียนไทยและพม่าต้องอยู่ในจำนวนที่เท่าเทียมกัน 2. ขอให้ตรวจสอบการจัดเก็บค่าธรรมเนียมรถบรรทุกสินค้าคันละ 40,000 บาท ว่ามีระเบียบกฎหมายใดรองรับ 3. กรณีมีรถบรรทุกสินค้าป้ายทะเบียนไทยตกค้างในฝั่งพม่าแล้วไม่สามารถมาต่อทะเบียนได้ทัน ขอให้งดเว้นการเก็บค่าธรรมเนียมทะเบียนรถชั่วคราว
4. ขอให้รถป้ายทะเบียนไทยที่จะข้ามไปยัง จ.ท่าขี้เหล็ก ได้ตรวจสภาพทุกคัน 5. คนขับรถจากฝั่งไทยที่จะนอนค้างใน จ.ท่าขี้เหล็ก ต้องเสียค่าปรับรายคืน 6. ขอให้ลดภาษีหรือค่าธรรมเนียมสินค้าประเภทผัก เนื้อ หมู ปลา ฯลฯ จากเดิมที่เคยขนผ่านสะพานข้ามลำน้ำสายแห่งที่ 1 ก่อนวิกฤตไวรัสโควิด-19 วันละเพียง 2,000 บาทต่อตัน แต่เมื่อไปข้ามสะพานข้ามลำน้ำสายแห่งที่ 2 เพิ่มเป็น 4,000 บาทลงเหลือเท่าเดิม 7. ให้คนขับทั้งสองฝ่ายเปลี่ยนคนขับตรงด่านพรมแดนเหมือนเดิม และ 8. หากจะมีมาตรการใดๆ เพิ่มเติมขอให้ทั้งสองฝ่ายได้มีการเจรจาหารือกันก่อนดำเนินการ
อย่างไรก็ตาม ทางฝ่ายไทยแจ้งว่าจะนำข้อเสนอดังกล่าวแจ้งต่อผู้ว่าราชการ จ.เชียงราย เพื่อพิจารณาดำเนินการต่อไปก่อนที่จะเลิกการประชุม ส่งผลทำให้การประชุมหารือไม่ได้ข้อยุติและการขนส่งสินค้ายังคงใช้วิธีการและจำนวนที่ทางการพม่ากำหนดฝ่ายละ 6 คันต่อวัน ทำให้มีรถบรรทุกสินค้ารอคิวขนสินค้าไป-กลับจำนวนมาก
ขณะที่ตั้งแต่เดือน ต.ค. 2562-ส.ค. 2563 ไทยมีการส่งออกสินค้าไปยัง จ.ท่าขี้เหล็ก ประเทศพม่า รวม 12,244,019,935.60 บาท แยกเป็นการส่งออก 10,803,646,550.06 บาท และนำเข้า 1,440,373,385.54 บาท โดยเฉพาะน้ำมันเชื้อเพลิงและน้ำมันหล่อลื่น มีการส่งออกมากเป็นอันดับ 1 ถึง 114,674,366.18 กิโลกรัม รวมมูลค่า 2,321,141,738.28 บาท
แต่หลังจากมีการลดจำนวนรถบรรทุกสินค้าลงเหลือวันละเพียง 6 คันทำให้มูลค่าการค้าลดลงวันละกว่า 40-50 ล้านบาท และที่ส่งออกไปได้เหลือเพียงวันละ 1-2 ล้านบาท ยกเว้นวันที่ 24 ก.ย.ที่ผ่านมาที่มีการส่งออกไปได้มูลค่าประมาณ 33 ล้านบาท เพราะหอการค้า จ.เชียงรายได้ขอความร่วมมือให้มีการผลักดันรถบรรทุกน้ำมันออกเต็มอัตรา