ท่าขี้เหล็ก - มาตรการสกัดรถตู้ขนสินค้าพม่าเข้าแม่สายสกัดโควิดกลายเป็นคำสั่งหยิกเล็บเจ็บเนื้อส่อกระทบการค้า..หลังพม่าห้ามไทยขับเข้าท่าขี้เหล็ก แถมจำกัดรถข้ามแดนได้แค่วันละ 6 คัน
วันนี้ (16 ก.ย.) นายอูมิ้น ไหน่ ผู้ว่าการ จ.ท่าขี้เหล็ก, นายซาน เมี่ยซอ นายอำเภอท่าขี้เหล็ก ได้เรียกประชุมเจ้าหน้าที่ด่านศุลกากร ด่านตรวจคนเข้าเมือง (ตม.) และหน่วยงานด้านทหาร ตัวแทนภาคเอกชนในท่าขี้เหล็ก เพื่อหารือกรณีจังหวัดเชียงราย คณะกรรมการโรคติดต่อ จ.เชียงราย ออกประกาศฉบับที่ 22 ไม่อนุญาตให้ชาวพม่าขับรถตู้ข้ามมาจาก จ.ท่าขี้เหล็ก เข้าขนสินค้าถึงโกดังต่างๆ โดยกำหนดให้เปลี่ยนคนขับเป็นคนไทยที่ด่านพรมแดนสะพานมิตรภาพไทย-พม่า ข้ามลำน้ำสายแห่งที่ 2 ก่อน รวมทั้งกำหนดให้รถตู้จากประเทศพม่าข้ามฝั่งเข้าแม่สายได้ 168 คันนั้น
น.ส.ผกายมาศ เวียร์รา รองประธานหอการค้า จ.เชียงราย และประธานหอการค้า อ.แม่สาย กล่าวว่า ได้รับแจ้งว่าทางฝ่ายพม่าต้องการให้มีความยุติธรรมกันทั้งสองฝ่าย จึงกำหนดให้รถบรรทุกสินค้าจากไทยที่จะข้ามพรมแดนต้องเปลี่ยนคนขับเป็นชาวพม่าก่อนเข้าไปขนส่งสินค้าในท่าขี้เหล็กเช่นกัน
นอกจากนี้ยังกำหนดให้รถป้ายทะเบียนไทยทุกประเภทเข้าไปใน จ.ท่าขี้เหล็กได้เพียงวันละ 6 คันเท่านั้น ส่วนรถป้ายทะเบียนพม่าก็จะอนุญาตให้ข้ามฝั่งมาได้เพียง 6 คันเช่นกัน
ทั้งนี้ เป็นที่รับรู้กันว่ารถยนต์ตู้ที่วิ่งรับส่งสินค้าข้ามแดนแม่สาย-ท่าขี้เหล็ก ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมานั้น ส่วนใหญ่เป็นรถที่ติดป้ายทะเบียนไทยเกือบทั้งหมด มีรถที่ติดป้ายทะเบียนพม่าอยู่เพียง 6 คันเท่านั้น
ขณะที่ด่านศุลกากรแม่สายแจ้งว่า แม้ว่าไทย-พม่าจะปิดด่านพรมแดนป้องกันไวรัสโควิด-19 ตั้งแต่ปลายเดือน มี.ค.เป็นต้นมา แต่ที่ผ่านมาจนถึงปัจจุบันทั้งสองฝ่ายก็มีการเปิดใช้สะพานมิตรภาพไทย-พม่า ข้ามลำน้ำสายแห่งที่ 2 เพื่อขนส่งสินค้าระหว่างกันอยู่
แต่ในปีงบประมาณ 63 การค้าผ่านชายแดน อ.แม่สาย-ท่าขี้เหล็ก ก็มีมูลค่ารวม 12,244,019,935.60 บาท แยกเป็นมูลลค่าส่งออก 10,803,646,550.06 บาท นำเข้า 1,440,373,385.54 บาท มีการขนสินค้าระหว่างกันด้วยรถยนต์ตู้วันละประมาณ 200 คัน แต่ละคันขนวันละ 2-3 เที่ยว